Film Buff

วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ | Film Buff

มันเคยมีช่วงชีวิตแบบที่ผมเป็นพวกคอหนัง คือชอบดูหนังมากๆ ติดตามข่าวสารหนังใหม่ หนังดี หนังรางวัล หนังอาร์ต หนังนอกกระแส ฯลฯ พอใกล้วันประกาศผลออสการ์ ผมจะต้องวิ่งวุ่นไปทั่วสยามสแควร์ เพื่อไล่ดูหนังที่เข้ารอบชิงให้ได้ครบทุกเรื่อง บางทีไปดูสามเรื่องติดกันในวันเดียว เริ่มที่สกาล่า แล้วไปต่อลิโด้ ปิดท้ายที่โรงหนังสยาม ก่อนจะกลับบ้านรีบเข้านอน เพื่อจะได้ตื่นขึ้นมารอดูถ่ายทอดสดงานประกาศผลในตอนเช้า

ช่วงปี 2540 น่าจะเป็นช่วงที่ความเป็นคอหนังของผมนั้นพีคมากๆ จำได้ว่าผมพลาดหนัง ฝัน บ้า คาราโอเกะ ตอนเข้าโรงปกติ ก็เลยต้องตามไปดูในงานเทศกาลอะไรสักอย่าง จัดฉายที่โรงเฉลิมไทย ต้องไปต่อแถวซื้อตั๋วรอตั้งแต่บ่าย กว่าหนังจะฉายก็มืดค่ำ ตอนนั้นรู้สึกอยู่อย่างเดียว ว่าถ้าเราพลาดดูหนังเรื่องนี้ ในโรงนี้ รอบนี้ไป ชีวิตนี้คงตายตาไม่หลับ

ช่วงนั้นในกรุงเทพฯ มีการจัดงานเทศกาลหนังกันบ่อยมาก มีงานเทศกาลหนังยุโรป เทศกาลหนังเอเชีย เทศกาลหนังอังกฤษ ฯลฯ จัดฉายรอบพิเศษตามโรงหนังชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ ผมออกจากบ้านไปแต่เช้า ดูรอบเวลาแล้วซื้อตั๋วไล่เรียงกันไปตลอดทั้งวัน กว่าจะกลับบ้านมาก็มืดค่ำ ได้ดูหนังอาร์ตๆ วันละสามสี่เรื่องติด เบื่อบ้าง ง่วงบ้าง รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็รู้สึกอิ่มเอมใจ ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตการเป็นคอหนังเคยวุ่นวายถึงขนาดนั้น

ความฝันในวัยเด็กคืออยากเป็นผู้กำกับหนัง นี่เป็นเรื่องที่ผมไม่ค่อยบอกใครเพราะอาย เมื่อ 20-30 ปีก่อนวงการหนังไทยซบเซา ไม่ดูน่าสนใจเหมือนทุกวันนี้ คุณสามารถเป็นคอหนังได้ แต่คุณก็ต้องร่ำเรียนอะไรอย่างอื่น เพื่อออกไปหางานทำอย่างเป็นหลักเป็นฐาน

ประชากรในยุคเกิดล้าน หรือยุค baby boom แบบไทยๆ คือช่วง 20-30 ปีก่อนนั่นแหละ เราต้องสอบแข่งขัน และเรียนจบออกมาเพื่อทำงานเงินเดือนดีๆ เอาตัวให้รอด

ยุคนั้น สมัยนั้น ความกลัวสะกดข่มความฝันของเราไว้ได้ราบคาบ

จุดของเหตุการณ์ในวัยหนุ่มที่ผมจำได้แม่นยำ มีข่าวว่า คริสทอฟ จาเนตซ์โก ช่างภาพและผู้กำกับหนังชื่อดัง มาเปิดคอร์สสอนทำหนังทดลองที่หอภาพยนตร์แห่งชาติ สมัยนั้นตั้งอยู่บนถนนเจ้าฟ้า บางลำภู ดูตารางเรียนแล้วเขาสอนกันในวันธรรมดา ผมจะต้องเลือกตัดสินใจว่าจะสมัครไปเรียน โดยต้องโดดงานเป็นเดือนๆ หรือไม่ก็ลาออกจากงานไปเลย

แน่นอนว่าในวัยนั้น ยุคนั้น สมัยนั้น ความกลัวสะกดข่มความฝันของเราไว้ได้ราบคาบ อีกหลายปีต่อมา ผมเห็นชื่อคริสทอฟอีกครั้งบนใบปิดหนังไทยเรื่อง คืนไร้เงา กำกับโดย พิมพ์ผกา โตวีระ คริสทอฟเป็นตากล้องให้หนังเรื่องนี้ ใช้เลนส์มุมกว้างถ่ายทำให้มุมมองแปลกตา

สามสี่ปีก่อนตอนที่เต๋อ นวพล กำลังดังเป็นพลุจากหนังเรื่อง 36 ผมเคยไปสัมภาษณ์เขา และชวนคุยเล่นนอกเรื่องไปเรื่อย ผมเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังด้วย ไม่รู้ว่าเขาจะจำได้หรือเปล่า ผมบอกเขาว่าคนรุ่นใหม่อย่างเต๋อนี่ถือว่าโชคดีมากๆ ที่ได้ทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองชอบ ผมมีความฝันว่าจะเป็นผู้กำกับหนังเหมือนกัน แต่ไม่เคยทำได้เลย เต๋อทำหน้างงๆ คงสงสัยและนึกในใจ ว่า อ้าว แล้วทำไมพี่ไม่ทำตั้งแต่ตอนนั้น เพิ่งมาบ่นอะไรกันตอนนี้

ผมคิดว่าคนต่างรุ่นกัน ต่างยุคกัน จะมีระบบคิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เรามองชีวิตและการงานไม่เหมือนกัน นี่ถือเป็นเจเนอเรชันแกปที่ห่างกันมาก เวลาเห็นคนรุ่นหลานของตัวเอง เพิ่งเรียนจบมาไม่นาน แล้วยังวนเวียนอยู่ในลูปของการเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น มองหางานที่เหมาะกับตัวเอง เดินตามความฝัน ค้นหาความต้องการที่แท้จริง

คนรุ่นใหม่ใช้เวลาในวัยหนุ่มสาวยาวนาน กว่าพวกเขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบ ลงหลักปักฐาน และมีชีวิตอยู่ในร่องในรอยเหมือนคนรุ่นของผม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าใครผิดหรือถูกไปกว่าใคร

วันก่อนผมเห็นคำคมตลกๆ มีเพื่อนคนหนึ่งแชร์ในโซเชียลมีเดีย เขาบอกว่า ความฝันในวัยเด็กก็เหมือนกับไดโนเสาร์ คือมันมักจะใหญ่โตมหึมา และมันก็ล้วนตายไปหมดแล้ว วันคืนล่วงเลยไป ความฝันวัยเด็กสูญสลายหายไปหมดตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่ทันรู้ตัว คงจะพร้อมๆ กับความเป็นคอหนังที่ลางเลือนไป กิจวัตรในการดูหนังที่ลดน้อยถอยลง ในช่วงใกล้วันประกาศผลออสการ์ ผมไม่ได้ไปวิ่งวุ่นวายทั่วโรงหนังแถวสยามสแควร์อีกแล้ว

เมื่อมองย้อนกลับไปก็รู้สึกเสียดาย แต่ความเสียดายเหล่านี้มันสะสมอยู่ในใจ และช่วยผลักดันให้ต้องเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงตัวเองมาเรื่อยๆ ทุกวันนี้ถึงแม้จะไม่ได้เป็นผู้กำกับหนังอย่างที่ฝันไว้ในวัยเด็ก แต่ผมมักจะย้อนคิดไปถึงช่วงชีวิตที่เป็นคอหนัง ในช่วงวัยนั้นอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ได้มาทำงานพบปะและสัมภาษณ์กับผู้กำกับหนังที่เคยชื่นชอบ

ผมใช้เวลายาวนานกว่ายี่สิบปีในชีวิตการทำงาน ใช้เวลายาวนานกว่าเด็กรุ่นใหม่ค้นหาตัวเองในช่วงเรียนจบใหม่ๆ เสียอีก กว่าจะเรียนรู้ว่าชีวิตนี้มีอะไรน่าสนุกให้เรียนรู้ และความท้าทายให้เราลองผิดลองถูกอีกมากมาย

กิจวัตร รสนิยม ไลฟ์สไตล์ และแม้กระทั่งความฝันวัยเด็ก ทั้งหมดเหล่านั้นล้วนเปลี่ยนแปลงได้ตามวัย แต่สิ่งสำคัญคือบทเรียนจากการตัดสินใจแต่ละครั้งได้ถูกบันทึกไว้ จดจำ เรียนรู้

ทุกการตัดสินใจจะส่งผลทั้งแง่บวกและแง่ลบ แต่จะตัดสินใจอย่างไรให้เราไม่เสียดาย เสียใจเมื่อมองย้อนกลับมา