ถ้าคุณเป็นคนสนใจปรากฏการณ์ทางสังคม คุณน่าจะพอจับกลิ่นได้บ้างว่า เอ๊ะ ทำไมช่วงหลังๆ มานี้เริ่มเห็นคนเดินเทรล ไปปีนเขา หรือไปแคมปิ้งกันมากขึ้น หรือกระทั่งเห็นคนเมืองหันมาสนใจเรื่องป่าอย่างผิดหูผิดตา ปรากฏการณ์เหล่านี้มีที่มาที่ไปอยู่ ยิ่งถ้าคุณเชื่อว่าสื่อและผู้คนต่างเป็นอิทธิพลทางความคิดต่อกันและกัน กระแสสีเขียวดูจะเป็นไวรัสทางความคิดที่ถูกส่งต่อกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่า ไวรัสความคิดไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นมาลอยๆ แต่มักจะมีที่มาที่ไปหรือแนวคิดแบ็กอัพซ่อนอยู่ เช่น แนวคิดรณรงค์พลาสติกมีแนวคิดเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นฐาน แนวคิดเรื่องมังสวิรัติมีเรื่องสุขภาพและธรรมชาติเป็นฐาน เป็นต้น ...
ถือเป็นความทุกข์ร่วมสมัยของคนยุคนี้ก็ว่าได้ เมื่อเราต่างโตมาในยุคที่พูดถึงแต่ความสำเร็จ หรือคุณจะเถียงว่าไม่จริง ที่ทุกวันนี้คำว่าความสำเร็จกลายเป็นคำสามัญที่มีให้เห็นแทบทุกอณู ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา คอนเทนต์ในโลกออนไลน์ หรือกระทั่งป้าข้างบ้านก็พร้อมจะถามถึงความสำเร็จอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน การเติบโตมาในยุคที่พูดถึงความสำเร็จ ทำให้ใครหลายคนใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข เพราะคำว่าความสำเร็จกลายเป็นเป้าหมายฝังหัวว่าต้องทำให้ได้ พวกเราเลยได้เป็นสักขีพยานแห่งยุคสมัยที่ผู้คนพยายามแสดงออกถึงความสำเร็จของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง โดยทั้งหมดทั้งมวลทำไปเพราะจะได้เป็นที่ยอมรับจากคนอื่น เช่น การป่าวร้องผ่านสื่อโซเชียลฯ ว่าพวกเขาได้ทำงานที่นั่นที่นี่แล้วนะ พวกเขาได้ไปเที่ยวตรงนั้นตรงนี้แล้วนะ...
พระเจ้าสร้างมนุษย์ตามลักษณะของพระเจ้าฉันใด พระเจ้าก็สร้างโลกทั้งใบด้วยการพูดออกมาฉันนั้น งั้นคุณก็คิดดูละกันว่า พลังในการสร้างหรือทำลายอะไรสักอย่างของมนุษย์อยู่ที่ใด? ใช่แล้ว มันอยู่ที่คำพูดนั่นเอง ครั้งหนึ่งพ่อเราเล่าให้เราฟังว่า สมัยพ่อเป็นวัยรุ่น พ่อได้ทำผิดพลาดเรื่องหนึ่ง ซึ่งสุดท้ายกลายมาเป็นบทเรียนสอนชีวิตพ่อจนทุกวันนี้ พ่อเล่าว่าสมัยเรียนหนังสือ พ่อได้เป็นหัวหน้าชั้น ทีนี้ มีวันหนึ่งได้รับมอบหมายให้จัดกิจกรรมใหญ่ของรุ่น ทว่าตอนนั้นพ่อก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่มีความคิดเป็นของตัวเอง พ่อไม่เห็นด้วยกับความคิดของอาจารย์ที่อยากให้มีพิธีทางการ...
คุณเชื่อไหมว่า บทความนี้เขียนโดยคนที่อ่านหนังสือไม่ค่อยออก! เราขอสารภาพตามตรงว่าเราเป็นดิสเลกเซีย (Dyslexia) หรืออาการผิดปกติในการเรียนรู้ทางภาษา ซึ่งกรณีของเรานั้นเป็นปัญหาด้านการออกเสียง เราเลยออกเสียงผิดๆ ถูกๆ เป็นประจำ และมักมีปัญหาในการสะกดคำ เหตุผลเพราะสร้างเสียงขึ้นมาเองในหัวไม่ได้ ถ้าคำไหนไม่คุ้นหรือไม่เห็นมาก่อน ก็จะออกเสียงหรือเขียนไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังทำงานเป็นนักเขียน (ฮาๆ) ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอเริ่มด้วยการบ่นและระบายความทุกข์ก่อนว่า...
ครั้งหนึ่งตอนเราไปเที่ยวรัสเซีย และมีโอกาสเห็นมงกุฎของกษัตริย์รัสเซียตั้งโชว์ในพิพิธภัณฑ์ ตอนนั้นเราคิดถึงเรื่องหนึ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อนคือ อำนาจเป็นเรื่องหอมหวาน แต่อีกด้านมันก็พ่วงกับภาระอันหนักอึ้งเหมือนกับมงกุฎที่มีน้ำหนักเฉลี่ยถึง 4 กิโลกรัม พูดอีกอย่างคือ มงกุฎเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจ แต่อีกด้านมันก็หนักหัวสุดๆ เหมือนกัน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผู้ปกครองล้วนแต่มีภาระใจเรื่องหนึ่งร่วมกัน คือการหาเหตุผลหรือความชอบธรรมว่าทำไมคนอื่นๆ ถึงต้องยอมรับอำนาจของพวกเขา อย่างในสมัยเริ่มต้นสังคมมนุษย์ที่ยังไม่ซับซ้อนนัก เดิมทีมนุษย์เราเป็นนักล่าและหาของป่า คนที่ล่าสัตว์เก่งๆ...
คุณคงได้ยินประโยคนี้บ่อยๆ ว่า ‘ไม่มีใครรู้จักตัวเราดี เท่ากับตัวเราเอง’ จริงๆ ไม่มีอะไรผิดเลยสำหรับประโยคนี้ เพราะโดยมากก็เป็นตัวเราเองนี่แหละที่จะรู้จักตัวเองดีกว่าคนอื่น แต่ว่าการบอกว่าเรารู้จักตัวเองดีกว่าคนอื่น ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะรู้จักตัวเองถูกต้องไปทุกเรื่อง ยกตัวอย่างล่าสุด ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เราไปเดินขึ้นดอยหลวงเชียงดาว ที่จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทางไป-กลับเกือบ 20 ก.ม. ซึ่งทริปนี้ไม่ใช่การตัดสินใจที่เราเต็มใจสักเท่าไร แต่เพราะมีเหตุตกกระไดพลอยโจนที่ปฏิเสธไม่ได้...
การทำตามที่คนอื่นทำไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีตัวอย่างให้เดินตามอยู่แล้ว ทว่าการจะทำสิ่งใหม่ขึ้นมา คนเขาออกแบบหรือมีวิธีคิดให้ได้สิ่งนั้นอย่างไร? แล้วจริงไหม ที่การคิดสิ่งใหม่เป็นเรื่องของคนมีไอเดียกระฉูดเท่านั้น? อันที่จริง มีวงการหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องขับเคลื่อนไปข้างหน้าตลอดเวลา นั่นคือวงการธุรกิจ เรียกว่าถ้าหยุดเดินก็เท่ากับถอยหลังแล้ว ฉะนั้นคนในวงการธุรกิจจึงตื่นตัวและพยายามหาวิธีคิดสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอด โดยวิธีคิดหนึ่งที่คนวงการนี้นิยมใช้กันในตอนนี้ก็คือ Design Thinking Design Thinking เป็นกระบวนการคิดและออกแบบเพื่อสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมา...
หลายครั้ง เรามักจะได้ยินคนต่างชาติพูดถึงไทยในแง่สีสันทางวัฒนธรรม พูดให้ตรงหน่อยคือคนต่างชาติมักจะอเมซิงกับข้าวของ ไลฟ์สไตล์ของไทยหลายๆ อย่างที่บ้านเขาไม่มี ยกตัวอย่าง ช้อนกลางในชามก๋วยเตี๋ยว ทิชชูสีชมพู (ที่คนมักไว้เช็ดช้อนส้อมอีกที) รถตุ๊กตุ๊ก ตะเกียบไม้ที่ป้ายสีเขียวสีแดง น้ำแดงไหว้ศาล ท่อน้ำสีฟ้าสดใส รั้วเหล็กดัดลวดลายต่างๆ โต๊ะปูนที่ทาสีให้เหมือนโต๊ะไม้ เป็นต้น ซึ่งถ้าจะจำกัดความข้าวของหรือไลฟ์สไตล์เหล่านี้ว่าคืออะไร? ก็สามารถเรียกสั้นๆ...
การเป็นโสดนั้นมีประโยชน์ ไม่ใช่แค่เหตุผลที่คนชอบยกๆ มาว่า มีอิสระ อยากทำอะไรก็ได้ทำเท่านั้น แต่ช่วงโสดยังสำคัญต่อการมีแฟนในอนาคตอีกด้วย! กล่าวคือ คนมักแยก ‘โสด’ กับ ‘มีแฟน’ เป็นคนละเรื่องกัน ทว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย เพราะตอนโสดเป็นช่วงที่สะท้อนว่า เรามีความสัมพันธ์กับตัวเราเองได้ดีแค่ไหน หากเรามีความสัมพันธ์กับตัวเองไม่ดี ก็ขอให้คิดเลยว่า ตอนที่เข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์ก็จะมีปัญหาตามมา ...
คุณอาจไม่ใช่คนที่เล่นเกมทุกวัน แต่เชื่อไหมว่าทุกวันคุณกำลังเล่นเกมอยู่ เพียงแค่คุณอาจไม่ได้สังเกตว่ามันคือเกมเท่านั้นเอง ซึ่งเกมที่ว่านี้คือเกมต่อรองผลประโยชน์กับคนอื่นในสังคม อย่างในหนังสือวิชาสังคมศึกษาเขียนไว้ว่า กติกาที่สังคมใช้อยู่ร่วมกัน นอกจากจะมีกฎหมายแล้ว ก็มีบรรทัดฐานและค่านิยมที่เป็นตัวกำหนดว่าคนในสังคมควรทำหรือไม่ควรทำอะไร ทว่านอกจากสองสิ่งนี้ สิ่งที่เป็นพื้นฐานสุดๆ ของมนุษย์ในการควบคุมและอยู่ร่วมกันคือ เกมผลประโยชน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ล่องหน แต่เราทุกคนต่างอยู่ในเกม ยกตัวอย่าง สมมติชุมชนหนึ่งมีทุ่งหญ้าส่วนกลางที่มีหญ้าพอจะให้ชาวบ้านแต่ละหลังปล่อยวัวมากินหญ้าได้หนึ่งตัว หมู่บ้านนี้จะไม่มีปัญหาเลยถ้าทุกบ้านเลี้ยงวัวแค่หนึ่งตัว แต่ปัญหาจะเกิดทันทีถ้าวันหนึ่งมีชาวบ้านสักคนโกงเกมนี้ด้วยการแอบเลี้ยงวัวตัวที่สอง...
ยุคนี้เวลาพูดถึงเรื่องผู้นำหรือเรื่องกลยุทย์ ส่วนใหญ่คนจะนึกถึงศาสตร์ของฝรั่ง ตำรงตำราอะไรทั้งหลายเรียกว่าเป็นตะวันตกแทบทั้งหมดเลย แต่จริงๆ โดยส่วนตัว เราชอบศาสตร์นี้ที่เป็นของตะวันออกมากกว่า โดยเฉพาะของจีน เหตุผลเพราะศาสตร์ตะวันออกไม่เน้นความตายตัว แต่เน้นความลื่นไหลและออกจากนามธรรม เปิดโอกาสให้แต่ละคนได้ใช้ประสบการณ์ตีความและปรับใช้กันเอง ซึ่งพอศาสตร์มีความลื่นไหล นั่นแปลว่าคนที่ศึกษาศาสตร์เหล่านี้จะต้องตระหนักเสมอว่า มันไม่มีสูตรตายตัว บางครั้งทำเร็วคือดี บางครั้งทำช้าคือดี บางครั้งเดินหน้าคือดี บางครั้งหยุดคือดี ฉะนั้น...
ครั้งก่อนเราเล่าถึงการทำการตลาดและสร้างแบรนด์สื่อคอนเทนต์ที่เป็นภาพใหญ่กันมาแล้ว ครั้งนี้มาถึงเรื่องสุดท้ายคือ ในระดับของการทำคอนเทนต์สักชิ้นหนึ่งออกมา ควรมีหลักการตลาดอะไรบ้าง สำหรับการเล่าเรื่อง (Storytelling) จริงๆ ก็มีหลายหลักการ ถ้าเป็นสายวรรณกรรม ก็อาจจะพูดในแง่ศิลปะของการค่อยๆ ปั้นเรื่องราวจากศูนย์จนเกิดเป็นเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อให้คนอ่านติดตามเรื่องราวต่อ มาจนถึงไคลแม็กซ์ (Climax) การคลี่คลายปม และหาวิธีจบเรื่องให้ตรึงใจ ...