อีกนิดฉันจะเทิร์นโปร! เชื่อว่าหลายคนจะต้องมีคำนี้อยู่ในใจ เมื่อทุกวันนี้ต้องหันมาจับตะหลิวทำกับข้าวกินเองให้มากขึ้นกว่าเดิม หลังจากการประกาศ Work From Home และล่าสุดกับการประกาศเคอร์ฟิวในช่วงกลางคืน ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่คิดเช่นนั้น แต่ทว่าการทำอาหารในครั้งนี้แตกต่างออกไปจากเมนูในแต่ละวัน การเทิร์นโปรของฉันมาพร้อมกับคลังความรู้อิงประวัติศาสตร์นิดๆ ตามเทรนด์หน่อยๆ...
น้องสะใภ้ และกลิ่นอายภูเขียว “ฮาโหลแม่ ปีนี้บ่ได้กลับบ้าน คิดฮอดล้ายหลาย” (ลากเสียงยาว) (ฮัลโหลแม่ ปีนี้ไม่ได้กลับบ้าน คิดถึงมากๆ เลยนะ) ฉันแอบได้ยินเสียงน้องสะใภ้วิดีโอคอลคุยกับแม่เมื่อช่วงก่อนวันสงกรานต์ที่ผ่านมา “บ่เป็นหยังดอกลูก...
ร่องรอยจากท้องนาก่อนเข้าฤดูฝน เสียงจักจั่นตัวผู้ตีปีกดังเซ็งแซ่อยู่บนต้นไม้ใหญ่หลังบ้าน แข่งกับเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มมาจากถนนเล็กๆ ที่ผ่านหน้าบ้าน เสียงหนึ่งดังขึ้นเพื่อประกาศฤดูกาล อีกเสียงดังขึ้นเพื่อบ่งบอกถึงยุคสมัย กลายเป็นทำนองดนตรีน่าขบขันที่ฉันฟังแล้วกลับรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก ตรงข้ามกับแม่ที่ยังคงชื่นชอบและยังอยากได้ยินเสียงหวานๆ ที่ดังมาจากธรรมชาติมากกว่าเสียงล้อบดถนนคอนกรีต หรือเสียงเครื่องยนต์ที่ฟังแล้วให้ความรู้สึกอึดอัดคล้ายกับเสียงคนไอแห้งๆ ฟังแล้วไม่ต่างจากเสียงเคาะท่อเหล็กที่ขึ้นสนิม ...
ลิ้นชักไม้ และรูปใบเก่า ตั้งแต่กงจากไป ฉันก็ไม่เคยฝันถึงกงเลย จนกระทั่งช่วงสิ้นปีที่แล้ว ก่อนจะถึงวันครบรอบหนึ่งขวบเต็มของลูกชายของฉัน ฉันก็ฝันเห็นกงในชุดตัวเก่ง เสื้อผ้าฝ้ายสีขาว กางเกงแพรสีน้ำเงิน สวมสร้อยพระที่มีมากกว่าหนึ่งองค์ ใส่แว่นสายตาทรงกลมที่เอียงกระเท่เร่ สองแก้มทาด้วยแป้งหอมเด็กยี่ห้อฮอลลีวู๊ด กลิ่นอ่อนๆ ที่ลอยมาเตะจมูก ในอ้อมกอดของกงคือเหลนชาย ลูกชายของฉันในวัยแรกเกิด กงค่อยๆ ก้าวลงบันไดมาจาก ‘เหล่าเต้ง’...
กลิ่นฝนมาพร้อมกับ ‘ความทรงจำ’… ตั้งแต่ที่ฉันเริ่มนั่งคุยกับแม่เรื่องอาหารอีสานและชีวิตบ้านนอกในวัยเด็กเมื่อช่วงกลางฤดูแล้ง กระทั่งเข้าฤดูฝน สีหน้าและคำพูดของแม่ทำให้ฉันคิดแบบนั้นเรื่อยมา ตลอดการพูดคุยกับแม่ ทำให้เรารู้ว่า ทุกฤดูที่ผ่านไปในแต่ละปี ชีวิตของแม่ในวัยเด็กก็แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่ แม่ใช้ชีวิตบ้านนอกได้เพียงสิบสามปีเท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงสั้นๆ แต่กลับกลายเป็นว่าแม่สามารถบันทึกความทรงจำดีๆ...
ท้องฟ้า สายฝน และการเอิ้นขวัญ ทุกครั้งที่เมฆเทาเข้มเคลื่อนตัวมาคลุมท้องฟ้าจนเปลี่ยนเป็นสีหม่น หากมีลมกระโชกแรงมาเป็นระลอกๆ นั่นแสดงว่า อีกไม่ช้าฝนก็จะตก หยดน้ำที่กำลังพอดี นำความอุดมสมบูรณ์มาสู่ชาวบ้าน รวงข้าวในนาเจริญงอกงาม พืชผักต่างๆ ผลิดอกและแตกใบอ่อน สัตว์กินได้ตัวเล็กตัวน้อยต่างอ้วนพี มีแอ่งน้ำเล็กๆ น้อยๆ ให้ได้กระโดดย่ำโคลนเล่นอย่างสนุกสนาน...
ฤดูร้อน “ร้อนอีกปีแล้วสิเนอะ” เสียงพึมพำของเด (คำเรียก ‘พ่อ’ ในภาษาจีนไหหลำ) ที่กำลังสอยมะม่วงเขียวเสวยอยู่หน้าบ้าน ลอยมาตามสายลมเอื่อยๆ ที่หอบเอาไอร้อนมาเป็นระยะๆ สลับกับเสียงขยับปีกของจักจั่นที่ดังก้องมาจากต้นฉำฉาหลังบ้าน แตรสัญญาณตามธรรมชาติที่บ่งบอกว่า ฤดูร้อนเริ่มต้นขึ้นแล้ว ...
ความจริง หรือ ความฝัน? เมื่อคืนฉันฝันดี – ฝันเห็นตาบุและยายชีน้อยที่เสียไปนานแล้ว ฉันเห็นบึงกว้างสุดสายตา เรือลำน้อยที่มีรอยน้ำซึม เล้าเป็ดสองชั้น กระต๊อบเก่าคร่ำคร่าใต้ถุนสูง และตัวฉันเองในวัยเด็กใส่ชุดกระโปรงสีชมพูสลับขาว ฉันทบทวนความฝันและนั่งปะติดปะต่อเรื่องราว...
อากงแห่งเกาะไหหลำ และธุรกิจโรงสีข้าว ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ท้องนากว้างสุดลูกหูลูกตาในหมู่บ้านทุ่งโพธิ์ จังหวัดพิจิตร ยังคงว่างเปล่า วันไหนที่ฝนตกพอให้ผิวหน้าดินอ่อนนุ่ม เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นชาวนาก็จะกระโดดขึ้นรถแทรกเตอร์พ่วงด้วยผานเจ็ดหรือผานพรวน (เครื่องมือเตรียมดินชนิดหนึ่ง เหมาะสำหรับการไถเตรียมดินระดับตื้นๆ ในครั้งแรก) จากนั้นก็ขับลงท้องนาเพื่อไถเปิดหน้าดิน ซึ่งชาวนาจะเรียกวิธีนี้ว่าการไถหยาบ จากนั้นก็จะไถละเอียดอีกครั้งด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่าไถลูกกลิ้ง ทั้งหมดเพื่อเตรียมดินสำหรับการหว่านเมล็ดข้าวเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนเต็มฤดูในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ...
เอาแรง กลิ่นปลาย่างลอยมาพร้อมกับละอองฝนโปรยปรายในยามเช้า แม่คิดถึงนาข้าวของตาเข้าแล้ว – แม่ทอดสายตาออกไปยังถนนสองเลนเล็กๆ หน้าบ้าน มองไกลออกไปเรื่อยๆ จนถึงถนนลูกรัง ค่อยๆ บีบทางแคบลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นทางเกวียน ผ่านหน้าบ้านไม้ยกสูง ก่อนตัดเข้านาข้าวของตาซึ่งห่างออกไปอีกหลายกิโลเมตร ...
ของเล่นธรรมชาติ โชคดีที่ข้างบ้านของฉันมีพื้นที่สีเขียวที่กึ่งร้างกึ่งใช้งาน ในอดีตตรงนี้เคยมีบ้านไม้อยู่หลายหลัง และทุกหลังก็คือเพื่อนเล่นแก๊งวัยเด็กของฉัน ที่จะใช้พื้นที่ที่เหลือเล่นด้วยกันตั้งแต่ปีนต้นตะขบ เล่นขายของ โดดหนังยาง วิ่งไล่จับ เป่ากบ ดีดลูกแก้ว และอีกสารพัดที่งัดกันมาเล่น แต่แล้วไม่นานทุกคนก็ย้ายออก...
ฤดูลม และว่าวจุฬาอีสาน “ปีนี้จะหนาวไหมนะ” ฉันจำได้ว่าแม่มักเอ่ยถามท้องฟ้าแบบนี้เป็นประจำทุกปี หลังจากบ่นเรื่องฝนตกหนักจนทำให้เสื้อผ้าส่งกลิ่นเหม็นอับแทบทุกวัน ถึงอย่างนั้นแม่ก็ยังชอบฤดูฝน แต่ก็อดคิดถึงฤดูหนาวไม่ได้ แม่บอกว่า หน้าหนาวที่บ้านกอกจะเริ่มตั้งแต่ราวปลายเดือนพฤศจิกายน สังเกตได้จากไอเย็นที่เริ่มพัดมาเป็นระลอกๆ มองไปในนาก็จะเห็นรวงข้าวของตาเริ่มโน้มตัวลงต่ำ อีกไม่ช้าก็จะได้เวลาเก็บเกี่ยว...