เผด็จการ

WHY? | ทำไมบางคนจึงมีความสุขและพึงพอใจกับระบอบเผด็จการ

กลายเป็นข่าวฮือฮาเสียยิ่งกว่าผลการแข่งขันไปแล้ว สำหรับทีมเด็กสาวเชียร์ลีดเดอร์เกาหลีเหนือสองร้อยกว่าคน แสดงการเชียร์กีฬาทั้งร้องเพลงทั้งปรบมือและเคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียง ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 เมืองพย็องชาง เกาหลีใต้

เผด็จการ

     ภาพนี้ขัดแย้งกับความคิดของชาวตะวันตกและผู้คนในโลกเสรี เพราะคิดว่าประเทศปิดอย่างเกาหลีเหนือจะต้องมีปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ดังนั้น พวกเธอจึงน่าจะเป็นเพียงแค่หน้าฉากที่คิมจองอึนใช้สร้างภาพให้ตัวเองดูดี มีกระแสข่าวออกมาเป็นระยะว่าพวกเธอถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการหลบหนีหรือแปรพักตร์

     ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร เราคงไม่สามารถเข้าไปอ่านใจของสาวน้อยเหล่านี้หมดทุกคน ว่าใครสุขหรือทุกข์อย่างไร บางคนอาจจะอยากหลบหนี บางคนอาจจะแสร้งยิ้ม และบางคนอาจจะมีความคิดและความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ก็ได้

     คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไมเชียร์ลีดเดอร์เกาหลีเหนือจึงดูมีความสุขกับการเชียร์อย่างพร้อมเพรียง และสะท้อนกลับมาถึงสถานการณ์ใกล้ตัวในบ้านเรา ทำไมบางคนจึงดูมีความสุข และพึงพอใจกับระบอบการปกครองโดยเผด็จการทหาร

     ถ้ามองเกาหลีเหนือเป็นตัวอย่าง ในภาพรวมใหญ่ๆ ทั้งประเทศนี้ เราจะเห็นมหกรรมการแสดงความพร้อมเพรียงแบบนี้ มีอยู่ในชีวิตประจำวันของพวกเขาตลอดเวลา ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นสภาพจิตใจบางอย่างที่แตกต่างไปจากเราอย่างสิ้นเชิง ซึ่งอาจจะทำให้เรามีระบบคุณค่าและนิยามของความสุขแตกต่างกัน
 
     หนังสารคดีเรื่อง A State of Mind (2004) โดย แดเนียล กอร์ดอน ผู้กำกับชาวอังกฤษ ตามติดประสบการณ์ชีวิตสาวน้อยนักกายกรรมชาวเกาหลีเหนือสองคนและครอบครัวของพวกเธอ ที่เข้าร่วมการแสดงแมสเกมส์ หรืออารีดังเฟสติวัล ปี ค.ศ. 2003 ณ กรุงเปียงยาง

     แมสเกมส์เป็นการแสดงกิจกรรมเข้าจังหวะกลางสนามกีฬา มีนักกายกรรมหลายหมื่นคนมาแสดงบนพื้นที่กว้างใหญ่ ประกอบด้วยแสงสีเสียงกระหึ่มตื่นตาตื่นใจ งานนี้จัดกันมาในเกาหลีเหนือตั้งแต่ปี ค.ศ. 1946 มีจุดเริ่มต้นจากประเทศเยอรมนี แล้วต่อมาญี่ปุ่นก็นำมาพัฒนาต่อ โดยจัดให้เป็นวิชากายกรรมยืดหยุ่นในโรงเรียน แล้วในที่สุดก็แพร่มาถึงเกาหลีเหนือ และกลายเป็นประเพณีสำคัญที่คงอยู่มาถึงทุกวันนี้

เผด็จการ

     ในหนังสือ The Little Book of Ikigai ของ เคน โมกิ อธิบายว่า “แมสเกมส์คือรูปแบบการบังคับบัญชาความปรารถนาของปัจเจก ให้เป็นไปตามความต้องการของหมู่เหล่า ผู้เข้าร่วมจะต้องผ่านการฝึกซ้อมอย่างยาวนานอย่างน้อยก็วันละสองชั่วโมง เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกของกลุ่ม”

     สิ่งที่น่าสนใจคือ ในหนัง A State of Mind ไปสัมภาษณ์สาวน้อยนักกายกรรมที่ร่วมแสดงในงานแมสเกมส์ เธอเล่าย้อนระลึกถึงความตื่นเต้นตอนได้แสดงต่อหน้านายพลคิมจองอิล ลูกชายของคิมอิลซุง ผู้ก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือ และเป็นพ่อของคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดคนปัจจุบัน

     แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ความสุขและความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของเธอ เป็นความรู้สึกส่วนตัวที่แฝงอยู่ในบริบททางสังคมของรัฐ เป็นความย้อนแย้งกันระหว่าง A State of Mind ภายในใจของปัจเจก กับ Hermit State ที่ครอบงำภายนอก

     ถึงแม้งานแมสเกมส์จะเป็นการแสดงของมวลหมู่ และผู้คนดูเหมือนเครื่องจักรกลไร้หัวจิตหัวใจ ไร้ความเป็นปัจเจกเสรี แต่ความสุขความพึงพอใจที่แต่ละคนได้ประสบในระหว่างร่วมการแสดง นั้นเป็นเรื่องส่วนตัวภายใน

     ดังนั้น ถ้าอยากจะทำความเข้าใจกับใบหน้าที่มีความสุขของนักแสดงแมสเกมส์ และเหล่าสาวน้อยเชียร์ลีดเดอร์ที่เห็นในข่าวล่าสุด รวมถึงภาพชาวบ้านชาวเมืองที่ปรากฏในข่าวหรือในสารคดีท่องเที่ยวประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่ดูเหมือนสงบสุขและปกติดี คุณจำเป็นต้องไปไกลกว่าภาพเหมารวมเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ ที่วิจารณ์ว่ามันเป็นการสร้างภาพหลอกลวงโดยรัฐบาลเปียงยาง แต่คุณต้องทำความเข้าใจกับจิตวิทยาของคนด้วย

เผด็จการ

     ในหนังสือ The Little Book of Ikigai บอกว่าสิ่งมีชีวิตมีความสามารถในการปรับตัว ถึงแม้จะตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุด สิ่งมีชีวิตก็ยังมีแนวโน้มที่จะดำรงอยู่ต่อไป โดยการมองหาความสุขเล็กๆ การหาเหตุผลมาอธิบายเข้าข้างตัวเอง หลอกตัวเอง ไปจนถึงการยอมรับสภาพและปล่อยวาง เหมือนนักโทษประหารต้องการลิ้มรสชาติอาหารมื้อสุดท้ายที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา

     เปรียบกับชีวิตการทำงานของเราทุกคน การหาความสุขจากการทำงาน บางครั้งอาจจะไม่ใช่การค้นพบงานที่ตัวเองรักที่สุด แต่มันคือการยอมรับหน้าที่การงานที่ตนเองกำลังทำอยู่ แล้วหาเหตุผลมาอธิบายว่ามันดีอยู่แล้ว เพื่อจะได้ยืนหยัดทำงานนี้ต่อไปได้ ความสุขและความสำเร็จในงาน เป็นเรื่องจิตวิทยาภายในใจของปัจเจก ไม่ใช่มาจากเงื่อนไขสภาพแวดล้อมการทำงานที่คนภายนอกมองเข้าไป
 
     เช่นเดียวกับปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในบ้านเรา ทำไมบางคนจึงอยากมีเสรีภาพมากขึ้นและเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว ในขณะที่บางคนดูพึงพอใจกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน ทุกอย่างขึ้นกับความคิดภายในใจของปัจเจก และชุดคุณค่าที่แต่ละคนยึดถือ

     ดังนั้น ใน Hermit State อย่างเกาหลีเหนือ งานแมสเกมส์ เชียร์ลีดเดอร์ และความรู้สึกรวมหมู่ กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจในชีวิตชาวเกาหลีเหนือ ทำให้พวกเขามี A State of Mind แบบนี้ ซึ่งแตกต่างไปจากผู้คนในสังคมเสรีอย่างสิ้นเชิง

     จึงเป็นไปได้ที่ไม่มีใครมาบังคับคุณ แต่ในสภาพแบบนั้น คุณได้ยอมรับสภาพ และบอกกับตัวเองว่ากำลังมีความสุข คุณจึงยิ้มแย้มอย่างมีความสุขจริงๆ มีความมุ่งมั่นปรารถนาที่จะดำเนินชีวิตต่อไป แม้ว่าในประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของคุณ มีระบอบการเมืองที่ห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ เรียกว่าห่างไกลสุดๆ เลยล่ะ