Editor’s Note 516 : บ้านหลังสุดท้ายที่ปลายฟ้า

หลายเดือนมานี้ มีแมวจรจัดตัวหนึ่งมาขอข้าวกินที่หน้าบ้านเราทุกวัน มันจะมาวันละสองครั้ง เช้ามืดและตอนดึกๆ คือตอนที่เรากำลังจะออกไปทำงานและตอนเลิกงานกลับมาถึงบ้าน

ตั้งแต่ตีห้าฟ้ายังไม่สาง นาฬิกาปลุกให้เราตื่นมารีบอาบน้ำแต่งตัว มันอยู่ข้างนอกพอเห็นไฟในบ้านเริ่มเปิดสว่าง ก็จะมายืนส่งเสียงร้องเรียกอยู่หน้าประตู จิ๋วหลิว-แมวของเราจะออกอาการหงุดหงิด เดินไปเดินมารอบบ้าน คอยชะเง้อชะแง้มองออกไปหา และส่งเสียงร้องเหมียวๆ แข่งกับมัน พอเราแต่งตัวเสร็จ หยิบกระเป๋าสัมภาระจะออกจากบ้านไปทำงาน จิ๋วหลิวจะพยายามหาทางมุดประตูเล็ดลอดออกไป ในขณะที่มันอยู่ข้างนอก ก็พยายามจะมุดประตูเข้ามา กว่าจะออกจากบ้านได้แต่ละเช้า เราต้องคอยระมัดระวังและมีสภาพทุลักทุเลพอสมควร

มันเป็นแมวตัวเมียลายสลิดน้ำตาล และน่าจะโดนทำหมันแล้ว เพราะเท่าที่ผ่านมาหลายเดือนก็ไม่เคยเห็นมันตั้งท้อง ทั้งที่ในหมู่บ้านเรามีทั้งแมวบ้านและแมวจรเดินเพ่นพ่านกันอยู่ไม่น้อย พอลมหนาวเริ่มมาเยือน ตัวผู้ก็ร้องหง่าวๆ แล้วตามมาด้วยเสียงแมวฟัดกันเป็นประจำ

มืดค่ำหลังเลิกงาน เราขับรถกลับมาจอดเทียบที่หน้าบ้าน ยังไม่ทันได้ทอดถอนหายใจจากความเหนื่อยล้า มันจะรีบวิ่งปรู้ดออกมาจากความมืด ส่งเสียงร้องทักทาย พอเราก้าวลงจากรถมา สองแขนหอบสัมภาระมากมาย แฟ้มเอกสารและเครื่องโน้ตบุค สองมือพยายามเปิดกุญแจรั้ว มันจะเข้ามาคลอเคลียแข้งขา ไม่รู้ว่าเพราะดีใจหรือเพราะหิว

พอมองเข้าไปในบ้าน เห็นจิ๋วหลิวโผล่หน้ามาชะเง้อชะแง้อยู่ตรงช่องหน้าต่าง ส่งเสียงร้องเรียกแข่งกับมัน ไม่รู้ว่าเพราะดีใจที่เห็นเรากลับบ้านมา หรือเพราะกำลังโกรธและอิจฉากับภาพที่เห็นตรงหน้า

แมวสองตัวกำลังแสดงให้เห็นถึงทวิลักษณ์ของสรรพสิ่ง ผมกระอักกระอ่วนที่เมื่อต้องมายืนอยู่ระหว่างสองขั้วตรงข้าม กึ่งกลางของสองโลกที่ถูกตัดขาดออกจากกัน สองชีวิตที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน สองแนวคิดที่ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง ความเป็นแมวบ้านและแมวจร การอยู่ภายในกับการออกไปภายนอก ความสงบสุขกับความอิสระเสรี ความสะดวกสบายกับความแร้นแค้น ความปลอดภัยกับการผจญภัย ฯลฯ

ผมนึกถึงตัวเองเมื่อปีที่แล้ว ที่ลาออกจากงานและเริ่มต้นเขียนนิยายเรื่องแรกในชีวิต อยู่ภายในบ้านอันแสนสงบ เปิดเพลงบรรเลงคลอๆ ขับเคี่ยวตัวเองกับหน้าจอตรงหน้า ถ้าหิวก็กินอาหารสำเร็จรูปอุ่นด้วยไมโครเวฟ แล้วถ่ายทอดจินตนาการและความรู้สึกภายในตัวเองออกมา ในขณะที่รู้ว่าอีกไม่นานจะต้องออกจากบ้านมาเริ่มต้นทำงานในที่แห่งใหม่ ร่วมงานกับผู้คนมากมาย เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของโลกรอบตัวออกไป

หลายคนชอบพูดว่าชีวิตคือการเดินทาง … สำหรับผม มันไม่ใช่แค่การเดินทางแบบกายภาพที่เราเก็บกระเป๋าแล้วออกจากบ้าน แต่หมายถึงการเดินทางแบบนามธรรมภายใน

เราออกเดินทางจากด้านหนึ่งของตัวเรา ไปสู่อีกด้านหนึ่งซึ่งก็เป็นตัวเราเช่นกัน สลับเปลี่ยนบทบาทไปมาระหว่างสองขั้วตรงข้ามซึ่งดำรงอยู่คู่ขนานภายในใจ เราอยู่บ้านทุกวัน และพร้อมกันนั้น เราก็ออกไปทำงานทุกวัน ธาตุแท้ภายในของแต่ละคน มีแนวโน้มที่จะเอนเอียงไปบนหนทางด้านใดด้านหนึ่ง แต่เราไม่สามารถเดินทางไปบนด้านนั้นได้ตลอด ยิ่งสองหนทางนี้อยู่ห่างกันมากเท่าไร เรายิ่งต้องเดินทางไกลมากขึ้น และเรื่องเล่าชีวิตของเราก็จะขยายมากขึ้น

แล้วสุดท้ายเราจะพบบ้านที่ไหนสักแห่ง ที่ไม่ใช่อิฐปูน แต่เป็นบ้านภายในที่อยู่กึ่งกลางของการเดินทาง

ถ้าเราให้จิ๋วหลิวออกมาเล่นกับมันบ้างดีไหม – ผมถามภรรยา

อย่าเลย มันมีเห็บมีหมัดเต็มตัวเลยนะ – ภรรยาผมบอกระหว่างที่กำลังลูบเนื้อตัวมันเล่น แล้วเจอปุ่มปมตามเนื้อตัว

จิ๋วหลิวส่งเสียงร้องดังขึ้น เคาะช่องกระจกกระชั้นถี่ขึ้น เมื่อเห็นมันล้มตัวลงนอนหงายพุงเพื่อเย้ายวนเชิญชวนให้เราเข้าไปเล่นด้วย

ถ้าเราพามันไปอาบน้ำและตัดเล็บให้สั้นๆ จะดีไหม – ผมถาม

มันอยู่ข้างนอก ถ้าไม่มีเขี้ยวเล็บแล้วจะสู้กับตัวอื่นได้ยังไง – เธอพูดขณะที่เดินไปเทข้าวเทน้ำใส่ชาม

ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยการต่อสู้ ใบหูขาดแหว่งวิ่น แมวจรพวกนี้เป็นพาหะของโรคภัยมากมายที่ติดต่อถึงกันได้ง่ายๆ ทางเลือดและน้ำลาย

ถ้าเราพามันไปหาหมอฉีดยาล่ะ – ผมถาม

เธอไม่ตอบ เดินไปล้างมือที่ก๊อกสนาม หันมากำชับให้ผมล้างมือล้างไม้ ปัดเสื้อผ้าและขากางเกงให้สะอาดก่อนเข้าบ้าน

จิ๋วหลิวรออยู่ในบ้าน เราเข้าไปอุ้มมันเพื่อปลอบใจ แต่มันกระโจนออกจากอ้อมกอด แล้วพยายามตะกายประตูและกระจกให้เปิด มันพยายามจะหนีออกไปให้ได้

เช้าวันเสาร์ต่อมา เธอเอากล่องพัสดุไปรษณีย์ที่ได้มาจากการสั่งซื้อหนังสือออนไลน์ มาดัดแปลงให้เป็นบ้าน โดยแง้มฝากล่องเปิดไว้แคบๆ ใช้เทปกาวพันให้รอบ แล้ววางไว้ทิ้งไว้ที่หน้าบ้าน

ณ ที่ตรงนี้อาจจะเป็นบ้านของมัน แมวจรสภาพยับเยินที่อาจจะอยากมีบ้านให้หยุดพักจากการต่อสู้

แมวทุกตัวนั้นล้วนพ่ายแพ้อยู่แค่สองสิ่ง สิ่งหนึ่งคือปลายเชือกแกว่งไกวล่อหลอกให้มันวิ่งไล่ กระโดดโลดโผนโจนทะยานเพื่อไขว่คว้า อีกสิ่งหนึ่งคือกล่องเล็กๆ แคบๆ ที่พอจะให้มันย่างเข้าไป หมุนตัวแล้วเหยียบย่ำสำรวจ ก่อนจะตัดสินใจแทรกตัวลงไปนอนหวด

หาวหวอดๆ หลับตาพริ้มให้เรา ก่อนที่อีกไม่กี่อึดใจมันก็จะวิ่งพรวดกระโดดข้ามรั้วบ้านเราไป ทิ้งบ้านกล่องไปรษณีย์นั้นไว้เบื้องหลัง

เราทุกคนก็ไม่ต่างกัน