กลับไปตีสนิทกับ ‘ป้าตือ’ สมัยกำลังโตเป็นสาวสะพรึงแห่งยุค 80s

ชายผู้ที่ไม่ยอมให้เราเรียกว่าพี่ แต่ให้เรียกเขาว่า ‘ป้าตือ’ – สมบัษร ถิระสาโรช คนนี้ บอกกับเราว่า ช่วงยุค 1980s นอกจากจะเป็นเวลาที่เขาเติบโตและออกไปใช้ชีวิตอย่างเต็มเหนี่ยวแล้ว ในระหว่างที่นั่งคุยกันถึงเรื่องราวในยุคดิสโก้เฟื่องฟูนี้ เราจะได้เห็นรอยยิ้ม และบุคลิกที่แตกต่างซึ่งไม่เหมือนกับป้าตือที่เราเคยเห็นในโทรทัศน์เลยแม้แต่น้อย คงเป็นเพราะการพูดคุยกันในวันนั้นของเราคงเป็นเหมือนการคืนความสุขในวันวานให้กับเขาอีกครั้ง

 

ตอนนั้นคนที่เก๋จริงหรือสาวเปรี้ยวต้องเต้นดิสโก้เป็น กลางคืนก็เข้าไปที่คลับซึ่งอยู่ในตัวเมืองลำปาง บางคืนก็ไปเต้นที่เชียงใหม่ พอวันศุกร์ก็นั่งรถทัวร์มากรุงเทพฯ เพื่อมาเต้นรำที่เดอะพาเลซ เรียกว่าชีวิตตอนนั้นสะพรึงมาก

ป้าตือ 80s

80s ในความทรงจำของป้าตือ  

ยุค 80s เป็นยุคของเราเลย ตอนนั้นเราขอใช้คำว่า ‘โตเป็นสาวสะพรึง’ เป็นช่วงเวลาที่เรามีความสุข เราเริ่มหัดฟังเพลงสากล เลิกเรียนก็ต้องไปซ้อมเต้นดิสโก้ก่อนไปเรียนพิเศษ ต้องถือวิทยุมาที่โรงเรียน ตอนนั้นคนที่เก๋จริงหรือสาวเปรี้ยวต้องเต้นดิสโก้เป็น กลางคืนก็เข้าไปที่คลับซึ่งอยู่ในตัวเมืองลำปาง บางคืนก็ไปเต้นที่เชียงใหม่ พอวันศุกร์ก็นั่งรถทัวร์มากรุงเทพฯ เพื่อมาเต้นรำที่เดอะพาเลซ วันอาทิตย์แวะซื้อเสื้อใหม่แล้วก็กลับ ถึงลำปางตอนเช้าก็แต่งตัวไปเรียน เราถึงเรียกว่าชีวิตตอนนั้นสะพรึงมาก สมัยนั้นเสื้อผ้าสำเร็จรูปสวยๆ ก็ไม่มี ต้องสั่งตัดจากห้องเสื้อเท่านั้น จะสั่งซื้อจากต่างประเทศก็ต้องใช้เวลา และมีราคาแพง คนสมัยนั้นจึงนิยมตัดเสื้อตามร้านบูติกต่างๆ ที่มีเยอะมากเพื่อความเก๋ ยุค 80s จึงเป็นยุคที่สนุกมาก

ป้าตือ 80s

ชีวิตชาว 80s

เราไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีอินเทอร์เน็ต เวลานัดหมายกันต้องโทร.เข้าโทรศัพท์บ้านหรือโทรศัพท์สาธารณะ บางทีโทร.ไปหาแล้วไม่เจอ ก็ต้องฝากฝังคนที่บ้านเขาให้โทร.กลับมา คนสมัยนั้นจึงเป็นคนที่ตรงเวลาพอสมควร เพราะต้องมานั่งรอรับโทรศัพท์ สยามคือจุดนัดพบของวัยรุ่นในยุคนั้น แล้วก็เฉียดๆ มาเดินห้างไทยไดมารูบ้าง ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับเซ็นทรัลเวิลด์ในปัจจุบัน การจราจรก็ค่อนข้างสะดวกเพราะรถไม่ได้ติดมากมายแบบตอนนี้ และการมีกล้องโพลารอยด์สำหรับเราคือเรื่องที่พีคมาก

80s เป็นยุคที่ใครแต่งตัวยังไงก็ได้ ผู้หญิงแต่งตัวเป็นผู้ชาย หรือผู้ชายแต่งตัวเป็นผู้หญิงก็ได้ ไม่มีคำว่าผิด แต่พอกลับมาดูตัวเองในตอนนั้นเห็นเลยว่าแต่งตัวได้ผิดไปหมด ต้องขีดกากบาทให้ตัวเองเลย ซึ่งกากบาทกับอุบาทว์สำหรับเรานั้นใกล้กันนิดเดียวเอง (หัวเราะ)

 

80s ยุคแห่งแฟชั่นและเสียงดนตรี

สมัยก่อนเพลงจะมีอิทธิพลกับแฟชั่นมาก การแต่งตัวก็จะเปลี่ยนไปตามความนิยมของเพลง พอดิสโก้เริ่มซา ดนตรีพังก์ร็อกเข้ามา การแต่งตัวก็จะดาร์กขึ้น กิจกรรมที่วัยรุ่นชอบทำกันคือการเล่นโรลเลอร์สเกต ซึ่งจัดขึ้นในห้างสรรพสินค้าบ้าง หรือตามโรงหนังที่กลางวันก็จัดเป็นลานโรลเลอร์สเกต ส่วนตอนเย็นถึงค่อยฉายหนัง เป็นช่วงที่เกิดการทดลองอะไรใหม่ๆ ทั้งในด้านของวงการแฟชั่นและวงการเพลง

พอช่วงปลายยุค 80s บ้านเราเริ่มตามทันเมืองนอกแล้ว มีดีไซเนอร์เก่งๆ หลายคนที่จบจากเมืองนอกกลับมาอยู่เมืองไทย ก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างสนุกขึ้น ซึ่งยุค 80s เป็นยุคที่ใครแต่งตัวยังไงก็ได้ ผู้หญิงแต่งตัวเป็นผู้ชาย หรือผู้ชายแต่งตัวเป็นผู้หญิงก็ได้ ไม่มีคำว่าผิด เราก็แต่งตัวในสไตล์ของตัวเอง เอาแฟชั่นยุค 60s มาใส่ เอาอันนั้นอันนี้มาเติมเยอะแยะไปหมด แต่พอกลับมาดูตัวเองในตอนนั้นเห็นเลยว่าแต่งตัวได้ผิดไปหมด ต้องขีดกากบาทให้ตัวเองเลย ซึ่งกากบาทกับอุบาทว์สำหรับเรานั้นใกล้กันนิดเดียวเอง (หัวเราะ)

ป้าตือ 80s

โมเมนต์เด็ด 80s

เหตุการณ์สำคัญของเราคือ การมาของมาดอนนาในฐานะนักร้องหญิงที่แหวกขนบทุกอย่าง มีการเอาเรื่องศาสนามาเล่นในเพลง ซึ่งเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นและสนุกมาก เรายกให้ผู้หญิงคนนี้เป็นเทพของเรา ความกล้าหาญของนางเป็นการปลดปล่อยให้กับคนในยุคนั้นได้เหมือนกัน

และเราเป็นคนที่ติดเที่ยวมาก เราเที่ยวทุกคืนจนอายุ 41 ถึงหยุด ตอนนั้นต่อให้ฝนตกน้ำท่วมขึ้นมาเป็นเมตรเราก็ต้องไปสีลมซอย 2 ช่วงที่เกิดการปฏิวัติ มีเคอร์ฟิวว่าห้ามออกจากบ้านหลังสี่ทุ่ม เราก็หาทางออกให้ได้ (น้ำเสียงจริงจัง) และตอนนั้นบ้านเรายังไม่มีเจลใส่ผม เวลาไปเที่ยวเราต้องใช้สบู่ก้อนมาเซตให้ผมตั้ง นวัตกรรมความสวยในสมัยนั้นมีน้อยมาก เขียนตาดำ และก็เฉดแก้มให้เฉี่ยวให้เหมือนกับ เกรซ โจนส์ นางแบบชื่อดังในตอนนั้น

ป้าตือ 80s

80s forever!

การลงทุนสำหรับเราในตอนนั้นคือการใช้ชีวิต ซึ่งเป็นความสนุกอย่างถึงที่สุดแล้ว เที่ยวเสร็จก็นั่งรถกับหนุ่มๆ ขึ้นทางด่วนวิภาวดี ซึ่งเป็นทางด่วนแรกของกรุงเทพฯ ขับรถไปต่อกันที่บางปู ซึ่งเป็นสถานที่ที่คนเก๋ๆ ฮิปๆ ต้องไปกัน ไปถึงก็มโนว่าอยู่แฮมป์ตันที่เมืองแมนฮัตตัน (หัวเราะ) ซึ่งช็อตฟินที่สุดของแต๋วสมัยนั้นคือไปกับผู้ชาย ไปเพื่อยืนจับมือแล้วดูนกนางนวล แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปดูเพื่ออะไร แล้วก็ขึ้นจอว่าสวัสดี ปิดจบ เป็นความทรงจำที่ดีที่ไม่อยากให้กลับมา เพราะถ้าบรรยากาศแบบนั้นกลับมาตอนนี้ก็คงไม่เหมือน และไม่สนุกแล้ว เราเชื่อว่าแต่ละยุคเป็นเรื่องของใครของมัน ความสนุกของยุคนั้นกับยุคนี้ก็ต่างกันอยู่แล้ว

ป้าตือ 80s
ภาพ: SpokeDark TV

ภาพ: วงศกร ยี่ดวง, SpokeDark TV

 


คุยกับ ‘สวีทนุช’ ถึงอดีตอันหอมหวานในยุค 60s

ท่องไปในยุค 70s กับ สุนทร สุจริตฉันท์ แห่งวงรอยัลสไปรท์ส

นั่งไทม์แมชชีนย้อนไปยุค 90s กับ ‘จีน’ – กษิดิศ สำเนียง