เทคโนโลยีดิจิตอลรุกเข้ามาดิสรัปต์ทุกวงการ พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน การตลาดกลายเป็นงานยากขึ้นมาอีกระดับ เอเจนซีจะต้องปรับตัว หาไอเดียใหม่ๆ และความคิดสร้างสรรค์ที่พ้นออกจากกรอบเดิม
คนโฆษณาระดับแถวหน้าของวงการ อย่าง ‘เก้ง’ – ศราวุฒ ธูปะวิโรจน์ อดีต Head of Social ของโอกิลวี่แอนด์เมเธอร์ จึงชักชวนเหล่าคนรุ่นใหม่ในวงการมาร่วมงานกันในนาม CHQ (Creative Headquarter) บริษัทเอเจนซีโฆษณาไซซ์เล็กที่มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพสูง ที่นำความรู้และประสบการณ์มาสร้างสรรค์ชิ้นงาน อีกทั้งยังเปิดพื้นที่ใหม่ให้กับคนรุ่นใหม่ในแวดวงได้เข้ามาซึมซับบรรยากาศในการทำงานร่วมกัน เป็น Co-creative Sharing Space ชื่อว่า Glimpse Space
เอเจนซีขนาดเล็กที่บรรจุความคิดสร้างสรรค์ขนาดใหญ่
CHQ คือครีเอทีฟเอเจนซีขนาดเล็กที่ให้คำปรึกษาและวางแผนทางด้านงานโฆษณา (Creative Planning Solution) เราวิเคราะห์และมอบข้อเสนอทางเลือกใหม่ที่ดีที่สุดและครบวงจรให้กับลูกค้า เราทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างจริงใจและลงลึก หนึ่งโปรเจ็กต์จะใช้คนไม่มากเพื่อให้ทุกคนเข้าใจเนื้องานและความต้องการของลูกค้าตรงกัน ที่สำคัญ ถึงแม้จะเป็นเอเจนซีขนาดเล็กเพียง 20 คน แต่ทุกคนก็คั้นความคิดสร้างสรรค์สุดเข้มข้นได้เท่ากับเอเจนซีขนาดใหญ่
รองรับงานที่หลากหลายและครอบคลุม
เริ่มตั้งแต่การวางแผนธุรกิจกับลูกค้า (Business Planning) การสร้างภาพลักษณ์ของบริษัทออกไปสู่สายตาของผู้บริโภค (Branding) การสร้างอัตลักษณ์หรือเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์สินค้า (Corporate Identity) การสร้างกลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาด (Marketing Communication Strategy) การวางแผนการตลาดเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า (Experiential Marketing) การกระตุ้นผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าให้เกิดการบริโภคสินค้าหรือใช้บริการ (Activation) ดูแลเรื่องการนำเสนอสินค้าและบริการของลูกค้าด้วยการทำ Sales kit รวมไปถึงการดูแลด้าน Customer Service เป็นต้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดแข็งของเอเจนซีไซซ์มินิอย่างเราที่สามารถรองรับโจทย์งานที่หลากหลายได้ไม่ต่างจากเอเจนซีไซซ์ใหญ่
พื้นที่ที่ตอบโจทย์การทำงานและการใช้ชีวิต
เราพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้คนในองค์กรได้ทำงานอย่างเต็มศักยภาพ ด้วยความสุข เราจึงมองหาออฟฟิศที่ตอบโจทย์ชีวิตของคนทำงานให้ได้มากที่สุด เราตั้งโจทย์ไว้ว่าออฟฟิศของเราจะต้องติดรถไฟฟ้า เดินทางไปกลับสะดวก และได้พื้นที่ที่ให้อิสระในการออกแบบ ซึ่งที่แห่งนั้นก็คือชั้น 1 ของอาคารเอเชีย เราถูกใจที่นี่มาก เพราะเพียงแค่ลงรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีราชเทวีก็ถึงหน้าออฟฟิศแล้ว มีลานจอดรถเฉพาะออฟฟิศแยกส่วนไว้ให้ แม้ทำงานอยู่ดึกก็สามารถเปิดเครื่องปรับอากาศได้ทั้งคืน อาหารการกินสะดวก และใกล้กับแหล่งไลฟ์สไตล์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้แม้งานนั้นจะหนักแค่ไหนก็ตาม แต่ทีมงานก็ยังสามารถมีเวลาไปใช้ชีวิตของตัวเองได้
จุดประกายไอเดียด้วยบรรยากาศการทำงานที่เหมาะสม
ต่อมาเราจำลองบรรยากาศในการทำงาน เพื่อให้เอื้อต่อมนุษย์ทำงานสายเอเจนซี เพราะด้วยรูปแบบของการทำงานของเราที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทุกโปรเจ็กต์ที่ได้รับคือโจทย์ใหม่ที่ต้องคิดขึ้น มีตัวแปรมากมายที่ต้องคอยแก้ปัญหาอยู่เสมอ ทำให้เราต้องออกแบบพื้นที่ออฟฟิศหนึ่งชั้นด้วยโทนสีขาว สไตล์มินิมอล เรียบง่ายและโล่งโปร่งสบาย พื้นที่ทำงานของแต่ละคนไม่มีพาร์ทิชันกั้น จะเป็นเพียงโต๊ะตัวยาวแล้วหันหน้าเข้าหากัน เพื่อจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนไอเดียกันได้สะดวก แล้วให้พื้นที่ส่วนกลางมีขนาดใหญ่ให้ทุกคนเปลี่ยนบรรยากาศ ซึ่งเราเชื่อว่าไอเดียใหม่ๆ มักจะเกิดขึ้นจากบรรยากาศที่แตกต่างออกไป
‘Glimpse Space’ พื้นที่สำหรับกิจกรรมและเชื่อมโยงความคิดสร้างสรรค์
ออฟฟิศของเราประกอบไปด้วยสามเอเจนซีสามสไตล์ สามเป้าหมายของการทำงาน หนึ่งคือ CHQ สองคือ Stirr เน้นบิลต์งานใหม่ให้ดัง วัดผลได้จริง สามคือ –ism โรงงานไอเดียแบบ Branded Entertainment ที่มีงานครีเอทีฟโดนๆ ออกสู่ตลาดตลอดเวลา เมื่อสามบริษัทของเหล่าครีเอเตอร์มาอยู่รวมกัน นอกจากการที่เราได้แลกเปลี่ยนไอเดีย เชื่อมต่อการทำงานระหว่างกันภายในองค์กรแล้ว เราจำเป็นต้องเห็นความคิดสร้างสรรค์หรือสไตล์ ของเหล่าครีเอเตอร์หรือศิลปินคนอื่นๆ จากภายนอกบ้าง เราจึงตัดสินใจแบ่งส่วนหนึ่งของออฟฟิศให้เป็น Co-Creative Sharing Space ที่มีชื่อว่า Glimpse Space ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของออฟฟิศ แบ่งเป็นห้องฉายหนัง ที่ทุกคนสามารถโชว์หนังสั้น หรือพรีเซนต์ผลงานได้ อีกส่วนคือแกลเลอรี พื้นที่สำหรับจัดแสดงนิทรรศการหรือผลงานต่างๆ เช่น งานนิทรรศการภาพถ่ายของช่างภาพสตรีทโฟโต้จากนิวยอร์กเป็นครั้งแรก
ปลูกฝังทัศนคติในการทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งสำคัญที่สุดของการทำงานและการสร้างสรรค์ผลงาน คือการปลูกฝังวัฒนธรรมให้กับทุกคนในทีมด้วยหลัก 3 ข้อ หนึ่ง Creative mindset ทุกคนต้องรู้จักการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่การหาคนผิดและช่วยกันแก้ไข สอง Hard working but be fun ทุกคนทำงานหนัก ทำเต็มที่ในเวลางาน ทำงานตามโจทย์ ยากก็จริงแต่ต้องไม่เครียด ต้องมองในมุมที่แตกต่างอย่างสนุกสนาน และหลังจากจบงานก็ไปปาร์ตี้เฮฮาด้วยเครื่องดื่มหลากหลายที่เตรียมไว้ให้แบบไม่อั้นที่บาร์ของบริษัท และสาม Quality come ffiirst เราทุกคนยึดมั่นในเรื่องนี้ แม้องค์กรเราจะเล็กแต่คุณภาพต้องคับแก้ว และพร้อมตอบโต้กับลูกค้าหากงานยังไม่ดีพอ เพื่อให้ได้งานออกมาดีที่สุด
ความรับผิดชอบคือองค์ประกอบที่ทำให้ได้งานที่ดีและรวดเร็ว
เราเชื่อเรื่องการประชุมที่มีคุณภาพ ทุกคนไม่ต้องอยู่ในวงประชุมที่ยืดเยื้อ เพราะเมื่อได้เวลาเข้าประชุมตอน 10.30 น. ทุกคนมาตรงต่อเวลา พร้อมแล้วตั้งแต่ 10.00 น. โดยเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ไม่ต้องมาบีบเค้นกันตรงนั้น ทำให้การประชุมได้ผลสรุปที่รวดเร็ว แยกย้ายออกไปทำงานได้ทันที เราคิดว่านี่คือความรับผิดชอบและการเคารพหน้าที่ของตัวเองและของเพื่อนร่วมงาน นอกจากจะช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยลดความผิดพลาดของการทำงานลงได้อีกด้วย
มุ่งมั่นและพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง
เราคิดว่าอาชีพของพวกเราใกล้เคียงกับอาชีพนักกีฬา เพราะต้องผ่านการฝึกฝน ซ้อม หรือทำงานกันอย่างหนักหน่วง ทุกครั้งที่งานออกมาได้ก็เหมือนกับการลงสนามแข่งจริง ชั่วโมงทำงานหรือการซ้อมนั้นกว่าจะได้มาหนึ่งชิ้นงาน มันผ่านกระบวนการมากมายและกินเวลายาวนาน เราสร้างคลิปวิดีโอ 30 วินาที แต่ทำงานกันอยู่ 2-3 เดือน ไม่ต่างจากนักฟุตบอล แข่งจริง 90 นาที แต่ซ้อมเป็นพันๆ ชั่วโมง หากต้องการผลงานดีๆ ก็ต้องทำอย่างตั้งใจทั้งตัวเอง และการเล่นเป็นทีม อีกอย่างเรามองว่า อาชีพนี้เราต้องมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นก็จะมีคลื่นลูกใหม่ๆ มาแซงเราไปได้ เหมือนกับอาชีพนักกีฬา
WHERE TO FIND CHQ
Creative Headquarter (CHQ): 294/1 อาคารเอเชีย ถนนพญาไท แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์: 0-2215-3726
Glimpse Space: www.facebook.com/GlimpseSpace