เวลาผ่านไปแถวสามย่าน ผมมักจะนึกถึงร้านหมง
มันเป็นร้านอาหารตามสั่งตั้งอยู่ในตึกแถวเก่าๆ ตรงบริเวณที่ตอนนี้กลายเป็นตึกจามจุรีสแควร์ไปแล้ว สมัยที่ยังเป็นนิสิตอยู่ชั้นปีแรก แต่ละวันที่พวกเรามามหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะมาเรียนหรือแค่มานั่งเล่นก็ตาม จะผ่านพ้นไปอย่างสมบูรณ์แบบไม่ได้ ถ้าไม่ได้ยกโขยงกันมาปิดท้ายวันด้วยมื้อเย็นแบบเต็มสูตรที่ร้านนี้
สั่งกับข้าวกันคนละอย่างสองอย่าง ต้มยำไก่ ไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบ ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ฯลฯ และเมนูที่ขาดไม่ได้เลยคือไข่ระเบิด ที่พวกเราเล่าลือกันว่าร้านนี้คือต้นกำเนิด แต่ก็ไม่รู้ข้อเท็จจริงที่แน่ชัด มันไม่ใช่เมนูพิสดารพันลึกอะไรหรอก ก็แค่ไข่ดาวทอดกรอบสองสามใบ ไข่แดงยังเยิ้มเป็นยางมะตูม โปะหน้าด้วยหมูสับผัดแห้งๆ ออกรสเค็มเผ็ดเหมือนผัดกะเพรา พอทำเสร็จใหม่ๆ ก็นำมาวางแหมะลงบนโต๊ะ พร้อมกับข้าวสวยโถใหญ่ เด็กผู้ชายหิวโซก็รุมทึ้งมันจนหมดเกลี้ยงไปภายในพริบตา
ละแวกนั้นตอนช่วงปี พ.ศ. 2530 ต้นๆ ยังมีในตึกแถวซอมซ่อทรุดโทรมมากมาย มีชาวบ้านอาศัยอยู่และใช้เปิดเป็นร้านอาหารเล็กๆ ด้านข้างคณะของเรามีประตูเหล็กบานเล็กๆ ใช้เป็นช่องทางให้นิสิตสัญจรเข้าออกเพื่อไปเดินเล่นหาของกินได้ตลอดวัน ร้านหมงนั้นถือว่าเด็ดสุด เปรียบเหมือนศูนย์กลางของจักรวาล โดยร้านอื่นๆ นอกนั้นยังมีร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว ข้าวหมูแดง สารพัดสารพันจนแต่ละวันเลือกสรรได้ไม่หมดไม่สิ้น มีร้านบะหมี่เกี๊ยวร้านหนึ่งที่เสียดายผมจำชื่อร้านไม่ได้ จำได้เพียงเอกลักษณ์ของร้านนี้คือมีชั้นสองเป็นห้องแอร์ ถ้าจะขึ้นไปนั่งกินก็ต้องเสียค่าแอร์คนละบาท เกี๊ยวหมูสับของร้านนี้ลูกใหญ่บิ๊กเบิ้ม รสชาติกลมกล่อมหอมรากผักชีพริกไทย แทบไม่ต่างจากขนมจีบในเหลาชั้นดี ยิ่งถ้าสั่งเป็ดย่างสับโปะหน้าลงไปพร้อมราดด้วยน้ำเป็ดให้พอขลุกขลิก มันจะเป็นมื้อกลางวันที่หรูหราที่สุดสำหรับผมในช่วงวัยนั้น
นี่ยังไม่นับรวมว่าถ้าข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้าม ละแวกนั้นก็เป็นอีกจักรวาลหนึ่งซึ่งมีร้านโจ๊กและร้านข้าวขาหมูชื่อดังประชันกันอยู่เป็นสองศูนย์กลาง แซมด้วยร้านข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง เต้าฮวย เฉาก๊วย และก๋วยเตี๋ยวอีกนานา ในเช้าวันสอบไล่ที่เพิ่งตะลุยอ่านหนังสือตลอดคืนจนถึงเช้าแต่ก็ยังไม่จบ ยามนั้นไม่มีอะไรจะช่วยเยียวยาจิตใจได้ดีไปกว่าโจ๊กหมูสับตับพิเศษ ใส่ไข่ลวกขอใบที่สุกๆ หน่อย สาดพริกน้ำส้มลงไปสองช้อน โรยพริกไทย เหยาะซีอิ๊ว แกะซองปาท่องโก๋ตัวเล็กทอดกรอบเกรียมลงไปคลุก เท่านี้ก็ปลุกประสาทให้ตื่นตัวเตรียมพร้อม ถึงแม้ว่าในใจจะลนลานจนจำเนื้อหาที่เรียนมาไม่ได้เลย อีกสักพักก็มีเพื่อนร่วมชั้นปีเดินเข้าร้านมา เอ่ยปากทักทายแล้วก็ปรับทุกข์ว่าอ่านหนังสือยังไม่จบเหมือนกัน ก้มหน้าก้มตากินแล้วก็แยกย้ายกันไปเข้าห้องสอบ พอประกาศผลสอบออกมาก็เป็นไปตามคาด คะแนนของเรานั้นเละเป็นโจ๊ก ในขณะที่มันได้เอหรือบี พร้อมกับทำหน้าเขินๆ ว่านี่ขนาดทำไม่ค่อยได้นะเนี่ย
ตึกตลาดสามย่านเก่ากลายเป็นสถานที่ก่อสร้างสามย่านมิตรทาวน์ ตึกตลาดสามย่านใหม่ในตอนนี้ลักษณะคล้ายๆ ของเดิม ย้ายมาตั้งอยู่หลังสนามจุ๊บ ชั้นล่างเป็นตลาดสดมีกลิ่นคาวคละคลุ้ง ส่วนชั้นบนยังมีร้านอาหารราคาเป็นมิตรภาพกับเด็กนิสิตเหมือนเดิม เมนูที่โปรดตั้งแต่เด็กยันแก่ ไม่ใช่สเต๊กหรือสปาเกตตีจานใหญ่ยักษ์ แต่ผมชอบสั่งหมื่นลี้ราดข้าว เพื่อนต่างรุ่นต่างมหาวิทยาลัยมักจะแปลกใจกับชื่อเมนูว่าหมื่นลี้ จริงๆ มันไม่ใช่อะไรเลย ก็แค่ผัดเผ็ดวุ้นเส้น ใส่ผักและเนื้อสัตว์อะไรก็ได้ หมู หมึก กุ้ง ไก่ ใส่น้ำมันน้ำพริกเผาสีแดงฉานและมันเยิ้ม รสออกหวานเค็มเผ็ด เหมาะสำหรับราดขลุกขลิกลงบนไข่เจียวธรรมดาๆ กินกับพริกมะนาวน้ำปลาและข้าวสวยร้อนๆ ชื่อหมื่นลี้มีตำนานเล่าลือว่ามาจากชื่อภัตตาคารอาหารจีนย่านปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของเมนูนี้ แต่ผมก็ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์มายืนยัน
ครั้งล่าสุดที่ไปตลาดสามย่าน หมื่นลี้รสชาติหวานเจี๊ยบเหมือนกินขนม แม่ครัวพ่อครัวคงจะเปลี่ยนรุ่น เจ้าของร้านบนนั้นก็คงเปลี่ยนมือกันไปหมดแล้ว ด้านข้างตึกตลาดเป็นลานขนาดมหึมาเอาไว้เป็นที่จอดรถเก็บค่าจอดรายชั่วโมง ถัดไปอีกหน่อยกลายเป็นตึกคอมมูนิตี้มอลล์น้อยใหญ่ตั้งตระหง่านสลับกับลานจอดรถ ทอดไกลออกไปจนเวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตา ในคอมมูนิตี้มอลล์มีร้านอาหารหรูหรานานาชาติ ร้านกาแฟชื่อดัง โรงเรียนสอนพิเศษ ร้านบอร์ดเกม โคเวิร์กกิ้งสเปซทันสมัย
การใช้ที่ดินเปลี่ยนแปลงไป วิถีชีวิตผู้คนก็เปลี่ยนแปลงตาม ผมสังเกตเห็นร้านอาหารเก่าแก่หลายร้านยังคงอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนมือไปสู่คนรุ่นลูกหลาน โยกย้ายพิกัดไปจากเดิม แทรกตัวอยู่ในตึกแถวเก่าๆ เท่าที่ยังพอเหลืออยู่ และค่าเช่าไม่แพงไปกว่าเดิมมากนัก พยายามจะมีชีวิตรอดอยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงสู่ความทันสมัย
บางร้านไปปรากฏตัวอีกครั้งในแอพพลิเคชันสั่งอาหารผ่านมือถือ รสมือยังคงสืบสานต่อไปด้วยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพราะทุกวันนี้รถติดเสียเวลากว่าจะไปไหนมาไหนก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง ไม่มีใครอยากเดินทางมายังพิกัดที่ตั้งของร้านอีกแล้ว
ในขณะที่บางร้านไปปรากฏตัวอยู่ในเว็บรีวิวร้านอาหาร กลายเป็นร้านหรือเมนูในตำนาน คนหนุ่มสาวรุ่นนี้เรียกมันว่าเป็นฮิดเดนเพลซ ฮิดเดนเจ็ม เป็นเพชรเม็ดงามในสถานที่เร้นลับ ที่ชีวิตนี้จะต้องออกเดินทางสืบเสาะแสวงหาไปชิมให้ได้สักครั้ง พอไปถึงก็ต้องรอคิวหน้าร้านนานเป็นชั่วโมงๆ
ยิ่งความเป็นเมืองพัฒนาไป ยิ่งราคาที่ดินไต่ระดับสูงขึ้นไป การเดินชิลๆ ไปหาของกินธรรมดาๆ ในละแวกใกล้ๆ กลายเป็นเรื่องที่แทบจะทำได้ยากขึ้นทุกวัน