โลกของงานออกแบบและศิลปะ มักจะถูกตีความอย่างจำกัดว่าเป็นโลกที่เข้าถึงยากเหมาะสำหรับคนมีพรสวรรค์ และให้คุณค่าแค่ความสวยงามเท่านั้น
แต่จริงๆ แล้วคำว่า ‘ดีไซน์’ มีมิติที่ลึกซึ้งมากไปกว่านั้น เพราะหลายๆ สิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกทั้งที่เราอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว มีจุดตั้งต้นเกิดขึ้นจากการดีไซน์ทั้งนั้น ภายใต้รูปลักษณ์ที่สวยงามและการตั้งใจผลิตเฟอร์นิเจอร์สักชิ้นหรือเสื้อผ้าสักชุดหนึ่ง มีการคิดค้นออกแบบเพื่อตอบโจทย์ แก้ปัญหา รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบางสิ่งบางอย่าง ส่วนความงามและสุนทรียศาสตร์คือสิ่งประกอบสร้างให้งานดีไซน์ชิ้นหนึ่งสมบูรณ์
เราอยากจะพาคุณไปรู้จักโลกของการดีไซน์ให้มากขึ้นที่ สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ (CIDI Chanapatana) ห้องเรียนออกแบบที่มีจุดกำเนิดใต้เจดีย์วัด แต่ผลักดันดีไซเนอร์ไทยสู่ระดับสากลมาเกือบ 20 ปี โดยสถาบันแห่งนี้มีจุดเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2543 จากแนวคิดของหลวงพ่อ วิริยังค์ สิรินฺธโร เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล ซึ่งมีความหวังและต้องการยกระดับงานออกแบบของคนไทย ด้วยการยกหลักสูตรการเรียนการสอนที่ครบครันและสภาพแวดล้อมระดับสากลจากประเทศอิตาลีมาไว้ที่ประเทศไทย ซึ่งห้องเรียนแรกของสถาบันแห่งนี้ เกิดขึ้นใต้เจดีย์ของวัดธรรมมงคลนั่นเอง ก่อนจะขยับขยายเติบโตมาเป็นอาคารรูปลักษณ์ทันสมัยในปัจจุบัน
ลองไปเรียนรู้ประสบการณ์การเรียนการสอนจากทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน ว่าที่นี่เปลี่ยนมุมมองที่พวกเขามีต่องานดีไซน์ไปอย่างไร
“
แฟชั่นดีไซเนอร์ที่ดีต้องรับฟังคนอื่นด้วย ต้องมองจุดมุ่งหมายก่อนว่าเราไม่ได้ทำเพื่อให้ตัวเองพอใจอย่างเดียว แต่เราทำเพื่อตอบสนองลูกค้า เราต้องรู้จักฟัง รู้จักสังเกตมากขึ้น เพื่อนำมาพัฒนางานของตัวเอง
”
‘ไอด้า’ – ไอรดา ศิริวุฒิคุณ
นักแสดง / นางแบบ
ศิษย์ปัจจุบันสาขา Fashion Design รุ่นที่ 18
จากนักเรียนวิศวกรรมศาสตร์ที่เคยคิดว่าการเรียนการสอนในห้องเรียนสี่เหลี่ยมๆ จะเป็นการตีกรอบความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง เธอมาเผยประสบการณ์การเรียนออกแบบในมุมใหม่ ที่ทำให้เธอมองโลกงานดีไซน์ต่างไปจากที่เคย
Designing your way
ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบแฟชั่น ชอบการแต่งตัวอยู่แล้ว จนวันหนึ่งได้มีโอกาสมางาน Open House ของ CIDI Chanapatana ซึ่งที่นี่มีจุดหนึ่งเลยที่ทำให้เราประทับใจ คือบอกว่าคนที่มาเรียนไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานด้านศิลปะมาก่อน ซึ่งตัวเราเองก็เรียนวิศวกรรมศาสตร์มา ไม่ได้เรียนศิลปะ ก็เลยรู้สึกสนใจ เพราะว่าเรียนแค่ 2 ปีเองด้วย
ตอนปริญญาตรีเราไม่มีความคิดอยากเรียนแฟชั่นดีไซน์เลย อาจเป็นความคิดเด็กๆ ด้วยแหละ เรารู้สึกว่าของแบบนี้มันไม่จำเป็นต้องเรียน เรากลัวว่าไปเรียนแล้วจะเป็นการตีกรอบให้ความคิดสร้างสรรค์ของเราแคบลง แต่ตอนนี้เหมือนเราโตขึ้นแล้ว และยิ่งได้มาฟังบรรยายที่งาน Open House ก็ได้รู้ว่างานหลายๆ อย่างจะขึ้นอยู่กับพื้นฐานของนักเรียนแต่ละคน ไม่ได้มีการมาตีกรอบว่าคนนี้ต้องเป็นแบบไหน ซึ่งใครชอบแบบไหนก็แตกออกไปในทางของตัวเอง เราเลยรู้สึกว่าน่าสนใจ
The Meaning of design
ก่อนหน้านี้เราไม่ได้เข้าใจความหมายของแฟชั่นดีไซน์ดีขนาดนั้น พอมาเรียนทำให้เราเห็นมากขึ้นว่าแฟชั่นไม่ใช่เรื่องของการดีไซน์อย่างเดียว แต่มีองค์ประกอบอื่นๆ มากมาย งานดีไซน์เป็นเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคน บวกกับการขวนขวายหาข้อมูลความรู้ให้ตัวเอง เราต้องเปิดใจให้กว้าง ต้องยอมที่จะไม่ยึดติดอยู่กับความชอบของตัวเองอย่างเดียว
ก่อนจะมาเรียนที่นี่ต้องยอมรับว่าเราเป็นคนมีอีโก้ในเรื่องนี้พอสมควร สิ่งที่ฉันชอบต้องดี แต่จริงๆ แล้วการเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ที่ดีต้องรับฟังคนอื่นด้วย ต้องมองจุดมุ่งหมายก่อนว่าเราไม่ได้ทำเพื่อให้ตัวเองพอใจอย่างเดียว แต่เราทำเพื่อตอบสนองลูกค้า เราต้องรู้จักฟัง รู้จักสังเกตมากขึ้น เพื่อนำมาพัฒนางานของตัวเอง
Lifelong learning
การเรียนการสอนที่นี่ไม่มีการตีกรอบเลย เราอยากจะทำอะไรเขาก็ปล่อยให้ทำ เพียงแต่ว่าอาจารย์ก็จะดูตามความถนัดของเด็กแต่ละคน อย่างคนนี้อินเรื่องนี้และน่าจะไปได้ดีทางนี้เป็นพิเศษ เขาก็จะแนะนำให้ไปในทางที่เราจะเป็น เพราะฉะนั้น แต่ละคนก็จะมีคาแร็กเตอร์ไม่เหมือนกัน และทำให้เราเห็นตัวเองชัดเจนขึ้น บวกกับบรรยากาศการเรียนการสอนที่ทำให้เราแฮปปี้มาก ได้เจอเพื่อนๆ ที่มีช่วงอายุค่อนข้างหลากหลาย มีน้องอายุตั้งแต่ 17 18 19 มีคนอายุ 30 35 ก็มี หรือโตกว่านั้นก็มี ไปจนถึงอายุ 50 กว่าเลย ซึ่งทำให้เราได้อะไรหลายๆ อย่างนอกจากการเรียนแฟชั่น เหมือนเราได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์อื่นกับเพื่อนหลายๆ วัย ที่สำคัญ ที่นี่ยังจับมือกับมหาวิทยาลัยที่โดดเด่นด้านการออกแบบในหลายๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อิตาลี ฝรั่งเศส เม็กซิโก อินเดีย เยอะมาก คือเราสามารถเลือกเพื่อจะไปเรียนต่อได้
Good Design Can Change Your Life
เรามองงานดีไซน์ต่างจากเดิมเยอะ เมื่อก่อนเราไม่ได้คิดหรือให้คุณค่ามันขนาดนั้น มองว่าก็แค่คิดเอง แต่พอมาจึงเรียนได้รู้เลยว่าไม่ใช่แค่คิด แต่ว่าต้องคิดและเปลี่ยนให้กลายเป็นความจริงด้วย พอเรามาลงมือทำเองก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ทำให้เราหันมาอุดหนุนแบรนด์ไทยมากขึ้น เรารู้สึกว่าฝีมือคนไทยไม่แพ้ใคร เพียงแต่อาจจะไม่ได้รับการสนับสนุนเพียงพอ และคนไทยให้ค่างานดีไซน์ของคนไทยด้วยกันเองน้อยไปนิดหนึ่ง
“
คำว่าดีไซน์สำหรับเราก่อนมาเรียนที่นี่ เรารู้สึกเหมือนว่าต้องเป็นอะไรที่หลุดโลก เยอะๆ เวอร์ๆ แต่พอเรามาเรียนที่นี่มุมมองกับคำว่าดีไซน์ก็เปลี่ยนไป ดีไซน์กลายเป็นการแก้ปัญหา ไม่ต้องเยอะ ไม่ต้องเวอร์ แต่ขอให้ตรงจุดและมีประโยชน์ แต่ก็ต้องมีความสวยงามในตัวด้วย
”
‘ป็อป’ – ศิรินุช คีตะนิธินันท์ และ ‘จอย’ – กิตติมา ฉัตรเฉลิมวิทย์
ผู้ก่อตั้งแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ Eggwhite
ศิษย์เก่าสาขา Interior & Product Design รุ่นที่ 12
สองศิษย์เก่าเจ้าของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ ที่นำไอเดียมาบวกกับฟังก์ชันและค้นหาความยั่งยืนได้อย่างลงตัว ซึ่งพวกเขาทั้งสองชวนคุณมารู้จักสิ่งสำคัญของงานออกแบบที่ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ต้องตอบโจทย์และมีประโยชน์
Designing your way
จอย: คอนเซ็ปต์ของแบรนด์เรามีอยู่ 3 คำค่ะ คือ Design Function และก็ Sustain คือแน่นอนว่าคนจะเลือกเฟอร์นิเจอร์จาก design แต่ว่าเราก็ไม่ลืมเรื่อง function เพราะว่าผลงานหนึ่งชิ้นเราจะพัฒนาให้สามารถใช้งานได้มากกว่าหนึ่งอย่าง เช่น โต๊ะที่เปิดได้สามทาง ตู้ติดกำแพงที่ใช้พื้นที่แนวตั้ง และสุดท้าย sustain สินค้าทุกชิ้นของแบรนด์ Eggwhite ทำมาจากไม้ยางพาราเป็นหลัก เพราะว่าเราอยากใช้วัตถุดิบในประเทศมาต่อยอดให้มีมูลค่า
ป็อป: ตัวของ Eggwhite มันคือความชอบของเรา อย่างเราชอบทุกอย่างที่มีฟังก์ชัน ของทุกอย่างต้องมีมากกว่าหนึ่งฟังก์ชัน ส่วนจอยก็จะเข้ามาเติมในเรื่องของสไตล์ ออกแบบเรื่องความสวยงามและภาพรวมทั้งหมดของสินค้า ทุกอย่างก็ค่อยๆ พัฒนามาแบบนั้น ซึ่งก็มีทั้งเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน อย่างสินค้าชิ้นแรกของแบรนด์เราก็เป็นธีสิสจบจากที่นี่ ชื่อ Matchbox working table โต๊ะทำงานรูปกล่องไม้ขีด คอนเซ็ปต์ของงานก็คือทำงานทุกงานให้เป็นงานอดิเรก
The Meaning of design
ป็อป: คำว่าดีไซน์สำหรับเราก่อนมาเรียนที่นี่ เรารู้สึกเหมือนว่าต้องเป็นอะไรที่หลุดโลก เยอะๆ เวอร์ๆ แต่พอเรามาเรียน มุมมองกับคำว่าดีไซน์ของเราก็เปลี่ยนไป ดีไซน์กลายเป็นการแก้ปัญหา ไม่ต้องเยอะ ไม่ต้องเวอร์ แต่ขอให้ตรงจุดและมีประโยชน์ แต่ก็ต้องมีความสวยงามในตัวด้วยนะ และพอเราเรียนไปลึกๆ จริงๆ เรารู้เลยว่าทุกอย่างคืองานดีไซน์ ทุกอย่างผ่านการคิดมาแล้ว
จอย: คิดคล้ายๆ กัน คือก่อนหน้านี้คิดว่างานดีไซน์ต้องเน้นรูปร่าง เน้นความสวยงาม ไม่ต้องคิดเรื่องฟังก์ชันการใช้งานมากนัก แต่พอมาเรียนอาจารย์เขาก็จะสอนตั้งแต่พื้นฐาน ไม่ได้บอกว่าทำให้สวยแล้วจบ แต่เราต้องคิดก่อนว่าคอนเซ็ปต์คืออะไร ต้องการจะตอบโจทย์และแก้ปัญหาจุดไหน ทำให้เราคิดว่างานดีไซน์มันมีมากกว่าแค่ความสวยงาม และคำว่าดีก็ขึ้นอยู่กับว่าใครตั้งคำถาม
Lifelong learning
จอย: การเรียนที่นี่ค่อนข้างสนุก เพราะว่าทั้งอาจารย์และผู้ช่วยสอนนั้นค่อยแนะนำและสอนเราทุกขั้นตอน เขาค่อนข้างรับฟังและไม่ได้มองว่าเราไม่มีพื้นฐาน แต่เขาเปิดรับว่าทุกๆ คนมีประสบการณ์ชีวิตที่ค่อนข้างแตกต่างกัน และเอามาใช้ต่อยอดกับงานดีไซน์ บวกกับเพื่อนในห้องเรียนที่ค่อนข้างสนับสนุนกันมาก จะมีทั้งเพื่อนที่มีพื้นฐานอยู่แล้ว กับคนที่ไม่มีพื้นฐานเลย ก็จะช่วยกันตลอด เป็นประสบการณ์ดีๆ ทั้งในเรื่องเรียนและประสบการณ์ภายในห้อง
หลักสูตรของที่นี่ใช้เวลาเรียน 2 ปี อาทิตย์ละ 2 วัน ก็จะสอนจากพื้นฐาน ตั้งแต่ขีดเส้นยังไงให้ตรงโดยไม่ต้องใช้ไม้บรรทัด ทำอย่างไรให้เส้นขนานกัน การคิดคอนเซ็ปต์ เพราะว่าทุกๆ ชิ้นงานต้องมีคอนเซ็ปต์เพื่อให้งานแข็งแรง จนถึงปีสองก็มีการสอนลงลึกพวกการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ อย่าง AutoCAD การขึ้น 3D การเอาเครื่องมือต่างๆ มาใช้งานจริง ซึ่งเป็นการย่อหลักสูตร 5 ปีที่ต้องเรียนในมหาวิทยาลัย มาเป็นการเรียนการสอน 2 ปีในเวลาพาร์ตไทม์
Good Design Can Change Your Life
จอย: การเรียนที่นี่เปลี่ยนทั้งวิธีคิดและการใช้ชีวิตของเราไปเลย จากเมื่อก่อนไปเที่ยวก็คือเที่ยว แต่เดี๋ยวนี้ไปเที่ยวทุกที่คืองาน ไปดูว่าโต๊ะของที่นี่สวยจัง การใช้วัตถุดิบที่แตกต่างมาทำ ทุกที่ที่ไปเราสามารถเอามาใช้เป็นทรัพยากรในการออกแบบได้หมดเลย
สำหรับจอยคิดว่าถ้าชอบและอยากทำอะไรเกี่ยวกับงานดีไซน์ อย่าไปกลัว ทุกคนมีก้าวแรกเสมอ อย่างน้อยสุดท้ายคุณก็ประสบความสำเร็จในก้าวแรกแล้ว ทุกๆ ขั้นตอนของการทำงานและการใช้ชีวิตมันมีความสำเร็จในนั้นอยู่แล้ว ลองมาเรียนดู อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าคุณชอบหรือไม่ชอบอะไร มันคือสิ่งที่คุณต้องการหรือเปล่า ไม่ต้องกลัวความล้มเหลว เพราะอย่างน้อยคุณก็จะได้ไม่ต้องมาติดใจว่าทำไมตอนนั้นคุณถึงไม่ได้ทำ
ป็อป: CIDI Chanapatana เหมาะสำหรับคนที่อยากเริ่มเดินในสายศิลปะ เพราะที่นี่ไม่เรียกร้องวุฒิการศึกษาอะไรเลย จบอะไรมาก็สามารถเรียนได้ จะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถเริ่มต้นที่นี่ได้หมด เป็นที่ที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้น และนอกจากจะเริ่มต้นก้าวแรกแล้วยังได้มิตรภาพที่ดีจากที่นี่ด้วย
“
เราพูดอยู่เสมอว่าความงามของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และที่นี่เราไม่พยายามให้ทุกคนวาดเส้นตรงเป็นเส้นตรงแบบเดียวกัน
”
เกษตร น้อยพิทักษ์
รองผู้อำนวยการ สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ (CIDI Chanapatana)
ไปรู้จักที่มาที่ไปและเป้าหมายที่แท้จริงของสถาบันออกแบบแห่งนี้ ว่าสิ่งใดเป็นความเชื่อและแรงผลักดันที่ทำให้ห้องเรียนออกแบบที่มีจุดกำเนิดใต้เจดีย์วัด สามารถผลักดันดีไซเนอร์ไทยสู่ระดับสากลมาได้เกือบ 20 ปี
Starting point
จุดเริ่มต้นของ CIDI Chanapatana อาจจะฟังดูแปลกสักนิดหนึ่งนะครับ เพราะที่นี่ก่อตั้งขึ้นจากหลวงพ่อ วิริยังค์ สิรินฺธโร เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล ซึ่งตอนนี้ท่านมีอายุ 99 ปีแล้ว ซึ่งท่านเริ่มต้นสร้างโรงเรียนแห่งนี้ขึ้นมาในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่อยากพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย
ตัดภาพย้อนกลับไปเมื่อปี 40 ต้องบอกว่าประเทศไทยนั้นภูมิใจกับการส่งออกสินค้าเกษตรอย่างเดียว ซึ่งราคาของผลผลิตขึ้นอยู่กับราคาของตลาด ท่านเลยคิดว่าคนไทยหลายๆ คน หรือโรงงานของคนไทยก็ผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ระดับโลกมากมาย ทำไมคนไทยไม่ผลิตสินค้าที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง คนไทยทำได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ท่านคิดว่าทำอย่างไรให้คนไทยสามารถสร้างสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มได้ จึงตัดสินใจว่างั้นเราเอาระบบโรงเรียนสอนดีไซน์ของฝรั่งมาสอนในเมืองไทยดีกว่า แล้วที่ไหนคือที่สุดด้านการออกแบบ ท่านเลยบินไปจับมือกับโรงเรียนสอนดีไซน์ที่อิตาลี และพาอาจารย์ทั้งชุดมาสอนที่เมืองไทย เริ่มต้นกันที่วัดธรรมมงคล ห้องเรียนก็อยู่ภายใต้พระมหาเจดีย์ แล้วขยายมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งก็เข้าปีที่ 19 แล้ว
Vision and Aims
สิ่งที่เราเชื่อมั่นคือคนไทยมีศักยภาพ คนไทยทำได้ คนไทยสามารถเป็นเจ้าของแบรนด์ระดับโลกได้ อันนี้เป็นมุมมองที่เราเชื่อว่าต้องผลักดันคนไทย สร้างเม็ดเงิน นำเงินจากต่างชาติกลับมาที่ประเทศไทย และเราเปิดโอกาสให้ทุกคน ที่นี่บอกว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานการออกแบบ ขอแค่มีใจรักด้านการออกแบบก็สามารถเข้ามาเรียนได้เลย
สำหรับคนที่ยังมีความกล้าๆ กลัวๆ เรื่องงานออกแบบ อาจจะคิดว่าเป็นงานเฉพาะกลุ่มของคนที่มีความเป็นอาร์ทิสต์ ต้องให้คุณลองเปิดประตูของตัวเองและก้าวมาที่ CIDI Chanapatana ดู ที่นี่เปิดกว้างสำหรับทุกคน เราพร้อมที่จะผลักดันให้ทุกคนไปสู่ระดับนานาชาติ นี่เป็นเป้าหมายสูงสุดของสถาบัน เราพูดอยู่เสมอว่าความงามของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และที่นี่เราจะไม่พยายามให้ทุกคนวาดเส้นตรงเป็นเส้นตรงแบบเดียวกัน เพราะทุกคนมีบุคลิกและลักษณะไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เราจะพยายามทำให้ทุกคนดึงศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างสูงสุด
มาดูผลงานของศิษย์เก่า-ปัจจุบัน และการเรียนการสอนของอาจารย์ทั้งสาขาวิชา Fashion Design และ Interior & Product Design ได้ที่งาน CIDI Chanapatana Open House สนใจร่วมงานสามารถลงทะเบียนได้ฟรีที่ http://bit.ly/2VX3Lra
รายละเอียดเพิ่มเติม
Facebook: Chanapatana International Design Institute
Website: www.chanapatana.com
Tel.: (+66) 2741-3717-8
E-mail: [email protected]