RAIN

RAIN: เหงาเพราะฝน ก็แก้ด้วยฝน 4 ขั้นตอนรับมือความเศร้า ฝนนี้จะเปียกปอนแค่ไหน เราจะรับมือได้

“หากเปรียบกับชีวิตของคน เมื่อยามสุขล้นจนใจมันยั้งไม่อยู่ ก็คงเปรียบได้กับฤดู คงเป็นฤดูที่แสนสดใส แต่ถ้าวันหนึ่งวันไหนที่ใจเจ็บจนทุกข์ ดังพายุที่โหมเข้าใส่ บอกกับตัวเองเอาไว้ ความเจ็บต้องมีวันหาย ไม่ต่างอะไรที่เราต้องเจอทุกฤดู…”

     ‘ฤดูที่แตกต่าง’ ‘ฤดูที่ฉันเหงา’ เพลงเศร้าเคล้าเสียงฝนที่วนกลับมาทุกฤดูกาล จนเริ่มสงสัยว่าคนเราเศร้ากันเป็นปกติ หรือฝนที่ไหลตกลงหน้าต่างจะทำให้ร้อนๆ หนาวๆ อยากมีใครสักคน แต่จนแล้วจนรอด เฝ้ารอจนฝนซา สุดท้ายก็ว่างเปล่า จนเหงาไปกว่าเดิม

     SAD (Seasonal Affective Disorder) ความผิดปกติทางอารมณ์ตามฤดูกาล อากาศที่เปลี่ยนไป ความเย็นชื้นที่คืบคลาน แสงแดดที่จางหาย ส่งผลต่อระบบร่างกาย ผลักให้เมลาโทนินฮอร์โมนที่ทำให้อยากพักผ่อนซึ่งอาจช่วยในวันนั้นที่อยากนอน แต่กลับไม่ช่วยอะไรในวันที่งานยังต้องส่ง ชีวิตยังต้องใช้ ใจยังต้องมีแรงบันดาล การที่ต้องมาซึมเศร้าเหงานอนอยู่อย่างนั้นไม่เป็นอันทำอะไรมันรบกวนใจให้ว้าวุ่นเกินไป ครั้นจะไปโทษเจ้าเมลาโทนินว่าหลั่งมากเกินไปก็ไม่ได้อีก

     โทษฮอร์โมนไม่ได้ ปักตะไคร้หยุดฝนก็ไม่น่าจะไหว เป็นคนขี้เหงาหาใครเข้าใจในหนึ่งฤดูก็ไม่ทันด้วยสิ แล้วจะทำอย่างไรได้ในสถานการณ์อย่างนี้?

     สายวิทยาศาสตร์อาจบอกว่า ต้นเหตุมาจากร่างกายปั่นป่วนก็ต้องแก้ทางกาย อุณหภูมิที่ต่ำไปส่งผลต่อรอบการไหลเวียนเลือดของหัวใจจนจิตใจเริ่มจะไม่ค่อยเคลื่อนไหว ถ้าจะช้าเอื่อยเปื่อยตามกันขนาดนั้นก็ขยับร่างกายบ้าง ออกไปวิ่งข้างนอก หรือจะเปิดเพลงมันๆ เต้นไปในห้องก็ตามใจ

     หรือถ้าอากาศมัวๆ เทาๆ ไร้แดดทำให้ระดับเซโรโทนิน ฮอร์โมนสายเซนเย็นใจช่วยให้ผ่อนคลาย เบิกบาน ช่วยกระตุ้น อาหารก็พอจะช่วยได้บ้าง จะน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตก็ช่วยทำให้เจ้าเซโรโทนินพุ่งพรวดได้ทันตา แต่อย่าลืมว่าความอร่อยนั้นสั้น น้ำหนักนั้นพอกยาว เซโรโทนินนั้นอยู่ไม่นานก็จากไปทิ้งไว้เพียงมวลไขมันพอกหนารอบกายที่ค้างไว้แทน

     ถ้าแก้ทางกายมันยากนัก เศร้าที่ใจก็ลองกลับมารักษาใจกันหน่อยไหม พอๆ กันกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ฝนที่ตกลงมาส่งผลต่ออารมณ์ก็ต้องแก้ด้วย ‘ฝน’ จัดการอาการ SAD ที่มากับฝนด้วยวิธีฝนๆ ที่เรียกว่า RAIN1

 

RAIN คืออะไร?

     ถ้าพูดกันภาษาโลกตะวันตก RAIN เป็นวิธีการทางจิตวิทยาในการรับมือกับอารมณ์ที่ไม่ปรารถนา ถ้าอธิบายด้วยโลกตะวันออก RAIN คงเป็นการภาวนา เมตตาตนเอง กลับมามีสติตื่นรู้อยู่กับตัว แต่ท้ายสุดแล้วจะอธิบายด้วยโลกซีกไหนก็ตามแต่ แก่นของ RAIN นั้นไม่ต่างกัน แค่ทำตามได้ง่ายๆ ด้วย 4 ขั้นตอนนี้

 

R: Recognition

     ‘รับรู้’ ถึงอารมณ์ที่เกิดขึ้น รับรู้ว่ามันกำลังทำอะไรกับใจเรา มันทำให้ปั่นป่วน มันทำให้เฉื่อยชา มันทำให้กลัวตัวสั่น หรือมันกำลังทำอะไร เฝ้าดูเจ้าอารมณ์ให้ชัด เฝ้าดูจนเห็นปฏิกิริยาที่มันกำลังทำกับเรา

 

A: Acceptance

     ‘ยอมรับ’ ความรู้สึกที่มีอยู่ ปล่อยให้รู้สึกไปเช่นนั้น ไม่ฝืน ไม่ต้าน ไม่คิดว่านี่เป็นอารมณ์ขุ่นหมอง นี่ไม่ควรอยู่ในตัวฉัน ไม่ต้องไปแปะป้ายดี ชั่ว สุข ทุกข์ให้กับมัน ปล่อยให้มันเป็นไป ยอมรับการเคลื่อนไหวของมันที่ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามากระทบใจ ยอมรับ และเฝ้าดูมันค่อยๆเคลื่อนผ่านไป

 

I: Investigate

     ‘สืบสวน’ หาต้นตอสาเหตุว่าอารมณ์นั้นเกิดจากอะไร หาคำตอบด้วยความสงสัย ไม่ใช่ตัดสิน ปล่อยตัวเองเป็นผู้สังเกตการณ์ พูดคุยกับมัน ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น ‘อะไรทำให้รู้สึกอย่างนั้นนะ … สิ่งที่ไม่พอใจจริงๆ แล้วคืออะไรกันนะ…’

 

N: Non-identiffiication

     ‘ไม่ผูกติดตัวตน’ ไม่นำอารมณ์ในขณะนั้นมานิยามตนเองว่าอารมณ์คือฉัน ฉันคืออารมณ์ เราคือสิ่งเดียวกัน ไม่ ไม่ทำอย่างนั้น ความเหงานั้นอยู่ตรงนี้จริง เรากำลังเสียใจ เรากำลังผิดหวังจริง แต่นั่นไม่ใช่เรา ตอนนี้มันอยู่ตรงนี้ มันเกิดขึ้นกับเรา แต่ไม่ มันไม่ใช่ตัวตนเรา

 

     “บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน ถ้ามองจากตรงนี้ เดี๋ยวก็มืด แล้วก็สว่าง อาจจะมีฝนก่อเป็นพายุ หรือลมลอยปลิวอยู่แค่นั้น สุขที่เคยเดินทางตามหามานาน ไม่ได้ไกลที่ไหน อยู่แค่นี้เอง”

 

     ครั้งหน้าฝนตก ฟ้าผ่า ฟ้าร้องอย่างไรก็ไม่เป็นไร อากาศจะเปลี่ยนแปลงบ่อย อารมณ์จะเปลี่ยนแปลงตาม เมลาโทนินจะคุกคาม เซโรโทนินจะตกฮวบลงไปบ้าง ก็ไม่เป็นไร ปล่อยให้อารมณ์นั้นเกิดขึ้น รับรู้ตามมันไป ไม่ฝีน ไม่ต้าน

 

     hear the pain,

     let it RAIN…

 


  • 1ตัวย่อ RAIN คิดขึ้นโดย Michele McDonald จากการบรรยาย “Keep Trying: Love and Wisdom for RAIN True North Insight: Freedom Through Understanding: Insight as the Path to Peace” ฟังได้จาก http://bit.ly/2Rdlrhk