รู้หรือไม่?… คนไข้โรคไตระยะสุดท้ายต้องใช้น้ำยาล้างไตราวๆ 8 ถุงต่อวัน ทำให้ถุงน้ำยาล้างไตกลายเป็นขยะที่ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้จำนวนมหาศาลต่อปี
ด้วยเหตุนี้ แพทย์และอาสาสมัครที่โรงพยาบาลน่าน จึงร่วมมือกับ ‘เต้’ – วิภาวัส ดาราพงศ์สถาพร ดีไซเนอร์สาวเจ้าของแบรนด์กระเป๋า TA.THA.TA สร้างสรรค์ Kiddee Project แบรนด์กระเป๋าสะพายสุดคูล ที่ใช้วัสดุหลักจากถุงน้ำยาล้างไตมาผนวกกับดีไซน์เท่ๆ จนเกิดเป็นโปรดักต์เพื่อสังคมที่ดูเก๋ มีสไตล์ ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และได้ช่วยเหลือผู้อื่นไปด้วยพร้อมๆ กัน
FROM USED DIALYSIS BAGS…
จุดเริ่มต้นคือ หมอและพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยโรคไตในโรงพยาบาลน่าน เล็งเห็นว่าขยะที่มาจากถุงน้ำยาล้างไตนั้นมีเยอะมาก ซึ่งทั้งหมดเป็นขยะที่นำไปรีไซเคิลไม่ได้ เขาจึงเริ่มนำมาตัดเย็บเป็นผ้ากันเปื้อน เป็นกางเกง เป็นถุงผ้า โดยใช้แค่ถุงน้ำยาล้างไตอย่างเดียว ตอนนั้นเราทำแบรนด์ TA.THA.TA อยู่แล้ว พี่ชายเราที่เป็นหมออยู่ที่นั่นก็เลยส่งรูปมาให้ดูว่ามันน่าจะเอาไปออกแบบให้เป็นสินค้าที่สวยกว่านี้ได้
KIDNEY – KIDDEE…
เมื่อเห็นข้อเสนอจากพี่ชาย เรารีบตอบตกลงเลย แต่ตอนนั้นเราคิดว่าการจะสร้างแบรนด์นี้ขึ้นมาได้ อย่างแรกคือเราต้องสื่อสารให้ผู้คนเข้าใจก่อนว่ากระเป๋านี้ทำมาจากถุงน้ำยาล้างไตนะ มันนำมาใช้ซ้ำได้ และไม่ได้น่ากลัวหรือสกปรกอย่างที่หลายคนคิด ยิ่งเมื่อผ่านการออกแบบแล้ว รูปทรงก็จะยิ่งสวยงามและน่าใช้งานมากขึ้น เราจึงทำเป็นอินโฟกราฟิก และสร้างเรื่องราวของ Kiddee Project ขึ้นมา โดยชื่อนี้มาจากคำว่า kidney ที่แปลว่า ไต และยังพ้องเสียงกับภาษาไทยด้วย
STRONG & DURABLE…
กระบวนการล้างไตจำเป็นต้องใช้ถุงน้ำยาล้างไต 2 แบบ คือถุงที่ใส่น้ำยาล้างไตสะอาด กับถุงที่ใส่น้ำที่ผ่านการล้างไตแล้วของผู้ป่วย โดยเราได้นำถุงที่ใส่น้ำยาล้างไตสะอาดและไม่ได้ผ่านเชื้อโรคของผู้ป่วยกลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งคุณสมบัติของมันคือ ถ้ามันใส่น้ำยาอยู่ ต่อให้ตกลงมาจากตึก 10 ชั้นมันก็จะไม่แตก เพราะฉะนั้น มันจึงมีความเหนียวและทนทานมาก เหมาะกับการนำมาทำเป็นกระเป๋า
THE UPCYCLED PROCESS…
กระบวนการผลิตของเราเริ่มต้นตั้งแต่คนไข้เลย เพราะหลังจากที่คนไข้ใช้ถุงน้ำยาเสร็จแล้ว แพทย์ที่โรงพยาบาลก็จะสอนเขาว่าต้องเอาไปตัดยังไงต่อ จากนั้นก็จะล้างทำความสะอาด ผึ่งแดด โดยทางโรงพยาบาลก็จะรับซื้อจากคนไข้เป็นกิโลกรัม แล้วค่อยส่งไปหน่วยรีไซเคิล เพื่อคัดกรองและทำความสะอาดอีกครั้ง ก่อนจะส่งไปที่โรงงานผลิตกระเป๋าในจังหวัดตาก
BAG TO BASIC…
ตอนนี้เรามีกระเป๋าทั้งหมด 9 แบบ ซึ่งมาจาก 3 คอลเล็กชัน คอลเล็กชันละ 3 แบบ โดยเราทำทุกรุ่นออกมาเป็นลิมิเต็ดเอดิชันทั้งหมด ถ้าหมดแล้วคือหมดเลย รอติดตามแบบใหม่อย่างเดียว เพราะเราอยากให้คนที่ใช้รู้สึกว่ากระเป๋าใบนี้มีความพิเศษ ส่วนดีไซน์จะเน้นที่ความเรียบง่าย และแมตช์ได้กับทุกชุดในชีวิตประจำวัน มีสีหลักๆ คือ น้ำเงิน ครีม ขาว และดำ เพราะกลุ่มเป้าหมายของเรามักเป็นคนอายุ 20 ปีขึ้นไป เลยไม่ได้ทำสีสดใสแบบวัยรุ่นมากเท่าไหร่นัก
THE ‘RIGHT’ PRICE…
ราคาของกระเป๋ามีตั้งแต่ใบละ 450 บาท ไปจนถึงหลักพัน โดยเรานำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายไปมอบให้โรงพยาบาลน่าน ซึ่งเขาก็อาจนำไปส่งต่อให้ผู้ป่วยโรคไตที่ขาดแคลน หรือโรงพยาบาลอื่นๆ ต่อไป เหตุผลที่เราตั้งราคาเท่านี้เพราะการที่จะทำให้คนรู้สึกว่าของชิ้นนี้มันใช้ได้ดีจริงๆ ราคาต้องเป็นตัวกำหนดคุณภาพของสินค้าในระดับหนึ่ง เราจะขายให้ถูกไปเลยก็ได้ แต่มันไม่ได้ทำให้เกิดการสร้างแบรนด์ และอาจทำให้ผู้ซื้อไม่รู้สึกว่าเงินของเขาได้กลับไปช่วยผู้ป่วยจริงๆ
SOCIAL ENTERPRISE…
เราไม่ได้ใช้แผนการโฆษณาอะไรที่ซับซ้อน เพราะเมื่อมันเป็นธุรกิจช่วยเหลือสังคม คนไทยก็จะช่วยกันแชร์เยอะอยู่แล้ว อีกอย่างคือแบรนด์เราเข้าใจง่ายมาก เหมือนคนซื้อก็รู้เจตนาของเราดี ในเพจเราก็มีการทำอินโฟกราฟิก อัพเดตข้อมูลการบริจาคอยู่เรื่อยๆ ทำให้คนให้ความสนใจและช่วยสนับสนุน แม้ว่าจะเป็นแบรนด์เล็กๆ ที่ไม่ต้องใช้ต้นทุนอะไรมาก แต่ตั้งแต่ที่เราเริ่มทำโครงการมา ก็มีเงินเข้ามาหมุนเวียนช่วยเหลือเป็นหลักล้านเหมือนกัน
THE NEXT MOVE…
เมื่อก่อนมีคนมาถามเราบ่อยเหมือนกันว่า มันใช้ได้จริงไหม มันสะอาดไหม แต่พอใช้ไปแล้วทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันทนมาก แล้วไม่รู้สึกว่าสกปรกเลย ต่อจากนี้เราเลยคิดว่าจะทำโปรเจ็กต์นี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะขยะจากถุงน้ำยาล้างไตมันเพิ่มขึ้นเยอะมาก แล้วก็พยายามคุยกับโรงพยาบาลเพื่อหาแนวทางอื่นๆ ในการรีไซเคิลเศษเล็กๆ น้อยๆ ที่เหลือจากการผลิตกระเป๋า รวมทั้งนำเงินจากการขายไปช่วยเหลือชุมชนในต่างจังหวัดและช่วยเหลือผู้ป่วยตามบ้านมากขึ้น
แวะไปเยี่ยมชมหน้าร้านของ ‘คิดดี โปรเจ็กต์’ กันได้ที่โรงพยาบาลน่าน
หรือสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ทาง www.facebook.com/Kiddeeproject.Thailand