การเล่าเรื่อง

‘การเล่าเรื่อง’ พรสวรรค์ของมนุษย์ตั้งแต่อดีตกาล ทักษะในการสร้างจักรวาลเรื่องเล่าด้วยเสียงเราเอง

“The universe isn’t made of atoms, but stories” — จักรวาลไม่ได้ถูกสร้างขึ้นด้วยอะตอม หากถูกสร้างขึ้นด้วยเรื่องราว

หนังสือ In Search of Lost Time นวนิยาย ผลงานอมตะของมาร์แซล พรูสต์ (Marcel Proust) ที่ราวกับใช้นวนิยายไขปัญหาอภิปรัชญา เกี่ยวกับการดำรงอยู่ ความทรงจำ และกาลเวลาที่แสดงให้เห็นว่าจักรวาลที่เห็นและเป็นในกรอบความคิดของเรา รวมไปถึงความเป็นตัวตนที่เราต่างพยายามทำความเข้าใจนั้นไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าผลรวมของ ‘เรื่องเล่า’ มากมายที่คนอื่นเล่าขานกันมา บอกเล่าเกี่ยวกับเรา และที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องเล่าที่เราจดจำเกี่ยวกับตัวเราเอง

     ‘การเล่าเรื่อง’ คำยอดฮิตอีกคำหนึ่งประจำศตวรรษที่ 21 ในการเป็นเครื่องมือทรงพลัง และเป็นหนึ่งในทักษะสำคัญแห่งศตวรรษ ทักษะการเล่าเรื่องในการเปลี่ยนข้อมูล ข้อเท็จจริง ให้กลายเป็นเรื่องราวที่มีชีวิต ให้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการได้ฟังเรื่องราวนั้นเป็นกุญแจไขทลายประตูกั้นขวางความต่างของเรื่องราวที่เราต่างเผชิญ และให้กลับมาเจอกันด้วยอารมณ์ขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ที่เราต่างมีร่วมกัน จนเกิดกลายเป็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่า-ผู้ฟัง เกิดความเห็นอกเห็นใจ เกิดความเข้าใจผ่านเรื่องเล่าที่เชื่อมเรากันไว้

     ในยุคที่เราต่างหาวิธีอยู่รอดจากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การเล่าเรื่องดูจะกลายเป็นวิธีหนึ่งที่ดึงความเป็นมนุษย์กลับมา กลายเป็นเครื่องมือที่เชื่อว่าจะทำให้มนุษย์นั้นแตกต่างจากหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ทั้งหลายที่ไม่สามารถพัฒนาความซับซ้อนทางอารมณ์ได้เท่ากับที่ธรรมชาติสร้างมนุษย์มา

     การเล่าเรื่องค่อยๆ ถูกทำให้กลายเป็นเครื่องมือ เป็นทักษะในการสร้างตัวตนให้องค์กร ให้สินค้าต่างๆ จนเราเกือบลืมกันไปว่าแท้จริงแล้ว การเล่าเรื่องนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์เราปฏิบัติกันมาโดยตลอด และเป็นวิธีการที่เราสร้างตัวตน สร้างจักรวาลการรับรู้ของเราขึ้นมาผ่านเรื่องราวที่เราเล่าขานซ้ำๆ ให้ตัวเอง

 

     ครั้งหนึ่ง เพื่อนแอฟริกันเคยเล่านิทานคลาสสิกในหมู่บ้านของเธอให้ฟัง นิทานพื้นบ้านเรียบง่าย เรื่องมีเพียงสิงโตออกไล่ล่ากวาง นิทานจบลงง่ายดายด้วยการที่สิงโตเป็นผู้คว้าชัยชนะ ส่วนกวางน้อยนั้นกลายเป็นผู้ถูกล่า ต้องสละร่างให้สิงโตไปแม้จะออกแรงวิ่งสุดกำลังชีวิตของกวาง แต่ก็ยังสู้อะไรไม่ได้กับพลังของสิงโตที่เพียงแต่ก้าวย่างออกเดิน

     พล็อตเรื่องง่ายๆที่ดูจะไม่มีอะไรน่าจดจำ จนกระทั่งเพื่อนหันมาถามว่า ‘รู้สึกอย่างไรกับนิทานเรื่องนี้’

     เพื่อนยิ้มเมื่อได้ฟังคำตอบ เขาสังเกตว่ามุมที่คนคนหนึ่งเลือกจะให้ความสนใจเกี่ยวกับนิทานเรื่องนี้ดูจะสะท้อนตัวตนคนนั้นได้ บางคนชื่นชมสิงโตในความเก่งกล้าเป็นเจ้าป่า บางคนมองว่าเป็นการพึ่งพาอาศัยกัน บางคนสงสารกวางที่กลายเป็นเหยื่อ และบางคนเปรียบเทียบชีวิตตนกับกวางตัวนั้น ที่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไร ก็จะถูกสัตว์ที่ใหญ่กว่าไล่ล่าและต้องกลายเป็นเหยื่ออยู่เรื่อยไป

     หลายครั้งที่เราตั้งคำถามอย่างตัดพ้อว่าทำไมเหตุการณ์บางอย่างถึงเกิดขึ้นกับชีวิตเรา มองเผินๆ เหตุการณ์เหล่านั้นล้วนขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกที่เหนือการควบคุมในการจะให้มันเกิดหรือไม่เกิด แต่ในขณะเดียวกัน ธรรมชาติก็ดูจะให้ความสามารถบางอย่างขึ้นมาในการเปลี่ยนแปลงทิศทางและท่าทีของเราที่มีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นได้ด้วยการเล่าเรื่องให้ผู้ฟังคนสำคัญตัวเรานั่นเอง

 

     ‘Narrative intelligence’ ความฉลาดในการเล่าเรื่องดูจะไม่ได้เป็นเพียงทักษะที่ช่วยเราให้รอดในการทำงานในยุคสมัยนี้ แต่มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พูดถึงความฉลาดด้านนี้ในการช่วยให้คนคนหนึ่งก้าวผ่านช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดของชีวิต หรือแม้กระทั่งช่วยเยียวยาบาดแผลของผู้รอดชีวิต หรือครอบครัวของเหยื่อที่เสียชีวิตในค่ายกักกันนาซี ที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเหตุการณ์เหล่านั้นต้องถูกบันทึกไว้ แต่ในขณะที่โลกพยายามจดจำความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในทุกรายละเอียดที่จะทำให้แน่ใจได้ว่าประวัติศาสตร์นั้นจะไม่ซ้ำรอยอีก มันคือความสามารถ คืออิสรภาพที่ทุกชีวิตมีในการเล่าเรื่องใหม่ให้ตัวเองจดจำ ไม่ใช่เพื่อลืมเลือน หากเพื่อปลดปล่อยตนเองจากอดีตที่จองจำ ด้วยการเล่าเรื่องใหม่ผ่านเสียงของเขาที่จะเป็นเสียงนำทางชีวิตข้างหน้าของเขาเอง

     ‘การเล่าเรื่อง’ ทักษะที่ผู้คนให้ความสนใจกันมากขึ้นในความเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในยุคที่โลกหมุนเร็วกว่าที่เคยเป็น หากความจริงแล้ว การเล่าเรื่องไม่ได้เป็นเพียงทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานเท่านั้น หากจำเป็นต่อการมีชีวิตอยู่อย่างมีความหมาย อย่างมีอิสรภาพต่อชีวิตของเราเหนือเหตุการณ์นอกความควบคุมใดๆ และไม่ได้เป็นเพียงทักษะที่จำเป็นในยุคอนาคตนี้เพื่อที่จะให้แน่ใจว่าเราจะไม่ถูกแทนที่โดยหุ่นยนต์ที่เราเองเป็นผู้สร้างขึ้นมาได้ หากมันคงมีเหตุผลที่ความสามารถในการเล่าเรื่องเป็นสิ่งที่ถูกฝังติดตัวกับมนุษย์มาตั้งแต่อดีตกาล เพื่อเป็นพลังบางอย่างให้มนุษย์สามารถกำหนดลิขิตเส้นทางของตนเอง ในโลกที่เหตุการณ์ต่างๆดูจะล้วนขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกที่เหนือการควบคุม

 

     ให้พรสวรรค์แห่งการเล่าเรื่องที่เราได้รับอย่างเท่าเทียม เปลี่ยนจักรวาลของเราให้ประกอบไปด้วยเรื่องราวที่เราเล่าขานด้วยเสียงของเราเอง