Love Actually | ไม่มีคู่ไม่รู้หรอก 5 ธรรมเนียมปฏิบัติของคู่รักที่รู้กันแค่สองคน

เคยมีไหม? ที่คุยอะไรกันแล้วรู้เรื่องกันอยู่สองคน หรือเคยมีไหม? ที่หันไปเจออะไร แล้วรีบไลน์หาเขา เพราะมันช่างเหมือนเรื่องที่เรากับเขาคุยกันเมื่อคืนก่อนเลย

อย่างคู่รักคู่หนึ่งที่เรารู้จัก สองคนนี้จะมีคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนที่ไว้ใช้แทนอีกฝ่าย อย่างฝ่ายหญิงจะเป็นยูนิคอร์น ส่วนฝ่ายชายเป็นหมีบราวน์ ดังนั้น เวลาไปไหนก็ตาม ถ้าคนใดคนหนึ่งเห็นคาแรกเตอร์ประจำตัวของอีกคน ก็จะถ่ายรูปลงเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรม พิมพ์แคปชันน่ารักๆ หวานๆ และแท็กแฟน ฉะนั้น เวลาสองคนนี้อยากหวานใส่กันจึงไม่ได้แค่ใช้การเรียกชื่อเท่านั้น แต่ยังเอาดีเทลที่ตกลงกันไว้มาสร้างความหวานแหววอีกด้วย

และแน่นอนว่า ประเด็นนี้ก็ไม่วายมีนักวิจัยเอามาศึกษาว่า คู่รักเนี่ยมีธรรมเนียมปฏิบัติภายในคู่หรือไม่ เพราะว่ากลุ่มสังคมอื่นๆ เช่น เพื่อน สมาคม องค์กร ก็จะมีวัฒนธรรมภายในหรือธรรมเนียมภายในกลุ่มสังคม ดังนั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่แฟนหรือคนรักก็น่าจะมีเหมือนกัน และในงานวิจัย Communicatively remembering turning points of relational development in heterosexual romantic relationships ปี 2001 โดย Leslie A. Baxter และ Garth Pittman ก็ได้พบว่า คู่รักก็มีพิธีกรรม กิจวัตร หรือข้อตกลง ที่เรียกว่า ‘ธรรมเนียมคู่รัก’ (Dyadic Tradition) เหมือนกัน โดยมี 5 อย่าง ได้แก่

หนึ่ง: คำ วลี หรือท่าทางที่รู้กันเองสองคน 

อันนี้หลายคนน่าจะนึกออก เช่น พวกภาษาต่างดาว หรือคำเรียกที่รู้กันเองอยู่สองคน แบบที่ว่าพอได้ยินใครพูดก็ขำกิ๊กๆ กันเอง คนอื่นอย่างเราๆ ก็คงไม่เข้าใจว่าขำอะไรกัน ยกตัวอย่างเพื่อนเราคนหนึ่ง เวลาพิมพ์หัวเราะใส่แฟน จะไม่พิมพ์ว่า ‘55555’ แต่จะพิมพ์ว่า ‘ฮี่ๆๆๆๆ’ เหมือนเสียงม้า พอเราถามว่า ‘ทำไมต้องเสียงม้าฮี่ก็อบ’ เพื่อนบอกว่า ‘มันฟังดูเป็นเสียงหัวเราะแบบมีเลศนัยดี ก็เลยชอบใช้ไว้คุยเล่นกับแฟน’ ดังนั้น  ถ้าเวลาเห็นสองคนนี้พิมพ์โต้ตอบกัน ก็จะเห็นคำว่าฮี่ๆๆๆๆ บ่อยๆ เพราะเป็นเสียงหัวเราะเวอร์ชันเฉพาะของสองคนนี้

สอง: ครบรอบต่างๆ

อันนี้ก็ชัดเจนมาก เพราะคู่รักแต่ละคู่ก็จะมีวันครบรอบหรือวันสำคัญเฉพาะคู่ เช่น วันที่เจอกันครั้งแรก วันที่คบกันครั้งแรก วันที่ขอเป็นแฟนกัน วันที่ขอแต่งงาน วันแต่งงาน บางคู่ชอบการฉลองครบรอบมากก็ซอยเหลือครบรอบหนึ่งเดือน ครบรอบสามเดือน ก็จะมีจัดฉลองกันที เรียกว่า ฉลองกันทุกไตรมาสเลย

สาม: คุยกันถึงอดีต

คู่รักที่คบกันมานานๆ มีสิ่งที่น่าอิจฉามากๆ อย่างหนึ่งคื อพวกเขาจะมีอดีตให้คุยกันเยอะ และเมื่อมีความทรงจำที่แชร์ร่วมกันเยอะ ก็ทำให้พวกเขามีเรื่องราวที่ไว้คุยเล่นและสร้างความเป็นคู่ต่อไปได้เรื่อยๆ เช่น คุยกันถึงวันที่โชคชะตานำพาให้สองคนนี้ได้มาเจอกันโดยบังเอิญ หรือกว่าจะมาคบกันได้ ทั้งสองต้องผ่านอะไรกันมาบ้าง พอได้ผ่านอะไรกันมาเยอะๆ ก็ทำให้พวกเขาสนิทกันมากขึ้น รวมทั้งได้มีเรื่องไว้คุยกันมากมาย ฉันใดฉันนั้น เวลาเลิกกัน ส่วนที่ทำได้ยาก ก็คือการที่ความทรงจำมากมายในอดีตเหล่านี้ตามมาคงหลอกหลอนทำให้คิดถึงอีกฝ่ายจนยากจะถอนตัว

สี่: สิ่งของที่มีคุณค่าจิตใจ

นอกจากความทรงจำ วันต่างๆ หรือคำพูดแล้ว สิ่งของก็นับว่าเป็นหนึ่งในธรรมเนียมคู่รักอย่างหนึ่ง อย่างตัวเราเองเป็นคนชอบหนังสือ คนรักของเราก็ชอบหนังสือเหมือนกัน ดังนั้น เราสองคนจะมีเรื่องราวที่ดีใจต่อใจเกี่ยวกับหนังสือค่อนข้างมาก เช่น เวลาเขาหรือเราเจอหนังสือที่เขียนโดยนักเขียนคนโปรดของเราทั้งคู่ก็จะนึกถึงกัน หรืออาจใช้รูปหน้าปกหรือข้อความในหนังสือ เพื่อสื่อสารบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่า เห็นหนังสือเล่มนี้แล้วนึกถึงเธอนะ นอกจากนี้ ก็อาจเป็นพวกของขวัญหรือสิ่งของที่ทำให้คิดถึงกันหรือมีเรื่องพูดกันได้ต่อ

สถานที่ก็เช่นเดียวกัน คู่รักบางคู่ไปเที่ยวด้วยกันบ่อย ฉะนั้น สถานที่ต่างๆ จึงมี ‘ความหมาย’ ต่อคู่รักเหล่านี้ เวลาทั้งคู่หรือคนใดคนหนึ่งไปที่แห่งนั้น จะทำให้มีความทรงจำที่เคยแชร์ร่วมกันปรากฏขึ้นมาในใจ ที่แห่งนั้นจึงไม่ใช่แค่ห้าง เซเว่นปากซอย ร้านขนมโตเกียวหน้าสวนสาธารณะ แต่มันเป็นที่ ‘ของเรา’ ที่มีความหมายและความทรงจำที่ฝังไว้

ห้า: เรื่องราวคู่รักที่เกี่ยวข้องกับคนอื่นๆ

และข้อสุดท้าย นอกจากเรื่องของคนสองคนแล้ว บางครั้งมันยังเป็นเรื่องของคนอื่นที่คนสองคนบังเอิญได้รับรู้ร่วมกันก็ได้ เช่น คู่เพื่อนเรากับแฟน สองคนนี้เป็นคนที่ชอบนั่งรถไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นประจำ เรียกว่าเป็นตัวติดกันมาก และกิจวัตรอย่างหนึ่งที่สองคนนี้ทำร่วมกันเวลาอยู่ในรถคือ ช่วงบ่ายๆ ของวันธรรมดา สองคนนี้จะฟังวิทยุช่วง อาจารย์วีระ ธีรภัทร จากคลื่น FM 96.5 แล้วเพื่อนเราก็จะชอบเลียนเสียงและเลียนวิธีพูดของอาจารย์มาคุยเล่นกันต่อ ซึ่งเวลาเราเข้าไปร่วมฟังเรื่องที่เขาล้อเล่นกัน เราจะงงๆ ไม่เข้าใจ นั่นก็เพราะเราไม่ได้แชร์ความทรงจำกับพวกเขา แต่สองคนนี้จะหัวเราะกิ๊กๆ กันเองอยู่สองคน เพราะนี่คือสิ่งที่สองคนนี้มีเรื่องราวร่วมกันและเข้าใจกันว่าอีกฝ่ายกำลังหมายถึงอะไร ซึ่งบางครั้งก็เป็นเรื่องของคนอื่นที่สองคนนี้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยอีกที

ทั้งหมดนี้ก็คือ 5 ธรรมเนียมคู่รัก หรือพูดอีกอย่างคือ พิธีกรรม กิจวัตร เรื่องราว การกระทำ สิ่งของที่คู่รักได้ทำ ได้สร้าง และทำให้เกิด ‘ความหมาย’ ร่วมกันจนเกิดเป็นข้อตกลงที่รู้กันสองคน หลายธรรมเนียมที่คู่รักทำเป็นสิ่งที่ช่วยสานสัมพันธ์ให้คู่รักยิ่งผูกพันกันมากขึ้น หวานซึ้งกันมากขึ้น เรียกว่าเป็นสิ่งที่คนโสดหลายคน ถ้าจะอิจฉาคนมีแฟนก็คงจะอิจฉาเพราะเรื่องนี้นี่แหละ เพราะมันเท่ากับว่ามีใครอีกคนที่เข้าใจไปกับเรา มันทั้งพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟ และชวนอมยิ้ม อย่างไรก็ตาม ถ้ากรณีพลิกผัน กลายเป็นว่าต้องเลิกหรือแยกจากกัน ธรรมเนียมคู่รักที่เคยหวานซึ้งก็จะกลายเป็นบ่วงรั้งที่ทำให้ตัดใจได้ยาก

อย่างว่านะ ของบางอย่างเวลาดีๆ มันก็หวาน แต่เวลาแย่ๆ มันก็ขมได้เหมือนกัน