ASUS ZenBook UX333

The Review | ASUS ZenBook UX333 ในวันที่เราไม่ได้ต้องการ Laptop ที่แค่เบา บาง และสวย

แล็ปท็อปเริ่มเข้ามาเป็นที่แพร่หลายให้คนทั่วไปได้ใช้งานอย่างจริงจังในช่วงราวๆ ปี ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา ซึ่งตอนนั้นการหยิบคอมพิวเตอร์พกพาออกจากบ้านแต่ละครั้งนั้น (จริงๆ แล้วจะพูดว่าพกพาได้คงไม่ค่อยเต็มปากสักเท่าไร แต่จะใช้คำว่าขนย้ายก็เกรงใจเจ้าแล็ปท็อปตัวเก่าเหล่านั้น) ถือเป็นเรื่องใหญ่และหนักพอตัวเลยทีเดียว แต่เทคโนโลยีที่ไม่หยุดนิ่งก็ช่วยให้พัฒนาการของแล็ปท็อปนั้นเป็นไปอย่างก้าวกระโดด เครื่องคอมพิวเตอร์ที่หนากว่าสองนิ้วค่อยๆ ถูกเฉือนเอาส่วนเกินออกไปทีละน้อย แล้วเติมแต่งประสิทธิภาพให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนทุกวันนี้เราจึงมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ทั้งเบา บาง กะทัดรัด ให้เลือกมากมาย แล้วอะไรกันที่ทำให้ ASUS ZenBook UX333 กลายเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ สำหรับเรา

 

ยิ่งจิ๋วยิ่งแจ๋ว

     ครั้งหนึ่งเราเคยเชื่อมั่นว่า Netbook ในอดีตนั้น ตอบโจทย์การพกพาของเราได้อย่างครบถ้วน แต่พอเอาเข้าจริงแล้ว มันมีขนาดเล็กกว่า Notebook ดีๆ บางรุ่นไม่เท่าไหร่เอง แถมประสิทธิภาพในการทำงานก็ค่อนข้างไม่ทันใจ เพราะเน้นที่การใช้งานเล็กๆ น้อยๆ เป็นหลัก ทำให้เวลาไปเรียนเราจึงต้องยอมแบกแล็ปท็อปตัวหนาๆ ไปเพื่อการใช้งานที่ดีกว่า

     เมื่อชีวิตไม่ได้อยู่แค่ที่บ้านกับมหาวิทยาลัยอีกต่อไป วันนี้ชีวิตของการทำงานจริงนั้นเรียกร้องทั้งความคล่องตัวและประสิทธิภาพ ซึ่ง ASUS ZenBook UX333 สอบผ่านข้อแรกอย่างฉลุย เพราะขนาดของตัวเครื่องนั้นเล็กกว่ากระดาษ A4 จนถูกยกให้เป็น The World’s Smallest 13-inch Laptop นั่นคือคอมพิวเตอร์พกพาที่มีขนาดจอ 13 นิ้วที่เล็กที่สุดในโลกนั่นเอง และด้วยวัสดุอย่างอะลูมิเนียมขัดเงาก็ช่วยเพิ่มความสมาร์ตให้เราได้เป็นเท่าตัว

 

ASUS ZenBook UX333

 

ประสิทธิภาพแบบไม่มีกั๊ก

     ในงานแต่ละโปรเจ็กต์เราแทบไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง บางครั้งก็ต้องแก้ไขเรื่องเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน ดังนั้น แล็ปท็อปที่ดีต้องสามารถรองรับการทำงานโหดๆ ได้ด้วย ASUS ZenBook UX333 จึงใส่ซีพียู 8th Gen Intel® CoreTM i7 มาเพิ่มความสะดวกในการช่วยประมวลผลงานระดับสูงให้ไหลลื่นอย่างรวดเร็ว โดยมีการ์ดจอ NVIDIA® GeForce® MX150 ที่คอยช่วยเรื่องกราฟิก จึงทำให้คุณสามารถใช้งานแล็ปท็อปเครื่องนี้ได้ตั้งแต่การพิมพ์รายงานการประชุมไปจนถึงตัดต่อวิดีโอระดับ Full HD ได้แบบรวดเร็วทันใจ

 

ASUS ZenBook UX333

 

ยิ่งบางยิ่งแกร่ง

     ด้วยความหนาแค่ 16.9 มิลลิเมตร อาจจะทำให้คิดไปว่าตัวเครื่องนั้นคงบอบบาง หากไม่ระวังให้ดีเราอาจเผอเรอทำความเสียหายให้แล็ปท็อปตัวนี้ได้ แต่ในความเป็นจริง ASUS ZenBook UX333 นั้นถูกรับรองโดยผลการทดสอบจาก US Military Standard มาแล้วว่า สามารถนำไปใช้งานได้ในทุกสภาวะทั้งการใช้งานกลางแจ้งของบ้านเรา พื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นของโตเกียวในช่วงนี้ หรือจะพกไปทำงานตอนแคมปิ้งในป่าที่มีความชื้นค่อนข้างสูงก็สามารถทำได้ แถมการพกพาสะดวกไม่รู้สึกเทอะทะ เพราะตัวเครื่องนั้นมีน้ำหนักแค่ 1.09 กิโลกรัมเท่านั้น

 

ASUS ZenBook UX333

 

สวย เฉียบ ฉลาด

     สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมให้กับแล็ปท็อปตระกูล ZenBook คือความเอาใจใส่ในเรื่องของการดีไซน์ที่สอดคล้องกับการใช้งาน สะท้อนผ่านความพิถีพิถันในการออกแบบตั้งแต่ลายด้านหน้าที่อิงจากการจัดสวนในวิถีเซน แฝงลายวงกลมของหยดน้ำที่กระเพื่อมคลื่นออกเป็นวงกว้าง การจัดวางเลย์เอาต์ของแป้นคีย์บอร์ดที่ทำให้เกิดความสมดุลระหว่างพิมพ์งาน สอดแทรกความสะดวกผ่าน NumberPad ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ โดยสามารถทำงานร่วมกับตัว Touch Pad ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งใครที่ใช้แล็ปท็อปจัดการกับข้อมูลที่มีตัวเลขเยอะๆ เป็นประจำ จะเข้าใจเลยว่าการใช้ปุ่มตัวเลขด้านบนของคีย์บอร์ดนั้นไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่

 

ASUS ZenBook UX333

 

     การออกแบบ NumberPad เช่นนี้ทำให้เราใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น และไม่เป็นการไปกวนการทำงานของ Touch Pad เลย แล้วการที่ตัวเครื่องมีขอบจอบาง (Ultra-Thin NanoEdge Bezels) ทั้ง 4 ด้านก็ช่วยเพิ่มมุมมองในการรับชมภาพได้ดียิ่งขึ้น เห็นจอบางๆ แบบนี้ ตัวกล้องเว็บแคมระบบ IR คู่ด้านบนก็ไม่ได้ใส่มาเพื่อใช้งานพื้นฐานเท่านั้น แต่สามารถวิเคราะห์ใบหน้าของเราด้วยระบบ Face Recognition เพื่อล็อกอินการใช้งานได้จริงด้วย อีกทั้งลำโพงของตัวเครื่องก็ยังเป็นของ Harman Kardon ที่การันตีเรื่องเสียงอยู่แล้ว จนเรานึกไม่ออกเลยว่าจะมีแล็ปท็อปตัวไหนที่มีความสมบูรณ์แบบในความเรียบง่ายได้เท่า ASUS ZenBook UX333 เครื่องนี้

 

ASUS ZenBook UX333

 

     ทั้งหมดนี้คือคำตอบที่ว่าทำไม ASUS ZenBook UX333 จึงกลายเป็นแล็ปท็อปตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่เราสนใจ เพราะตอนนี้การพัฒนาของเทคโนโลยีทำให้เราเชื่อมั่นได้แล้วว่า เครื่องไม้เครื่องมือในขนาดกะทัดรัดนั้นไม่จำเป็นต้องถูกจำกัดประสิทธิภาพไว้อีกต่อไป เราสามารถใส่ขุมพลังที่ร้อนแรงลงไปในเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเท่านิตยสารหนึ่งเล่มได้แล้ว และตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างคล่องตัว อีกทั้งมีดีไซน์ที่โดนใจ ถือไปไหนก็ไม่รู้สึกเป็นภาระ แถมยังอยากเปิดมันขึ้นมาใช้บ่อยๆ ด้วย

 


FYI

     – ASUS ZenBook UX333 มีวางจำหน่าย 2 สี คือ Royal Blue และ Icicle Silver

     – บริเวณด้านบนคีย์บอร์ดเป็นสี Rose Gold แสดงถึงความหรูหราที่ไม่โอ่อ่า แต่เป็นความหรูหราที่แฝงไว้ภายใต้ความละมุนละไม

     – สำหรับ 100 คนแรกที่เป็นเจ้าของ ASUS ZenBook UX333 จะได้กระเป๋าโน้ตบุ๊กสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ออกแบบโดยแบรนด์ Insomnia by Vara

     – ราคาเริ่มต้นของ ASUS ZenBook UX333 อยู่ที่ 26,990 บาท