ในคอลัมน์ Love Actually บทความแรกที่ฉันเขียนคือ ‘เราเติบโตผ่านความสัมพันธ์’ การเขียนถึงความรักและความสัมพันธ์ในแง่มุมต่างๆ เปิดโอกาสให้ฉันได้พิจารณาถึงมุมมองความรักของตนเอง ได้ทำความเข้าใจในหลายด้านความสัมพันธ์เท่าที่สามารถเข้าใจและเอามาถ่ายทอดได้ เป็นเรื่องดีเหมือนกันที่ได้ทบทวนถึงอดีตที่ผ่านมา เคยผ่านความสัมพันธ์แบบไหน เคยรัก เคยถูกรักมาอย่างไร เคยเผลอไผลทำร้ายใคร เคยเจ็บปวดจากความรักแบบใดมาแล้วบ้าง และจวบจนวันนี้ ฉันเติบโตมามากน้อยแค่ไหน
ทุกความสัมพันธ์ย่อมมอบบางบทเรียนแก่ชีวิต และอย่างรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม การเติบโตจากภายในจะเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติได้ เมื่อเรามองความสัมพันธ์ที่ผ่านไปแล้ว (หรือกำลังมีอยู่) อย่างเข้าใจ เรียนรู้ ให้อภัย เดินหน้าต่อไป และไม่ทำผิดในเรื่องซ้ำซาก
ต่อไปนี้คือสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากความสัมพันธ์ ทั้งที่จบไปแล้วและ ณ ปัจจุบันที่มีอยู่ อาจพ้องต้องกับคุณ หรืออาจขัดแย้งกับความคิดเห็นของใคร แต่ก็ไม่มีอะไรผิดหรือถูกทั้งนั้น เพราะไม่เคยมีความสัมพันธ์ใดที่ทับซ้อนในรายละเอียด วิธีรัก วิธีรอด วิธีรู้ ล้วนเป็นเรื่องเฉพาะคน เราทำได้เพียงแลกมุมมองแก่กัน กล่าวจากประสบการณ์ที่เราพานพบ อะไรก็ตามที่ทำให้เราเติบโตขึ้นได้ เยียวยาตนเองได้ เป็นคนดีกว่าที่เคยได้ รักอย่างเป็นสุขได้ ก็ขอให้ยึดมั่นสิ่งนั้นไว้
1. ก่อนสานสัมพันธ์กับใคร จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรู้จักและชัดเจนกับตัวเองก่อนว่าเราปรารถนาความสัมพันธ์แบบไหน
2. ความโรแมนติกยามตกหลุมรักช่างหอมหวาน ฉกฉวยช่วงเวลานั้นไว้ แต่อย่าหลงคิดว่านั่นคือนิรันดร์กาล
3. หลังความผิดหวังหรือการเลิกรา อย่าผลีผลามสู่ความรักครั้งใหม่ เพราะเราดึงดูดคุณภาพความสัมพันธ์ในระดับเดียวกับคุณภาพใจของเราในยามนั้น
4. หากยอมรับไม่ได้กับความสัมพันธ์ซ้อนทับ อย่าหวังลมๆ แล้งๆ ว่าการยอมเป็นตัวเลือกจะกลายเป็นคนที่ถูกเลือก
5. เมื่อเจอรูปแบบความสัมพันธ์เลวร้ายในแพตเทิร์นเดิม แค่เปลี่ยนคน ให้รีบพิจารณาตนเองทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา เหตุใดเราถึงพาตัวเองเข้าไปสู่แพตเทิร์นนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
6. รสนิยม ความเชื่อ ความศรัทธา และความใฝ่ฝัน อย่างน้อยต้องมีสักอย่างที่คู่รักให้ค่าตรงกัน จึงจะเดินไปในทิศทางเดียวกันได้
7. เราต่างมีข้อบกพร่อง แต่การเป็นตัวของตัวเองเต็มร้อยไม่ได้ดีต่อความสัมพันธ์เสมอไป ดัดนิสัยเสียของตนเองบ้าง และเป็นคนที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เถิด
8. ความสัมพันธ์ที่สมดุลคือการรู้จักให้และรู้จักรับ แต่อย่าคาดหวังว่าเราจะได้เทียบเท่ากับที่เราให้
9. สถานะคู่รักเป็นการพึ่งพาอาศัย อย่าปล่อยให้ความเหนือกว่าใดๆ ของคนหนึ่งทำให้อีกฝ่ายรู้สึกด้อยค่า
10. ชีวิตคู่ดำเนินไปได้ด้วยการสื่อสาร อย่าใช้วิธีอ่านใจในการรักษาความสัมพันธ์
11. หากมองไปถึงการใช้ชีวิตร่วมกันในระยะยาว การวางแผนครอบครัวและการมีบุตรคือหัวข้อสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันตั้งแต่แรก
12. อย่าทะเลาะกันในเรื่องซ้ำๆ อย่าเลิกรากับคนแล้วคนเล่าด้วยเหตุเดิมๆ นั่นหมายความว่าเราไม่ได้เติบโตขึ้นในความสัมพันธ์แม้แต่น้อย
13. อย่าโบ้ยทุกความผิดพลาดในชีวิตคู่ไปให้อีกคน เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่พึงปรารถนา หันมองตัวเราเองด้วยว่าเรามีส่วนร่วมในความผิดพลาดนั้นด้วยหรือไม่และอย่างไร
14. อย่าทดสอบคุณค่าของเราเองด้วยการท้าเลิก หากไม่สามารถทำใจได้ว่าคำท้านั้นอาจเป็นจริงขึ้นมาได้
15. ระยะเวลาของความสัมพันธ์ไม่สามารถการันตีได้ว่าชีวิตคู่จะยืนยาวจนตัวตาย
16. หมั่นแสดงออกความรู้สึกรักในวิถีทางที่สองคนรับรู้ตรงกัน มนุษย์ล้วนต้องการการยืนยันและความอุ่นใจว่ายังเป็นที่รักอยู่เสมอ
17. พื้นที่และเวลาส่วนตัวจำเป็นต่อทุกคน ไม่ว่าเราจะมีความสัมพันธ์ที่เปี่ยมสุขและลึกซึ้งแค่ไหน
18. ฝุ่นหนาเตอะเกิดจากการสะสมตัวของฝุ่นเม็ดเล็กๆ อย่าประมาทในเรื่องผิดใจกันเล็กๆ น้อยๆ
19. ปรึกษาปัญหาความรักกับคนอื่นได้ แต่อย่าก่นด่าคู่ของเราให้ใครฟัง หากสุดท้ายแล้วเราก็หวนกลับไปคบหาคนที่เราด่าเช้าด่าเย็นอยู่ดี
20. หากยังรักกันและให้อภัยได้ จงให้อภัย แล้วปรับปรุงความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น หากให้อภัยไม่ได้ จงปลดปล่อยกันไป แต่ในที่สุดแล้ว เราจำเป็นต้องให้อภัยอดีตเพื่อปลดปล่อยความทุกข์จากใจ
21. เมื่อหมดรักแล้ว จงกล้าหาญที่จะสารภาพออกมาเช่นเดียวกับที่เรากล้าสารภาพรัก
22. เรามีหน้าที่รับผิดชอบต่อชีวิตของเราเอง เรามีหน้าที่รับผิดชอบต่อความสัมพันธ์ที่เราเลือก และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับความรักก็ตาม จงยอมรับความจริง
ไม่เคยมีคำว่า Happy Ending ในความรัก-ความสัมพันธ์ แม้แต่การแต่งงานที่อาจเป็นปลายทางของสองคนที่ผ่านการคบหา แต่ขณะเดียวกันก็เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ที่ไม่ต่างจากการผจญภัยใน chapter ใหม่ ฉันเองอายุเท่านี้ ประสบความรักมาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าความรักจะมอบบทเรียนอะไรให้อีกบ้าง อีก 10 ปีข้างหน้า ฉันอาจมาต่อข้อที่ 23 จนถึงข้อที่ 100 เลยก็ได้
อย่างไรก็ตาม เรารัก เราเลิก สมหวัง ผิดหวัง เป็นสุข เป็นทุกข์กับความสัมพันธ์ไปได้ตลอดชีวิต นั่นหมายความว่าเราต้องเรียนรู้กันต่อไปเรื่อยๆ ก็หลักชัยของความรักอยู่ตรงไหนเล่า แล้วมีใครบ้างที่ล่วงรู้