พักหลังๆ มานี้ ผมชอบใส่เสื้อพาร์กาของยูนิโคล่ไปไหนมาไหนเป็นประจำ จนมักจะโดนเพื่อนล้อเลียน และถามว่าทำไมถึงได้แต่งตัวเหมือนเดิมทุกวัน
เพราะมันง่ายดี – ผมตอบ
“
ชีวิตนี้จึงมีทั้งความง่ายและความยากในเวลาเดียวกัน การมีชีวิตนั้นยาก แต่ธรรมชาติของชีวิตกลับเป็นเรื่องง่าย
”
คงไม่ใช่การมีชีวิตง่ายๆ ถึงขนาดอุดมคติแบบเดียวกับ โจน จันได ที่เขามักจะให้สัมภาษณ์ออกสื่อต่างๆ ว่า “ชีวิตต้องง่าย ถ้ามันยากแสดงว่ามันผิด” เวลาเอาหนังสือที่เขาเขียนไปขอลายเซ็น เขาก็เขียนประโยคนี้แนบมาให้ มันเป็นเหมือนคำขวัญประจำตัวเขาไปแล้ว
เพื่อนบางคนบอกว่าชีวิตเรียบง่ายแบบนั้นเป็นแค่โฆษณาชวนเชื่อ ชีวิตที่วันๆ ขุดดินถางหญ้า อยู่บ้านดิน ใส่เสื้อม่อฮ่อม กินน้อยใช้น้อย ไม่ต้องมีทรัพย์สินเงินทองมากมายนัก ชีวิตแบบนี้มีได้สำหรับบางคนที่มีความพร้อมอยู่แล้ว ไม่ใช่ชีวิตสำหรับทุกคน โดยเฉพาะคนรากหญ้าที่ยังต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนเรื่องปากท้อง
สำหรับชนชั้นกลางในเมืองใหญ่อย่างเรา เมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความรีบร้อนวุ่นวายตลอดทั้งวัน ทุกเรื่องทุกราวที่ประเดประดังเข้ามา ดูเหมือนว่ามันจะยากเย็นไปเสียหมด ทั้งชีวิตการงานและชีวิตส่วนตัว จึงอยากจะขอเว้นเรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัวไว้สักเรื่องที่จะปล่อยให้มันง่ายๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ต้องห่วงกังวล ก็คงจะดีไม่น้อย
แล้วตกลงว่าชีวิตนี้มันยากหรือง่ายกันแน่? ส่วนไหนของชีวิตเป็นเรื่องยาก และส่วนไหนของชีวิตเป็นเรื่องง่าย
ผมนึกถึงภาพปลาที่ว่ายทวนกระแสน้ำขึ้นไปเพื่อวางไข่ มีคลิปวิดีโอข่าวเหตุการณ์ภัยพิบัติจากพายุเฮอร์ริเคน น้ำฝนไหลบ่าลงแม่น้ำจนท่วมเอ่อขึ้นมาถึงระดับถนน ปลาในแม่น้ำพากันว่ายทวนขึ้นมาจนถึงบนพื้นผิวถนน แล้วก็พยายามกระโจนข้ามไปอีกฝั่ง ถ้ามองแบบนี้ก็จะเห็นว่า… ช่าย… ทุกชีวิตล้วนต้องดิ้นรน
มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ผมเคยดูในทีวีตอนเด็กๆ นักชีววิทยาอยากรู้ว่าต้นไม้เติบโตได้อย่างไร ตามปกติแล้ว เมื่อเราเอาเมล็ดพืชฝังลงดินแล้วรดน้ำ สักวันสองวันต้นอ่อนจะเริ่มงอกแทงพ้นพื้นดินขึ้นมา แล้วสมมติถ้ามันไปอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่แตกต่างออกไปล่ะ? อย่างเช่นในอวกาศไม่มีแรงโน้มถ่วง ไม่มีแสงสว่าง
พวกเขาทดลองโดยการนำล้อจักรยานมาติดตั้งกระถางดินเล็กๆ แทรกไว้ระหว่างซี่ล้อ ฝังเมล็ดพืช รดน้ำ แล้วปั่นล้อจักรยานให้หมุนอยู่ตลอดเวลา เวลาผ่านไปวันสองวัน เมล็ดเริ่มงอกแทงพ้นดินในกระถาง แล้วหลังจากนั้นผลปรากฏว่าต้นไม้ก็ค่อยๆ เติบโตเข้าสู่จุดศูนย์กลางของกงล้อ
เมื่อล้อหมุนไป ทำให้เกิดแรงหนีศูนย์กลาง ต้นไม้เติบโตในทิศทางตรงกันข้ามกับแรงนั้น มันมุ่งเข้าหาศูนย์กลางของล้อเพราะคิดว่าเป็นทิศทางของท้องฟ้า มันไม่มีชีวิตแบบต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ตกอยู่ภายใต้แรงกระทำไปตลอด ถ้ามองแบบนี้… ช่าย… เห็นไหมว่าชีวิตนี้มันไม่ง่ายเลย
ลองมองไปอีกด้านหนึ่ง พวกนักทฤษฎีวิทยาศาสตร์ที่สร้างสูตรสมการเพื่ออธิบายความจริงของโลก พวกเขาถือว่าคณิตศาสตร์คือภาษาที่ธรรมชาติใช้สื่อสารกับมนุษย์ สูตรที่ยิ่งเรียบง่าย รวบรัด กระชับสั้น ใช้ตัวแปรน้อย มีเงื่อนไขน้อย จะยิ่งสะท้อนความงามของธรรมชาติ และยิ่งมีพลังในการอธิบายความจริงได้ดีที่สุด
แต่อย่างไรก็ตาม สูตรสมการที่เรียบง่ายก็ไม่ได้ถูกต้องกว่าอันที่ซับซ้อนเสมอไป เพียงแค่ว่าถ้ามันสามารถให้คำตอบหรือใช้งานได้ดีพอกัน สูตรสมการที่ง่ายกว่านั้นก็จะถูกต้องกว่า
จะว่าไปแล้วคงไม่มีใครหน้าไหนรู้อย่างแน่ชัดว่าความจริงแท้ของชีวิตคืออะไร เราก็ได้แต่คิดและเชื่อกันไปตามแนวทางของแต่ละคน และยิ่งไปกว่านั้น บางทีการมองชีวิตอาจจะมองในสองระดับ คือในระดับทฤษฎีและในระดับความเป็นจริง
ชีวิตนี้จึงมีทั้งความง่ายและความยากในเวลาเดียวกัน การมีชีวิตนั้นยาก แต่ธรรมชาติของชีวิตกลับเป็นเรื่องง่าย
มีสูตรสมการบางอย่างที่เรียบง่ายเอามากๆ แฝงอยู่ภายในชีวิตนี้ ความจริงนี้จะระบุแค่ว่าให้เรามุ่งหน้าไปทางไหน แล้วหลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับโลกรอบตัวว่าจะนำพาชีวิตเราไปอย่างไร บรรดาตัวแปร เงื่อนไข หรือข้อกำหนดที่เพิ่มเข้ามามากเกิน โดยไม่ได้ช่วยทำให้อะไรๆ ดีขึ้น ถือเป็นความรกรุงรัง มากล้น ที่สมควรจะต้องถูกทอนออก ลิดออก
แจ็กเก็ตสีดำตัวโคร่ง เนื้อผ้าบางโปร่ง ผมหยิบมาสวมคลุมตัวไว้แล้วรูดซิปปิดขึ้นมาจนถึงคอ มันช่วยทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ จะเลือกใส่เสื้ออะไรก็ได้ สีอะไรก็ได้ ไม่ต้องห่วงว่าจะถูกโฉลกราศีกับวันหรือเปล่า บางทีอาจจะมีสกรีนรูปภาพหรือข้อความตลกๆ เพื่อต่อต้านหรือรณรงค์อะไรสักอย่าง เสื้อยืดพวกนี้เหลือค้างมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น พอเอาพาร์กาสวมทับไป ก็จะไม่มีข้อความอะไรที่จะสื่อสารออกไปอีกเลย
เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาทุกๆ เช้า เราจะรู้ว่ามีภาระหน้าที่หรือความรับผิดชอบอะไรที่ลำบากยากเย็น และจะต้องทุ่มเททำให้เสร็จ โดยไม่ต้องพร่ำพูดอะไร และไม่ต้องห่วงกังวลอะไร