ฉันมีความรักค่ะ เป็นความสัมพันธ์ที่ยาวนานและด้วยวัยก็มากพอที่จะแต่งงานกันเป็นเรื่องเป็นราวได้แล้ว แต่ฉันไม่เคยคิดอยากมีงานแต่งของตัวเองเลยสักครั้ง เดี๋ยวก่อน ฉันไม่ใช่พวกแอนตี้พิธีวิวาห์ เพียงแต่สบายใจที่จะรักกันไปแบบนี้ ซึ่งโชคดีที่บ้านเราต่างไม่ได้คาดหวังพิธีรีตองใดจากเราทั้งคู่ แต่ถึงอย่างนั้น ฉันรู้สึกดีใจเสมอ เมื่อเพื่อนหรือรุ่นพี่รุ่นน้องที่รักจะเป็นฝั่งเป็นฝา ฉันไปร่วมงานด้วยความยินดีจากใจ เพราะไม่เคยเห็นภาพตัวเองในชุดเจ้าสาว ภาพพรีเวดดิ้งที่คู่รักถ่ายก่อนถึงวันแต่งจริงจึงเป็นเรื่องไกลตัวฉันมาก เข้าใกล้ที่สุดก็คือ เพื่อนบางคู่ขอให้ฉันและคนรักช่วยถ่ายภาพพรีเวดดิ้งให้ ฉันรับหน้าที่จัดท่าจัดทางให้บ่าวสาว ส่วนคนข้างๆ เป็นช่างภาพ...
เขาและเธอเป็นคู่รักในฝัน ผู้หญิงสวย ผู้ชายหล่อ มีบ้านหลังใหญ่ในย่านคนมีสตางค์ ฝ่ายชายทำงานในบริษัทเอกชนบนตึกสูง ขณะที่ฝ่ายหญิงใช้เวลาไปกับการดูแลบ้านช่องและเลี้ยงลูกวัยซนสองคน ทั้งคู่เป็นคนหนุ่มสาวที่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ ตั้งตัวได้ตั้งแต่วัยสามสิบ เพื่อนบ้านบอกว่าสองคนนี้สมกันราวกิ่งทองใบหยก คืนหนึ่ง เธอบอกเขา “ฉันนึกไอเดียสุดวิเศษได้” เธอชวนเขาทิ้งอเมริกา ย้ายไปอยู่ปารีส ...
การเลือกตั้งผ่านไปแล้ว แต่บรรยากาศทางการเมืองก็ยังคึกคักและร้อนแรง ฉันเอง จากที่เคยเบื่อหน่ายส่ายหน้ากับบรรดานัก (เล่น) การเมืองหน้าเก่า ก็หันมาตื่นตัวเมื่อมีพรรคและนักการเมืองหน้าใหม่เข้ามาให้พิจารณาและรู้สึกถึงความหวังขึ้นมาบ้าง ก่อนการเลือกตั้งมาถึง ฉันและคนรักมักนั่งดูดีเบตของตัวแทนพรรคและแคนดิเดตนายกฯ บนเวทีต่างๆ ด้วยกันเสมอ ระหว่างนั้นก็หยิบยกประเด็นร้อนขึ้นมาเป็นบทสนทนาอยู่บ่อยๆ เราถูกบอกต่อๆ กันมาถึงเรื่องที่อย่าเอามาถกเถียงกันคือ ศาสนาและการเมือง คงเพราะสองอย่างนี้ประกอบขึ้นด้วยความเชื่อเฉพาะคนอยู่มาก ยิ่งในเรื่องการเมือง ก็ไม่ใช่เพียงจะชูว่าบุคคลหรือพรรคที่เราสนับสนุนมีดีอย่างไร...
เราเคลื่อนที่ไปบนรถส่วนตัว ออกห่างเกาะเล็กๆ ของจังหวัดระนองที่เพิ่งพากันไปหมกตัวข้ามคืน เพื่อนคนหนึ่งอาสาขับกลับ อีกคนนั่งข้างคอยเปิดเพลงตามคำขอของพวกเราไปตลอดทาง ล้วนเป็นเพลงรักที่ล้อมรัดเราเอาไว้ในรถที่แบ่งกันนั่งได้พอดี 5 คน เพื่อนของเราคนหนึ่งกำลังอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ลงตัว จึงชวนไปนอนเล่นริมทะเล เอาตัวเปียกน้ำ ค้างสายตามองฟ้ากว้าง ขอออกห่างจากต้นเหตุแห่งทุกข์แม้สักพักหนึ่ง แต่เราโตพอที่จะยอมรับได้ว่าความทุกข์ โดยเฉพาะทุกข์ที่เกิดจากรัก มีความสามารถพิเศษ คือมันจะตามตัวเราจนเจอ ต่อให้หนีไปสุดหล้า...
ทุกวันนี้คิดเสมอว่า ถ้าเราเอาน้ำตาลกรอกใส่ปากคนที่ชอบแล้วทำให้เขาพูดจาหวานๆ กับเราได้ เราจะเหมาน้ำตาลทั้งโรงน้ำตาลเลย เพราะคนอะไรหนอช่างปากแข็งเสียเหลือเกิน คำว่า ‘รัก’ ‘คิดถึง’ หรืออะไรก็ตามแต่ที่สากลโลกเรียกว่าภาษาหวานๆ ไม่เคยหลุดออกจากปากหรือปรากฏอยู่ในหน้าแชตไลน์ จนเราอดน้อยใจและอดสงสัยไม่ได้ว่านี่เราเป็นคนสำคัญของเขาจริงๆ หรือเปล่า ทำไมถึงได้ห้วนและแห้งแล้งเหมือนคนเกลียดกันขนาดนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีมุมน่ารัก เพราะจริงๆ เขาก็มีความมุ้งมิ้งกุ๊กกิ๊กอยู่บ้างเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ใช่คำพูดเท่านั้น นี่เลยเป็นเหตุผลที่เรายังคงตกหลุมรักเขาเรื่อยๆ...
เคยสังเกตกันไหมครับว่า เมื่อตัวเราหรือใครก็ตามกำลังมีความรัก คำคุ้นหูที่มักจะได้ยินบ่อยที่สุดจากการถูกเพื่อนและคนรอบข้างแซว (รวมทั้งตัวเราเองยังใช้แซวคนอื่นด้วย) ก็คือ ‘หวาน’ หรือ ‘sweet’ น่าแปลก ทั้งๆ ที่ความรักไม่ใช่อาหารที่ทำให้ท้องอิ่ม แต่ทำไมจึงถูกยกขึ้นเปรียบเทียบกับรสหวานอยู่เสมอ หรือว่าความรักและความหวานจะไม่ใช่เพียงคำเปรียบเปรยเท่านั้น ในวรรณคดีเรื่อง ‘พระอภัยมณี’ ของสุนทรภู่ และบทประพันธ์เรื่อง ‘นิราศทวาราวดี’...
หนึ่งในละครที่ฉันกำลังชอบมาก คือเรื่อง วัยแสบสาแหรกขาด ที่สะท้อนปัญหาด้านพฤติกรรมและความสับสนของเด็กวัยเรียนวัยรุ่น เล่าผ่านโครงการของโรงเรียนที่ช่วยเข้าไปคลี่คลายถึงต้นตอปัญหา ซึ่งล้วนมีที่มาจากครอบครัว มาจากพ่อและแม่ที่เป็นโลกใบแรกของพวกเขา จากญาติพี่น้องที่เป็นสิ่งแวดล้อมแรกที่เด็กมี ในโอบอ้อมที่ควรเป็นต้นธารของความรัก บางบ้านกลับอ้างว้าง เป็นความรุ่มร้อนที่เด็กอยากวิ่งหนี หรือเป็นระเบิดเวลาที่สามารถปลิดชีวิตที่กำลังเจริญเติบโตให้เป็นจุณได้ทุกเมื่อ ในภาค 2 ที่ทีมละครใช้คำว่าโครงการ 2 ครูทรายทิพย์...
ฉันปั่นจักรยานเป็นเอาตอนอายุ 20 กว่า ฝึกปั่นด้วยอาการกล้าๆ กลัวๆ แต่ในที่สุดก็ปั่นเป็นจนได้ จำได้ว่าน้ำตาฉันไหลออกมา ไม่ใช่ดีใจที่ปั่นจักรยานได้แล้วหรอก แต่ไม่กี่วันก่อนหน้า ฉันเพิ่งถูกบอกเลิก จึงเยียวยาตัวเองด้วยการตั้งมั่นว่าจะปั่นจักรยานให้เป็น พอทำได้แล้วก็ดันคิดถึงคนที่เพิ่งทิ้งกันไปขึ้นมา แล้วก็กลายเป็นปล่อยโฮไปบนจักรยานราวกับอยู่ในมิวสิกวิดีโอเสียอย่างนั้น รักครั้งแรก อกหักครั้งแรก แน่นอนว่าเจ็บชะมัด...
หลังเรียนจบ ในวันที่เก็บข้าวของเตรียมย้ายออกจากบ้านเพื่อมาเช่าห้องอยู่ลำพัง ฉันเจอกล่องใบเก่าที่เก็บภาพถ่ายของพ่อแม่ใบที่ชอบเอาไว้ หนึ่งในนั้นคือภาพวันแต่งงานของทั้งคู่ พ่ออยู่ในชุดสูท หนุ่มฟ้อและยังหุ่นดี ส่วนแม่สวยมาก ร่างบางอยู่ในชุดไทยสีเหลืองนวล ผมยาวถูกรวบเป็นหางม้ายกสูง พ่อยิ้มกว้าง ส่วนแม่อมยิ้มมุมปาก ย่ายืนอยู่ตรงกลาง ฉันจำได้, ในวัยที่ยังชอบเขียนบันทึก, ฉันเขียนถึงภาพถ่ายใบนี้ว่า ‘เห็นรูปถ่ายพ่อแม่แต่งงานกัน อยากถามพ่อกับแม่จัง วันนั้นเขารักกันเพราะอะไร’ ...
ฉันจำไม่ได้ว่ารับเอาเพลง Love ของ จอห์น เลนนอน เข้ามาสู่ชีวิตตอนไหน ก็คงเป็นช่วงวัยรุ่นนั่นล่ะ เพียงแต่ไม่แน่ใจว่าตอนนั้นเรารู้จักรักใครแล้วหรือยัง แต่ฉันก็โอบรับเพลงรักที่สุดแสนจะใช้ศัพท์เรียบง่ายนี้ไว้ในชีวิตมาจนทุกวันนี้ ทุกครั้งที่พูดคุยกับใคร หรือผุดคิดลำพังว่ารักคืออะไร เพลง Love มักแว่บเข้ามาเสมอ “Love is real, real is...
เมื่อความสัมพันธ์ที่พยายามสร้างมาโดยตลอดต้องสิ้นสุดลงอย่างที่ไม่ทันได้เตรียมใจ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับฝ่ายถูกบอกเลิก (หรือในกรณีที่เลวร้ายกว่านั้นอาจเรียกว่าถูกทิ้ง) ที่จะต้องทำใจยอมรับ กว่าจะผ่านช่วงเวลาโศกเศร้าแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับมาได้ กว่าหยดน้ำตาที่เสียไปจะหยุดรินไหล กว่าจะซ่อมแซมหัวใจให้เข้มแข็งอีกครั้ง กว่าจะกอบกู้ตัวตนและความรู้สึกหลังจากแหลกสลายเกือบไม่เหลือชิ้นดี เพราะเอาไปผูกติดกับใครบางคนที่คิดว่าดีพอจะเห็นคุณค่าแต่กลับกลายเป็นว่าเขาหรือเธอคนนั้นคือคนเดียวกันที่กล้าทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามอบให้ด้วยความรัก ทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างหนักแค่ไหนไม่มีใครรู้ แม้ว่าเรื่องราวทั้งหมดได้เกิดขึ้นและจบลงไปแล้ว จนเราเรียกมันว่า ‘อดีต’ แต่เชื่อเถอะว่าทุกความรู้สึกในวันวานยังคงเป็นภาพจำชัดเจนที่ไม่มีวันเลือนหาย และเมื่อนึกย้อนกลับไปทีไร ก็อดกลั้นหัวเราะทั้งน้ำตาไม่ได้กับการกระทำของตัวเองในตอนนั้น การเสียคนรักเพราะเขาหรือเธอไปมีคนอื่นมันทำให้คนหนึ่งคนเป็นบ้าได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ...
ตั้งแต่จำความได้ ก็รู้ตัวเองว่าเป็นคนที่ชอบเล่นเกม จนเผลอคิดไปว่าบางครั้งของชีวิตก็ไม่ต่างไปจากเกมเท่าไหร่นัก ผมชอบเล่นเกมกระดาน เสน่ห์ของเกมประเภทนี้ คือทำให้ผู้เล่นมีปฏิสัมพันธ์กันแบบเรียลไทม์ ยิ่งไปกว่านั้น มันทำให้เราได้รู้จักตัวตนทั้งของตัวเองและของเพื่อนร่วมวงว่าเป็นคนแบบไหน ซึ่งเป็นผลมาจากระบบภายในเกมที่ถูกออกแบบให้ผู้เล่นเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา เกิดเป็นความสนุกที่หาได้ยากจากเกมที่ต่างคนต่างเล่น ไม่ได้เผชิญหน้ากันตรงๆ เพราะการเผชิญหน้านี่แหละที่ทำให้เกิดความตื่นเต้นและรู้สึกท้าทาย เมื่ออยู่ในเกม ระบบเกมจะผลักดันให้เราต้องใส่พลังกันแบบเต็มที่เสมอ ผมเองก็เป็นเช่นนั้น และเชื่อว่าทุกคนในวงก็น่าจะเป็นเช่นเดียวกัน เหมือนการขับรถแข่งในสนาม เร็ว...