เมื่อเร็วๆ นี้ ฮอนด้าได้ชวนลูกค้าเจ้าของรถฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ และสื่อมวลชนไปสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ในเส้นทางสู่อารยธรรมลุ่มน้ำโขง ที่มีระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร จากเมืองไทยสู่กัมพูชาและลาว ซึ่งเราอยากจะมาชวนคุณตามรอยทริปการขับรถข้ามประเทศในครั้งนี้ไปด้วยกัน
อารยธรรมแห่งลุ่มน้ำโขง และธรรมชาติของประเทศเพื่อนบ้านจะสวยงามขนาดไหน ไปชมกันเลย
…
Day 1
การเดินทางเริ่มต้นจากกรุงเทพฯ สู่จุดหมายแรกที่จังหวัดสระแก้ว หลังจากที่ขับรถกันแบบสบายๆ กันมาประมาณ 4 ชั่วโมง ก็มาถึงพรมแดนไทย-กัมพูชา ณ ด่านพรมแดนคลองลึก จากนั้นจึงมุ่งหน้าสู่จุดหมายแรกของวันที่ ปราสาทนครวัด หรือในภาษาอังกฤษว่า Angkor Wat โบราณสถานอันเลื่องชื่อของขอมโบราณซึ่งคนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี
นครวัดเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO และเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก เป็นโบราณสถานที่เวอร์วังอลังการจริงๆ สมกับความยิ่งใหญ่ของสิ่งก่อสร้างจากฝีมือมนุษย์ที่บรรพบุรุษได้มอบไว้ให้เป็นมรดกตกทอด ซึ่งได้ยืนหยัดผ่านกาลเวลา และให้คุณค่าทางศาสนาและศิลปะวัฒนธรรม
ภายในปราสาทก็สวยงามไม่แพ้กัน และยังมีงานแกะสลักอันงดงามเต็มไปด้วยรายละเอียด จนเราใช้เวลากันอยู่พักใหญ่ จึงได้ออกมานั่งพักถ่ายรูปบริเวณริมน้ำด้านหน้าปราสาท ซึมซับบรรยากาศยามเย็นของที่นี่เก็บไว้ในความทรงจำ
…
Day 2
ตื่นนอนแต่เช้ามืดเพื่อมาชมแสงแรกแห่งวันกันที่บึงน้ำด้านหน้านครวัด และถือโอกาสเดินชมปราสาทให้ทั่วอีกครั้งหนึ่ง โดยมีงานแกะสลักนูนต่ำที่กระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณปราสาท คอยบอกเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสกับมนต์ขลังจากครั้งอดีต
ล้วจึงเดินต่อทางต่อไปยัง ปราสาทนครธม (Angkor Thom) เมืองเก่าแก่ที่มีปราสาท พระราชวัง และประติมากรรมงดงามจำนวนมาก โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ปราสาทบายน ที่สร้างขึ้นจากการซ้อนหินขึ้นเป็นรูปร่างและแกะสลักเป็นใบหน้า ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนก็ให้ความรู้สึกขลังและลี้ลับเอามากๆ
เสร็จจากนครวัดนครธม ก็มุ่งหน้าสู่ที่หมายต่อไปที่ พีระมิดขอมเกาะแกร์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของอาณาจักรขอม ก่อนที่กษัตริย์จะย้ายราชธานีไปอยู่ที่นครวัด
เกาะแกร์เป็นเมืองที่ถูกลืมและซ่อนตัวอยู่ในป่ามาเป็นพันปี จนกระทั่งถูกค้นพบในปี ค.ศ. 2003 รวมแล้วเมืองแห่งนี้ถูกลืมไปถึง 1059 ปี โดยมีสิ่งปลูกสร้างหลักเป็นปราสาทรูปร่างคล้ายพีระมิด ซึ่งมีบันไดขนาดเล็กตั้งเรียงขึ้นไปคล้ายกับถนนสู่สวรรค์
…
Day 3
จากประเทศกัมพูชา ขบวนฮอนด้า ซีอาร์-วี ได้เดินทางต่อไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มุ่งหน้าสู่แขวงจำปาศักดิ์ เส้นทางลัดเลาะคดเคี้ยวบนถนนดินลูกรัง ฝุ่นคลุ้งเต็มถนนที่ขบวนซีอาร์-วี วิ่งผ่าน แม้ว่าถนนหนทางจะท้าทายสมรรถนะของรถขนาดไหน ซีอาร์-วี ก็พร้อมลุย เพราะมีเครื่องยนต์ให้เลือก ทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO ที่มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC พร้อมระบบเกียร์ CVT ที่ให้อัตราเร่งดี แถมประหยัดน้ำมัน อีกต่างหาก
เริ่มต้นจุดหมายปลายทางแห่งแรกเพื่อชมธรรมชาติที่สวยงามและมรดกโลกที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ที่ น้ำตกคอนพะเพ็ง ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น ไนแองการาแห่งเอเชีย ด้วยความสูงกว่า 69 ฟุต (21 เมตร) และกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว โดยที่มาของชื่อคอนพะเพ็งนั้น มาจากคำว่า ‘คอน’ ที่แปลว่า แก่ง, เกาะ ผสมกับคำว่า ‘พะเพ็ง’ ซึ่งหมายถึง พระจันทร์วันเพ็ญ
เที่ยวน้ำตกเสร็จแล้วก็ถึงเวลาลุยต่อกับเส้นทางสู่ ปราสาทหินวัดพู มรดกโลกแห่งที่สองของประเทศลาว ซึ่งอดีตเป็นโบสถ์พราหมณ์ที่สร้างถวายพระศิวะ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเก่าจำปาศักดิ์ประมาณ 6 กิโลเมตร ลักษณะของปราสาทเป็นเทวสถานขอม คล้ายกับเขาพระวิหาร สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 12 และถือเป็นปราสาทหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดของที่นี่
…
Day 4
อีกหนึ่งไฮไลต์ของทริปสำหรับคนรักกาแฟ คงหนีไม่พ้นการได้ไปเที่ยวชม ไร่กาแฟโนนกระถาด ปากซองไฮแลนด์ พื้นที่ปลูกกาแฟผืนใหญ่สุดในแถบเอเชีย การได้มาเที่ยวครั้งนี้ นอกจากจะได้แวะจิบกาแฟร้อนๆ รสชาติกลมกล่อมในยามเช้าแล้ว ทิวทัศน์ของต้นกาแฟที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาก็น่าจะทับใจไม่แพ้กัน ก่อนกลับก็ต้องไม่ลืมซื้อเมล็ดกาแฟติดไม้ติดมือกลับมาด้วย
จากนั้น เรามุ่งหน้าต่อไปยัง น้ำตกตาดเยือง น้ำตกขนาดใหญ่ ที่ไหลเป็นลำธารเอื่อยๆ ก่อนจะตกลงจากหน้าผาสูงมากระทบยังแผ่นดินเบื้องล่าง ทำให้เกิดเป็นละอองไอน้ำฟุ้งกระจายไปทั่ว
ก่อนจะไปปิดทริปกันที่ น้ำตกตาดฟาน น้ำตกที่สูงที่สุดในลาว เป็นที่หมายสุดท้ายก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ผ่านทางด่านชายแดนสปป.ลาว-ไทย ช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี จบทริปดีๆ 4 วัน 3 ประเทศ ที่ได้ไปสัมผัสธรรมชาติและอารยธรรมของลุ่มแม่น้ำโขงที่สวยงามเกินจินตนาการ และยังได้พิสูจน์สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมของ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ อีกด้วย ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง ขับรถไกลแค่ไหนก็นั่งสบาย ด้วยเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง สามารถปรับพับเบาะได้ แถมยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ เก็บของได้เยอะจุใจจริงๆ
การเดินทางไปกับฮอนด้า ซีอาร์-วี ในครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งทริปสุดประทับใจ พร้อมกับได้ชาร์จพลังเต็มที่ เพื่อเตรียมตัวก้าวออกไปอีกครั้งให้ไกลกว่าจินตนาการ และเพื่อจะออกไปสัมผัสความท้าทายด้วยตัวเองอีกครั้งหนึ่งให้ได้
FYI
สนใจสัมผัสประสบการณ์ขับขี่รถยนต์ฮอนด้าในเส้นทางใหม่ๆ
ติดตามการเข้าร่วมกิจกรรมสนุกๆ ครั้งต่อไปได้ที่ Facebook : Enjoy Honda Thailand