เมอโซเป็นคนต่างจังหวัด เดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาเพื่อเยี่ยมแม่ที่ป่วยหนักใกล้ตาย นอนอยู่ที่โรงพยาบาล
เขาไม่กดเช็กอินสถานที่โรงพยาบาล ไม่โพสต์สเตตัสอาลัยอาวรณ์ และเขาปฏิเสธนางพยาบาลที่เสนอว่าจะช่วยถ่ายภาพคู่ของเขากับแม่ที่นอนบนเตียงเพื่ออัพภาพใส่อินสตาแกรม
หลังจากที่แม่สิ้นใจไป เขารีบนั่งรถไฟฟ้าไปสยามพารากอน เพื่อซื้อปากกาด้ามหนึ่งมาใช้เซ็นใบเอกสารต่างๆ ของทางโรงพยาบาล และแวะซื้อกาแฟลาเต้เย็นแก้วหนึ่งดื่มเพื่อดับกระหาย
ระหว่างทางกลับ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเล่น กดไลก์ภาพของแฟนสาวที่กำลังไปเที่ยวชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ และกดไลก์สเตตัสของเพื่อนที่พร่ำบ่นเรื่องการเมือง แล้วก็พลันสังเกตว่ามีคนกำลังแอบมองและถ่ายภาพเขาอยู่
เขาถามว่าแอบถ่ายภาพของเขาไปทำไม คนคนนั้นแสยะยิ้มแล้วบอกว่ามนุษย์ลุงที่แซงคิวขึ้นรถไฟฟ้า แถมยังเข้ามาในขบวนรถแล้วยืนพิงเสา จะต้องถูกถ่ายภาพไปประจาน เขาไม่รู้ว่านั่นหมายความว่าอะไร
อากาศร้อนในเดือนเมษายนทำให้เขาหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม พอรู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงคนกรีดร้อง เขาเห็นปากกาหมึกซึมในมือของเขาที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ปักอยู่บนอกของคนที่แอบถ่ายภาพเขาคนนั้น
ประตูรถไฟฟ้าเปิดออก พนักงานรักษาความปลอดภัยพุ่งเข้ามาชาร์จตัวเขาทันที
อีกไม่นานต่อมา เขาพยายามอธิบายให้ศาลฟัง ว่าเขาไม่ได้รู้สึกโกรธที่ถูกแอบถ่าย และไม่เข้าใจความหมายเมื่อถูกเรียกว่ามนุษย์ลุง เขาแค่รู้สึกหงุดหงิดกับอากาศร้อน และเผอิญเป็นลมหน้ามืดล้มไปทับชายคนนั้น
พยานและเหตุการณ์แวดล้อมทั้งหมดทำให้เขาดูเหมือนฆาตกรใจโหด พยาบาลบอกว่าเขาอกตัญญู ไม่รักแม่ ผู้คนบนรถไฟฟ้าบอกว่าเขาเป็นมนุษย์ลุงมารยาททราม เฟรนด์ในเฟซบุ๊กของเขามีแต่พวกหัวรุนแรงทางการเมือง และแฟนสาวของเขาเป็นผู้หญิงแพศยา ชอบถ่ายภาพเซลฟีวาบหวิวโชว์ในอินสตาแกรมตลอดเวลา
แถมอาวุธที่เขาใช้ฆ่าคนนั้นก็เหี้ยมโหดผิดมนุษย์มนา เพราะปากกาหมึกซึมแท่งนั้นเป็นรุ่นลิมิตเต็ดเอดิชันที่ควรจะเก็บไว้เป็นของสะสมและถ่ายรูปอวดกัน ไม่น่าจะนำออกมาใช้งาน
ผู้คนในโลกออนไลน์ช่วยกันขุดข้อมูลส่วนตัวของเขาออกมาประจาน สาปแช่งเขา และนำภาพของเขามาตัดต่อดัดแปลงให้กลายเป็นมุกตลกต่างๆ นานาเต็มโซเชียลมีเดีย แล้วผู้คนเรียกร้องให้ศาลตัดสินประหารชีวิตเขาในฐานะของฆาตกรใจทราม
ในตอนเย็นวันนั้น พิธีกรรายการข่าวยอดนิยมทางทีวี ต้องเอาข่าวนี้มาอ่านในช่วงแชร์ออฟเดอะเดย์
จนวันรุ่งขึ้นก็ไม่มีใครสนใจแล้ว เพราะทุกคนหันไปสนใจข่าวนักกีฬาเทควันโดสาวทะเลาะกับโค้ชผู้เข้มงวด ทุกคนแสดงความเห็นตรงกันว่าเรื่องนี้เด็กสาวทำไม่ถูก และทุกคนเข้าข้างโค้ช พวกเด็กเจเนอเรชันวายนี่ช่างไร้ระเบียบวินัย ไร้ความอดทน
หมายเหตุ: บทความจากเฟซบุ๊กส่วนตัว ปี 2015