อาหารญี่ปุ่นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของใครต่อใครกันแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพนั้น อาหารญี่ปุ่นแทบจะวางใจได้เลยว่ามีสารอาหารที่มีประโยชน์ กินแล้วไม่ค่อยอ้วน เพราะในแต่ละเมนูจะมีผักเป็นส่วนประกอบหลักอยู่เสมอ ต่อให้ฟาดจนพุงปลิ้น แคลอรีที่ร่างกายรับเข้าไปนั้นก็ไม่มากเท่าไหร่ (ยังเบิร์นออกได้ไหวอยู่)
ข้อดีอีกอย่างของอาหารญี่ปุ่นคือเป็นเมนูที่ถ่ายรูปออกมาได้สวยงาม และรสชาติที่ไม่จัดมาก (ถ้าคุณไม่ป้ายวาซาบิลงไปทั้งก้อน) ดังนั้น จึงเป็นอาหารที่ใครก็กินได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ และตอนนี้เราก็มีวิธีทำอาหารญี่ปุ่นง่ายๆ จากเชฟ ยามาโมโตะ มาซามิสึ ที่บินตรงมาจากเกาะฮอกไกโด เพื่อให้เราจัดการกับของในตู้เย็นให้กลายเป็นเมนูที่คุณอวดใครต่อใครได้โดยไม่ยุ่งยาก
สลัดรากบัวคินปิระและสลัดผัก
ออร์เดิร์ฟและเมนูสำหรับสาย healthy ที่แท้ เพราะส่วนผสมในจานนี้จะประกอบไปด้วยผักปลัง (ใช้ผักโขมแทนได้), ผักไควาเระ (ต้นอ่อนหัวไชเท้าหรือจะใช้ต้นอ่อนผักบุ้งแทนก็ได้), มะเขือเทศลูกเล็ก, ถั่วลันเตา, ต้นอ่อนทานตะวัน และแครอต โดยใช้หัวไชเท้ามาตกแต่งจาน ซึ่งเชฟมาซามิสึแอบบอกเคล็ดลับในการจัดจานกับเราว่า “วางผักให้เป็นภูเขา แล้วเพิ่มรสชาติด้วยคินปิระรากบัว นั่นคือการนำเอารากบัวมาสไลซ์บางๆ แล้วนำไปผัดกับน้ำมันงา เติมน้ำส้มสายชูญี่ปุ่น น้ำสะอาด มิริน โชยุ และน้ำตาลเล็กน้อย ก็ยกเสิร์ฟได้แล้ว”
แซลมอนสลัดโรล
เมนูเด็ดที่ใครก็รักเพราะทั้งอร่อยจากความสดของเนื้อแซลมอน และความหอมนุ่มของข้าวที่หุงเสร็จใหม่ๆ แถมยังสนุกไปกับการม้วนเสื่อทำซูชิโรล โดยเริ่มจากนำแผ่นสาหร่ายมาวางบนเสื่อห่อซูชิ แล้วตักข้าวเกลี่ยลงบนแผ่นสาหร่าย ซึ่งตอนแรกเราก็ทำอย่างตะกุกตะกัก จนเชฟมาบอกว่าเคล็ดลับที่ทำให้ข้าวแผ่ตัวสวยและทำให้สาหร่ายไม่ฉีกขาดคือการใช้นิ้วมือสามนิ้วในการเกลี่ยข้าวไปให้ทั่วแผ่นสาหร่าย จากนั้นนำผักกาดหอม หัวหอมใหญ่สไลซ์ สาหร่าย หัวไชเท้าดอง แตงกวา ไบโอบะ มายองเนสมิโสะพอนสึ และเหยาะซอสพริกลงไปเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ม้วนเสื่อห่อซูชิช้าๆ แต่ไม่ต้องออกแรงกดเพราะจะทำให้ไส้ซูชิโรลทะลักออกมา เสร็จแล้วเอาปลายมีดไปจุ่มน้ำเล็กน้อย จะทำให้การหั่นแซลมอนสลัดโรลง่ายขึ้น
ไก่ย่างซอสเทริยากิและเครื่องเทศซังโช
เมนูที่ทำให้ท้องร้องโครกครากตั้งแต่เชฟมาซามิสึนำไก่ส่วนสะโพกที่หมักไว้กับสาเก, มิริน และโชยุ ออกมาย่างบนกระทะ โดยวางด้านที่เป็นหนังไก่ลงไปบนกระทะ ปรุงรสด้วยซอสเทริยากิ แล้วกลับด้านไปมาประมาณ 3 รอบ จนเนื้อไก่สุกดี เมนูนี้เชฟมาซามิสึให้เราเข้าไปทำถึงในครัวจริงของทางร้าน โดยมีเชฟผู้ช่วยคอยให้คำแนะนำ และช่วยคุมการปรุงอย่างใกล้ชิด เมื่อไก่สุกก็ส่งกลิ่นให้หิวโหยจนเราแทบจะหยิบกินทันที แต่เชฟได้ห้ามเราไว้แล้วบอกให้ปรุงรสด้วยซอสเทริยากิอีกครั้งก่อน ซึ่งวิธีทำซอสเทริยากิ ก็นำน้ำที่เหลือจากน้ำหมักไก่มาปรุงด้วยน้ำตาล หัวหอมบด ละลายแป้งมันใส่ลงไปเพื่อเพิ่มความข้น โรยผงเครื่องเทศซันโช เม็ดพริกไทย ต้นหอมญี่ปุ่นหั่นฝอย แล้วจัดจานเสิร์ฟพร้อมกับผักและเห็ดย่าง ทีนี้ก็โซ้ยกันได้เลย