คนเราต่างมีนิสัยไม่ดีที่ตัวเองอยากแก้ไขกันทั้งนั้น ไม่เว้นกระทั่งนิสัยไม่ดีที่เกี่ยวกับความรักความสัมพันธ์ อย่างนิสัยหนึ่งเลยที่หลายคนอยากแก้คือ เลิกรอใครคนหนึ่งให้ได้เสียที เพราะการตกอยู่ในภาวะรอคอยอยู่ร่ำไปมันเป็นการทรมานใจตัวเองอย่างหนึ่งนั่นเอง
ทีนี้ ถ้าเกิดคุณตกอยู่ในภาวะรอใครสักคนแบบสิ้นหวังแต่ก็ยังรอ เช่น เขาคนนั้นบอกให้เลิกรอ แต่คุณก็ยังทนรอเขาอยู่ได้ หรือเขาคนคนนั้นหายไปจากชีวิตคุณ แต่คุณก็ยังรอให้เขากลับมา แล้วถ้าวันนี้คุณบอกตัวเองว่า ฉันไม่อยากเจ็บปวดที่ต้องรออีกต่อไปแล้ว มีวิธีการหรือวิธีคิดอะไรบ้างที่ช่วยให้คุณหลุดจากบ่วงนี้ได้สำเร็จ งั้นลองมาอ่านกันดู
01 ต้องมีเป้าหมายในชีวิต
เริ่มมาข้อแรก คุณอาจงงว่า ‘เป้าหมายในชีวิต’ เกี่ยวอะไรกับการเลิกรอใครสักคน จริงๆ มันเกี่ยวกันมากเลย เพราะถ้าคุณมีเป้าหมายในชีวิต คุณจะโฟกัสและสามารถลำดับความสำคัญ (Prioritize) สิ่งต่างๆ ในชีวิตได้ดีขึ้น เช่น รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควรสนใจ อะไรควรลงทุน ควรให้เวลา หรืออะไรไม่ควรเสียเวลากับมัน
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณใฝ่ฝันอยากเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ วันนี้คุณอาจเป็นแค่พนักงานออฟฟิศคนหนึ่งที่เพิ่งอกหักจากแฟนที่รักกันมานาน แต่พอเลิกกับแฟนแล้ว การที่คุณมีฝันหรือมีเป้าหมายให้ยึดเหนี่ยว คุณก็จะรู้ว่าถึงไม่มีแฟน คุณก็ยังมีเรื่องอื่นๆ ในชีวิตที่ต้องทำต่อ การเอาเวลามานั่งเสียใจกับคนที่ทิ้งคุณไปเป็นเวลานานๆ ไม่ส่งผลดีต่อการก้าวสู่เป้าหมายชีวิตของคุณเลย การมีเป้าหมายต่างหากที่ทำให้คุณกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น
ในทางกลับกัน เมื่อคุณมีเป้าหมายในชีวิต คุณสามารถเลือกคนที่จะมาเคียงข้างคุณได้ดีขึ้น คือคุณจะรู้จักดูว่าคนคนนั้นส่งเสริมให้คุณไปสู่เป้าหมายในชีวิตหรือไม่ เหมือนคำพูดที่ว่า คู่ครองที่ดีคือคนที่ส่งเสริมให้ชีวิตเราดีขึ้น ไม่ใช่อยู่กับที่หรือแย่ลง ซึ่งถ้าคุณได้เจอคนแบบนี้ คุณจะไม่ใช่แค่รักเขา แต่คุณยังรักชีวิตตัวเองมากขึ้น เพราะเขาทำให้คุณเป็น ‘คุณในเวอร์ชันที่เจ๋งสุดๆ’
02 ไปหาคนใหม่ซะ
งานวิจัยเรื่อง Breakup Adjustment in Young Adulthood ในปี 2015 พบว่า หนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้คนเราดีขึ้นหลังจากอกหัก คือการเจอคนใหม่ ซึ่งข้อมูลนี้ทำให้เรานึกถึงเรื่องของตัวเองและเพื่อนอีกคน
เรากับเพื่อนเคยคุยกัน และเห็นตรงกันว่า เหตุผลหนึ่งที่ตัดใจจากคนเก่าไม่ได้สักที เป็นเพราะพวกเราไม่มีตัวเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ ว่ามันยังมีคนอื่นบนโลกนี้อีกที่เรารักได้ เมื่อไม่รู้ว่ามีมนุษย์คนนั้นอยู่ หัวสมองและหัวใจก็เลยวนเวียนคิดถึงแต่คนเดิม เพราะนึกไม่ออกว่าถ้าไม่ใช่คนนี้แล้วจะเป็นใครได้อีก
ฉะนั้น วิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณเลิกรอใครคนหนึ่งได้สำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ คือการพาตัวเองไปเปิดหูเปิดตา และเปิดใจดูใครใหม่ๆ ซึ่งมันอาจไม่ง่ายที่จะเจอคนที่ใช่กว่าแบบทันทีทันใด แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าปิดตัวเองและเอาแต่วนเวียนคิดถึงคนที่ไร้วี่แววจะกลับมา
03 เลิกซะเถอะ นิสัยชอบไปดูเรื่องคนคนนั้น
นิสัยเล็กๆ น้อยๆ ที่ส่งผลต่อปัญหาไม่ยอมเลิกรอ คือการเอาแต่นั่งดูเฟซบุ๊กหรือส่องไอจีของคนคนนั้น อย่างหลายคนที่เรารู้จักติดนิสัยชอบส่องไอจีของคนเก่า โดยให้เหตุผลว่าดูไปอย่างนั้นแหละ และคิดว่าควบคุมเรื่องนี้ได้
กล่าวคือ มองว่าการส่องคนนั้นอยู่ในวิสัยที่ตัวเองควบคุมได้ แบบที่ว่าดูแล้วจะไม่พังหรือดาวน์มากเกินไป แต่ความเป็นจริง การส่องเฟซบุ๊กหรือไอจีคนเก่าอยู่เรื่อยๆ เป็นการทำให้จิตใจยังคงวนเวียนคิดแต่คนนั้น ซึ่งรังแต่จะทำให้การตัดใจหรือเลิกชอบนั้นยากเข้าไปอีก ไม่ต่างอะไรกับการเกาแผลบ่อยๆ ซึ่งจะทำให้แผลหายช้า
04 เอาเวลาไปทำอะไรที่มีประโยชน์
วิธีหนึ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกดีกับตัวเองได้เร็วแบบทันตาเห็นคือ การทำตัวเองให้เป็นประโยชน์กับผู้อื่น จริงๆ มันไม่ซับซ้อนเลยนะ ลองนึกถึงเวลาใครไม่สบายใจแล้วชอบไปทำบุญ ในแง่หนึ่งสิ่งที่ได้จากการทำบุญแน่ๆ คือความรู้สึกดีกับตัวเองที่ได้ทำอะไรดีๆ
เช่นกัน ถ้าคุณลองคำนวณและตีค่าพลังงานและเวลาที่คุณเสียไปให้คนคนหนึ่งเป็น ‘มูลค่า’ เช่น เวลาและพลังงานที่คุณใช้รอผู้ชายคนหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งเดือนเท่ากับเงินสามหมื่นบาท คุณก็ลองคิดต่อดูสิว่าจะดีแค่ไหนถ้าคุณเอาเงินสามหมื่นบาทไปให้คนที่เขาต้องการจริงๆ และเป็นคนที่เห็นว่าสิ่งที่คุณทำมันมีค่าสำหรับเขา ซึ่งบางทีคนคนนั้นอาจไม่ใช่คนไกลก็ได้ แต่เป็นคนใกล้ตัวคุณเองนั่นแหละ
กล่าวคือ เอาเวลาไปทำอะไรดีๆ เพื่อคนที่คุณรักคนอื่นๆ เช่น พ่อแม่ เพื่อน คนที่ลำบากกว่า หรือไม่ก็ทำเพื่อตัวคุณเอง
แม้วิธีคิดนี้จะฟังดูเป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ แต่เราว่ามันเมกเซนส์และเข้าใจง่ายดีนะ เพราะช่วยให้เห็นภาพได้ทันทีว่า มูลค่าที่จ่ายไปเมื่อเทียบกับผลลัพธ์มันคุ้มค่ากันไหม เช่น หลายคนมักเสียดายเงิน แต่ไม่ยักกะเสียดายเวลา แต่พอตีเวลาและพลังงานเป็นเงิน บางทีอาจรู้สึกเสียดายเวลาและเลิกรอใครได้เร็วขึ้นกว่าเดิม
และทั้งหมดนี้ก็คือวิธีคิดและวิธีการต่างๆ ที่นำมาแนะนำสำหรับคนที่ยังรอใครสักคนแบบลมๆ แล้งๆ ซึ่งถ้าคุณสังเกตดีๆ สาระสำคัญของ 4 ข้อ เป็นเรื่องของ ‘ทัศนคติ’ ที่คุณจะดีลกับตัวเอง ไม่ใช่เรื่องของหัวใจ เพราะหัวใจหรือความรู้สึกเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ ในเมื่อควบคุมไม่ได้ก็ไม่ต้องไปยุ่งกับมัน แต่หันมาเปลี่ยนทัศนคติตัวเองดีกว่า
แล้วคุณจะพบว่าคนที่คุณรอจริงๆ ไม่ใช่ใครคนคนนั้นหรอก แต่คือ ‘คุณคนใหม่’ ที่ไม่ต้องการรอใครอีกต่อไป
อ้างอิง
Barutçu Yıldırım, F., Demir, A. (2015). Breakup adjustment in young adulthood. Journal of Counseling & Development, 93, 38–44.