เกณฑ์ดูคน

Love Actually | เกณฑ์ไว้ดูคน เจอะแบบนี้จะได้คบกันนานๆ

ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากได้ของไม่ดี ฉะนั้น หลายคนจึงหาวิธีช่วยให้ตัวเองตัดสินใจเลือกอะไรก็ตามได้ดีขึ้น เช่นเดียวกับคู่ครอง ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากมาเสียใจทีหลังว่า ตัวเองเลือกคู่ครองผิดคน

     มันเลยเกิดหลักคิดเรื่องการดูคนเยอะแยะมากมาย เช่น ดูว่าเขาเป็นคนกตัญญูรู้คุณคนหรือไม่ หรือถ้าเป็นทางพุทธศาสนาก็มีเกณฑ์ 4 ข้อ คือ ศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา เสมอกัน แต่ทีนี้หลายคนอาจมองว่ามันกว้างไปหน่อย อยากได้หลักง่ายๆ และเกี่ยวกับความสัมพันธ์ตรงๆ เลย ในบทความนี้เลยนำมาฝากกัน 4 ข้อ เป็นเกณฑ์ไว้ดูคน เจอแบบนี้จะได้คบกันนานๆ

 

1. เขามีเป้าหมายชีวิตคล้ายคุณหรือไม่?

     จะคบกันทำไมถึงต้องมีเป้าหมายชีวิตคล้ายกัน เหตุผลก็เพราะการมีเป้าหมายชีวิตหรือไม่มีเป้าหมายชีวิตส่งผลต่อพฤติกรรมและความคิดต่างๆ ของคนคนนั้น เช่น ถ้าเขามีเป้าหมายอยากประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานระดับดาวสิบล้านดวง แถมด้วยว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องความรักมากนัก ก็ขอให้คิดเลยว่า ถ้าคุณคบกับคนแบบนี้ เขาจะบ้างานมากและไม่ค่อยมาใส่ใจคุณ ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่ติดแฟนประมาณหนึ่ง ก็ต้องทำใจว่าอาจมีปัญหาตามมา แต่ถ้าคุณเป็นคนบ้างานพอกัน แบบนี้ก็อาจพอไหว เพราะพื้นฐานต่างฝ่ายต่างเห็นอะไรตรงกัน

     นอกจากนี้คำว่า ‘เป้าหมายชีวิต’ ยังรวมไปถึงศรัทธาทางความเชื่อและศาสนา โดยเฉพาะคนที่อินมากๆ เพราะอย่าลืมว่าความเชื่อทางศาสนานับเป็นแก่นทางความคิดหนึ่ง เช่น ถ้าฝ่ายหนึ่งเชื่อเรื่องพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นวิธีคิด วิธีมองชีวิต วิธีตัดสินใจ หรือการใช้ชีวิตก็จะอิงกับพระเจ้า ซึ่งถ้าแฟนไม่เข้าใจ ก็ทำให้ทะเลาะกันได้ ถ้าเป็นหลักทางพุทธเรียกว่า มีศรัทธาเสมอกันนั่นเอง

 

2. เขามีความรักต่อคนอื่นมากแค่ไหน?

     เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์แบบคู่รัก คนมักคิดว่าเป็นเรื่องของคนสองคน แต่จริงๆ ไม่มีความสัมพันธ์ไหนที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับคนอื่น เพราะอย่างน้อยก็ต้องมีเพื่อนฝูงหรือครอบครัวของสองฝ่ายเกี่ยวข้องแน่ๆ ฉะนั้น เรื่องหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดในการสังเกตว่าที่คู่ครองคือ เขามีความรักต่อคนอื่นมากแค่ไหน

     เพราะถ้าเขาเป็นคนจิตใจดี มีเมตตาต่อผู้อื่น ก็เป็นไปได้มากว่าเขาจะเป็นคนที่แคร์ใจคุณ เพราะเขาสามารถแคร์คนอื่นได้ก่อนตัวเอง ในทำนองเดียวกัน เขาก็น่าจะยอมปรับตัวให้เข้ากับครอบครัวหรือเพื่อนของเราได้ดีกว่าคนที่ไม่ยอมใคร

     อย่างวิธีหนึ่งที่หลายคนใช้สังเกตว่าที่คู่ครองว่าเป็นคน (สันดาน) อย่างไร คือ ดูว่าวิธีที่เขาใช้ปฏิบัติกับคนที่อยู่ระดับล่างกว่า เพื่อจะได้รู้ว่าเขาเหยียดคนอื่นหรือเปล่า ไม่เห็นหัวคนไหม หรือเป็นคนถ่อมตน ใจดีกับผู้อื่น ซึ่งถ้าเลือกได้ สำหรับคนที่ให้เกียรติคนอื่น ก็คงรับไม่ได้ถ้ามีคู่ครองนิสัยที่ตรงข้ามกับตัวเอง

 

3. เขาจัดการอารมณ์โกรธตัวเองอย่างไร?

     คุณรู้หรือไม่ว่าสาเหตุการบาดเจ็บที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ประสบนั้นเกิดจากความรุนแรงของคนในครอบครัว ฉะนั้น เรื่องที่คุณ (โดยเฉพาะคุณผู้หญิง) ไม่ควรมองข้ามเลยในการดูคนคือ คนคนนั้นจัดการอารมณ์โกรธตัวเองอย่างไร ถ้าคุณรู้มาว่าเขาเคยใช้ความรุนแรง เคยทำร้ายร่างกายคนอื่นหรือแฟนเก่ามาก่อน ก็อย่าได้คิดว่าพอเขามาคบกับคุณ นิสัยเหล่านั้นจะหายไป เพราะตอนคนโกรธ ส่วนใหญ่ก็ขาดสติควบคุมตัวเองกันทั้งนั้น จึงเป็นไปได้มากว่าคุณจะถูกทำร้ายได้เช่นกัน

     นอกจากนี้ ความรุนแรงไม่ได้มีแค่ทางร่างกาย (Physical Abuse) เท่านั้น เพราะบางคนทำร้ายคนด้วยคำพูด (Verbal Abuse) เช่น ใช้คำพูดหยาบคายด่าทอ ใช้คำพูดถากถางทำร้ายความรู้สึก หรือบางคนทำร้ายคนทางอารมณ์ (Emotional Abuse) เช่น เพิกเฉย เย็นชา แสดงปฏิกิริยาดูถูกดูแคลน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความรุนแรงที่แม้ไม่ทำให้ร่างกายบาดเจ็บ แต่ก็ทรมานไปทั้งหัวใจ

     ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงผู้ชายหรือเพศสภาพใดก็ตาม ต้องดูให้ดีว่าคนคนนั้นจัดการอารมณ์โกรธได้ดีแค่ไหน และในกรณีที่แย่สุด เช่น เวลาเขาโกรธมาก เขามีสิทธิ์ทำร้ายคุณได้รุนแรงแค่ไหน ถ้าคุณประเมินแล้วว่าเกินขีดที่คุณรับได้ ก็จงเดินออกมาเถอะ เพราะนี่คือสัญญาณเตือนคุณก่อนเข้าสู่ขุมนรกแล้วล่ะ

 

4. เขามีภาวะทางอารมณ์ที่ดีหรือไม่

     คงไม่มีใครหรอกที่ชอบอยู่กับคนที่อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ซึ่งความผีเข้าผีออกที่เห็นได้ชัด เช่น นึกจะหายก็หายไปไม่บอกกล่าว หรือบางคนมีความซับซ้อนทางอารมณ์ คิดมาก ตัดสินใจทำอะไรที่คาดเดาไม่ได้ เป็นต้น ในกรณีแบบนี้ ถ้าช่วงเริ่มต้นบางคนอาจมองว่าบุคลิกดูน่าค้นหาดี แต่ในระยะยาว ความสวิงไปมาของเขาจะส่งผลกระทบต่อใจของคุณแน่นอน

     เพราะขึ้นชื่อว่าความสัมพันธ์ สิ่งที่เป็นเหมือนกาวทำให้มั่นคงคือ ‘ความเชื่อใจ’ และการที่คุณต้องอยู่กับคนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ สุดท้ายไม่ว่ายังไงก็จะบั่นทอนความเชื่อใจอยู่ดี เหมือนกรณีของเพื่อนคนหนึ่งที่เลิกกับแฟนไป เพราะแฟนเป็นคนติสต์แตก นึกจะอยู่ นึกจะมา นึกจะไป คาดเดาอะไรไม่ได้เลย พอถึงจุดหนึ่งเพื่อนก็รู้สึกไม่มั่นคงไปเอง เพราะไม่มั่นใจว่าในระยะยาวแล้วจะไปกันรอดหรือไม่ แค่ที่เป็นอยู่ก็ไม่มีความสุขแล้ว

     นอกจากนี้ ภาวะทางอารมณ์ที่ไม่มั่นคง (Emotionally Unhealthy) ยังส่งผลต่อการไม่สามารถควบคุมตัวเอง ตัวอย่างเช่น ทั้งๆ ที่รู้ว่าทำแบบนี้จะทำให้คนอื่นไม่มีความสุข แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งตัวเองไม่ให้ทำได้ ซึ่งอาจออกมาในรูปของการทำร้ายคนอื่นทางร่างกาย คำพูด อารมณ์ หรือการนอกใจ ดังนั้น คำพูดที่ว่า ‘ถ้าคบใคร ให้เลือกคนที่มีวุฒิภาวะ’ วุฒิภาวะในที่นี้ก็คือ วุฒิภาวะทางอารมณ์

 

     ทั้งหมดนี้ก็คือ 4 ข้อที่นำมาฝากกัน ก็ลองเอาไปใช้สังเกตกันดู และอย่าลืมที่จะสำรวจตัวคุณเองด้วยว่าเป็นอย่างไร เพราะไม่ใช่แค่เราเลือกเขาเท่านั้น เขาเองก็เลือกเราเหมือนกัน

     สุดท้ายอยากให้คิดถึงประโยคในหนังเรื่อง The Perks of Being a Wallffllower

“We accept the love that we think we deserve.”

เรายอมรับความรักที่เราคิดว่าเราสมควรได้

     จะเลือกคนได้ดีหรือไม่ดีมันขึ้นอยู่กับว่าคุณมองตัวเองมีค่ามากหรือน้อยแค่ไหน แต่ยังไงขออย่าได้ประเมินตัวเองต่ำไปละกัน