รวมกันโสดเฉพาะกิจ ‘Situationship’ การโคจรมาเจอกันของคนคอเดียวกัน แต่ไม่มีสถานะผูกมัด

        กุมภาพันธ์ปีที่ผ่านๆ มาเหมือนเป็นเดือนแสลงใจสำหรับคนโสด แต่ในยุคดิจิทัลที่มีช่องทางการสื่อสารให้เลือกได้สะดวกและรวดเร็ว โดยทำลายข้อจำกัดด้านพื้นที่และเวลา ทำให้การเลือกที่จะโสดก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลหรือต้องโยงกับความเหงาเสมอไป เพียงแค่เรารู้ว่าจะหาคนเผ่าพันธุ์เดียวกันให้เจอจากช่องทางไหน ก็จะช่วยให้เกิดการสร้างความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ๆ ที่ยืดหยุ่นและเป็นอิสระ ไม่ใช่จำกัดแค่เพียงเรื่องของความรัก

ศตวรรษที่ 21 คนโสด (กำลังจะ) ครองเมือง

        ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่าจำนวนคนโสดกลุ่มเจน Y ในไทยมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้น ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ผลสำรวจระบุไว้ดังนี้

  •         ปี 2560 Gen Y ที่โสดและมีงานทำ คิดเป็น 39.1%
  •         ปี 2561 Gen Y ที่โสดและมีงานทำ คิดเป็น 40.2%
  •         ปี 2562 Gen Y ที่โสดและมีงานทำ คิดเป็น 41.7%
  •         ปี 2563 Gen Y ที่โสดและมีงานทำ คิดเป็น 43.1%
  •         ปี 2564 Gen Y ที่โสดและมีงานทำ คิดเป็น 44.5%

        โดยเฉพาะผู้หญิงกลุ่มวัยเจริญพันธุ์ (อายุ 15-49 ปี) ซึ่งเป็นผู้รับหน้าที่ตั้งครรภ์บุตร หลายคนเลือกที่จะแต่งงานช้าลงหรือครองตัวเป็นโสดมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจัยที่ทำให้คนกอดความโสดนี้ไว้มาจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้หญิงสามารถพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้นอันเนื่องมาจากการเข้าถึงการศึกษา รวมทั้งความมั่นคงด้านการงาน ซึ่งเมื่อแต่งงานและมีลูกอาจกระทบกับความก้าวหน้าทางอาชีพ โดยพบว่า motherhood wage penalty หรือ เงินเดือนของผู้หญิง ที่ลาออกไปเลี้ยงลูกแล้วกลับมาทำงานนั้น อาจลดลงได้มากถึง 20%

ความเหมือนเป็นขั้วบวกขั้วลบดึงคนโสดมาพบกัน

        หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินทฤษฎีที่ว่า คนที่มีอะไรเหมือนกันมักจะดึงดูดกัน แต่ยังมีอีกหนึ่งทฤษฎีที่น่าสนใจคือ ‘Perceived Similarity’ เป็นการรับรู้ว่า อีกฝ่ายมีอะไรบางอย่างที่คล้ายคลึงกับเรา ไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัย งานอดิเรก ประสบการณ์ หรือหน้าตา ตัวอย่างเช่น เมื่อเรารู้ว่าคนนี้อาศัยอยู่ในละแวกบ้านของเราเอง เราก็จะรู้สึกว่า เรามีสภาพแวดล้อมเดียวกันกับเขา และเราสามารถที่จะพูดคุยกับเขาในเรื่องใดได้บ้าง อีกทั้งยังสามารถเข้าใจกันได้ง่ายขึ้นด้วย เพราะเราจะรู้สึกสบายใจทันทีโดยความรู้สึกนี้จะส่งผลให้เกิดความไว้วางใจ สบายใจ จนนำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดี

         นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยของ Minnesota State University, Mankato สำรวจกลุ่มคนที่มีความคล้ายกันชี้ให้เห็นว่า สมาชิกในกลุ่มที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันจะรู้สึกสบายใจในการทำงานร่วมกันจนนำไปสู่ความไว้วางใจกันมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อคนสองคนที่ชอบดื่มกาแฟ อีกทั้งยังเคยเป็นบาริสต้าเหมือนกัน สองคนนี้ก็จะมีความเข้าใจกันเป็นพิเศษ  เพราะความชอบที่เหมือนกันอาจนำมาสู่การพัฒนากลายมาเป็นคนรัก หรืออาจจะแค่สถานะที่ไม่มีชื่อเรียก ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณอาจจะตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่ชื่อว่า ‘Situationship’

         ‘Situationship’ เป็นความสัมพันธ์ที่มากกว่ามิตรภาพ แต่ไม่ได้ผูกมัดในสถานะคนรัก ไม่มีข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น มีทั้งระยะสั้นและระยะยาว จากฟีเจอร์นี้ทำให้ความชอบ ประสบการณ์ หรืองานอดิเรกที่เหมือนกันชวนให้คนได้พูดคุยกันมากขึ้น อีกทั้งยังใช้เวลาร่วมกันได้เยอะ จึงมีโอกาสสูงที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน เพราะจากการสำรวจของ The Nation Thailand เรื่องกิจกรรมที่สมาชิกทินเดอร์ไทยสนใจ 5 อันดับได้แก่ Hang out, Friend with beer, Drink coffee, Friend with buffet และ Anime เราจะเห็นได้ว่า คนไทยบางส่วนก็ไม่ได้ต้องการหาความสัมพันธ์จริงจังมากขนาดนั้น แต่แค่หาคนที่มีความชอบเหมือนกัน เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนจะมีความสัมพันธ์กันแบบ Situationship ได้เยอะ เพราะคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาคนที่มีไลฟ์สไตล์ความชอบเหมือนกับเรา

 ยุคดิจิทัลที่ช่วยกระชับความโสดให้เหงา (น้อยลง)

        แม้แนวโน้มคนโสดจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนเหงาต้องเพิ่มตาม นั่นก็เพราะการมีความสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบเกิดขึ้นได้ระหว่างการครองตัวเป็นโสดและการมีคู่ ทั้งที่รู้จักกันดีอย่าง FWB (Friend With Benefits) ONS (One Night Stand) หรือคำที่เพิ่งเป็นที่รู้จัก อย่าง ‘Situationship’ นี้เองที่ทำให้แอป dating online เช่น ทินเดอร์เองก็จับตาเทรนด์นี้อยู่และนำมาพัฒนาเป็นฟีเจอร์ใหม่ๆ นำเสนอให้กับผู้ใช้งาน

         แคมเปญ ‘เพื่อนสัมพันธ์’ ที่แอปหาคู่อันดับต้นๆ ที่คนนึกถึงอย่างทินเดอร์เปิดตัวไปเมื่อปี 2020 เพื่อทำลายภาพจำเดิมที่มีมองว่าเป็นแอปนัดยิ้ม (ล้อกับความว่า ‘เพศสัมพันธ์’) หาคู่นอนเท่านั้น โดยในปีที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัว feature ใหม่อย่างเป็นทางการเพื่อสร้างให้เสมือนเป็นคอมมูนิตี้ คนที่มีความชอบ ความสนใจเรื่องเดียวกันมาปัดหากัน

         อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเข้าใจถึงความสัมพันธ์นี้และยินยอมทั้งสองฝ่าย หากต่างฝ่ายต่างไม่รู้จุดยืนของตัวเองก็อาจนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ Toxic จริงอยู่ที่การไม่มีข้อผูกมัดด้วยคำว่าแฟน อาจทำให้หลายคนรู้สึกอิสระ แต่ก็อาจจะมีอีกหลายคนที่ต้องการความชัดเจน อาจจะมีใครบางคนที่คิดเกินเลยจนทำร้ายความรู้สึกตัวเองและอีกฝ่ายด้วย อีกทั้งจุดประสงค์ของการใช้แอพพลิเคชัน Tinder ไม่จำเป็นต้องขยับความสัมพันธ์ไปขั้นอื่นก็ได้  เพราะหลายคนก็ชอบในความสัมพันธ์แบบ ‘Situationship’ 

 ส่องฟีเจอร์ ‘Tinder Explore’ เป็นตัวเลือกสำหรับคนเหงาที่ยังหวงความโสด

        ฟังก์ชัน ‘Social Network’ เป็นชื่อเล่นของฟังก์ชันนี้บนแอปหาคู่ด้วยการหาแพสชันที่ตรงกันเพื่อใช้เป็นหัวข้อสนทนาละลายความแปลกหน้าหลอมรวมคนที่สนใจสิ่งเดียวกันมาพบกัน

        ฟังก์ชัน ‘My Vibe’ เรียกง่ายๆ ว่าวันนี้ ตอนนี้คุณฟีลไหน ซึ่งข้อดีของฟีเจอร์นี้ช่วยให้โปรไฟล์ที่ algorithm ไม่นำพามาเจอกัน มีโอกาสมาโชว์บนหน้าจอของเรา มีโปรไฟล์ที่เป็นตัวเลือกหลากหลายมากขึ้น แต่ก็มีจุดอ่อนอยู่ที่ถ้าคนที่ไม่มีความสนใจร่วมกับหัวข้อที่เปิดหาจะถูกคัดออกไปจากตัวเลือกทันที แม้เขาหรือเธออาจเป็นคนที่เข้ากันได้ดีเมื่อออกมาเจอกันหน้ากันจริงๆ ก็ตาม

         ฟีเจอร์นี้อาจให้ความแอบหวังกับเหล่านักปัดว่าจากความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงด้วยความสนใจจะสานต่อเป็นความรัก ความผูกพันใกล้ชิดได้ในอนาคต แต่ถึงจะยังไม่เจอความสัมพันธ์แต่ก็อาจได้เพื่อนไปดูคอนเสิร์ต หารค่าบุฟเฟต์ วิน-วิน ท้องอิ่ม แยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน เป็นการรวมตัวเฉพาะกิจจริงๆ โดยใช้แอปหาคู่ หาเพื่อน อย่างทินเดอร์เป็นตัวกลางเชื่อมการสื่อสารระหว่างกัน

         ใดๆ แล้วนั้น ฟังก์ชันนี้ของทินเดอร์ก็สร้างมาเพื่อขโมยเวลาทำให้เราเข้ามาใช้งานมากขึ้นนั่นเอง ด้วยการหาความเชื่อมโยงอื่นๆ นอกจากหาคู่นอน เพื่อทำให้ความรู้สึกเป็น social network อีกแอปหนึ่งที่อยากให้คนเข้ามาใช้งานเป็นประจำ ซึ่งก็อาจกลายเป็นดาบสองคมที่พอยัดเอาฟังก์ชันใส่เข้ามามากๆ เข้าจนคนกลับใช้งานลดลงแทนที่จะเพิ่มจำนวน แม้การเพิ่มฟีเจอร์นี้ขึ้นก็เพื่อให้ภาพลักษณ์ถอยห่างจากการเป็นแอปหาคู่นอน ตามที่คนทั่วไปมักสรุปถึงคนที่เข้ามาใช้งาน ซึ่งกลับกลายเป็นการสูญเสียตัวตนของแอปนี้ไปโดยปริยายนั่นเอง

         สุดท้ายแล้วรูปแบบความสัมพันธ์จะมีหน้าตาหรือชื่อเรียกเปลี่ยนไปอย่างไร มนุษย์ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นสัตว์สังคมที่ต้องการการพูดคุยและปะทะสังสรรค์กับผู้คน แต่ในยุคที่มีความซับซ้อนขึ้นเช่นนี้ การมองหาความสนใจร่วมกันจึงเป็นการเปิดประตูให้เกิดการค้นหา ทำความรู้จักมนุษย์อีกคนและอีกคนอยู่เสมอ ยิ่งยุคหลังจากโรคโควิด-19 ถึงช่วงขาลง ความเก็บกด อัดอั้น หดหู่ รอวันปลดปล่อย หลายประเทศกลับมาเปิดชายแดน ผู้คนโหยหา ‘ความปกติเดิม’ ที่ได้ใช้ชีวิตพบปะผู้คนนอกบ้าน การสัมผัสที่เป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ซึ่งทำให้รู้สึกถึงความปลอดภัยและรับรู้ได้ถึงความรัก ที่จะเป็นเครื่องมือเพื่อเยียวยาในวันหัวใจอ่อนแอให้กลับมาสดใสหรือถึงขั้นสีชมพูก็เป็นเรื่องที่เราต่างอยากค้นหาและพาคนคนนี้มาอยู่ข้างตัว

เรื่อง: จันจิรา ยีมัสซา / ชุติมณฑน์ แก้วมี


ที่มา