วงดนตรีร็อกแอนด์โรลที่โจ่งแจ้งที่สุดในตอนนี้ คงเป็นใครไมได้นอกจาก Helmetheads ซึ่งพวกเขาหยิบประเด็นของโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ของคนในตอนนี้ มาเล่าได้อย่างถูกใจวัยรุ่นยุคไทยแลนด์ 4.0 อย่างจัง และเมื่อเข็นอัลบั้มเต็มออกมาในชื่อ Social Notwork พร้อมภาพปกที่หลายคนต้องเอามือทาบหน้าอก ก็การันตีได้แน่ๆ ว่า อีกหลายเพลงในอัลบั้มนี้… ไม่ธรรมดาแน่นอน
“
เพราะเราเป็นคนที่โตในยุคของการซื้อเพลง การมาของแอพฯ สตรีมมิงก็ทำให้เราคิดเหมือนกันว่า ‘อะไรวะ’ แต่จริงๆ ก็ไม่ได้ปิดกั้นมันหรอก เพราะเหรียญยังมีสองด้าน
”
Social Network…
คือเครื่องมือที่ช่วยให้วงของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้น ในมุมของศิลปินหน้าใหม่เป็นเครื่องมือที่ดี ทำให้เขาเผยแพร่ผลงานได้ด้วยยูทูบ ในมุมของเราทำให้คนร้องเพลงของ Helmetheads ได้ แต่อีกมุมก็ยอมรับว่าพวกเราโตมาในยุคของการซื้อเพลงไม่ใช่การเช่าเพลง และพวกเรายังชอบอะไรแบบนี้อยู่ แต่ก็ยอมรับว่ายูทูบทำให้เราได้ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ต่างจังหวัด และคนที่มาดูยังร้องเพลงตามไปกับพวกเราได้
ถ้าถามถึงการฟังเพลงสตรีมมิง อาจเป็นเพราะเราเป็นคนที่โตในยุคของการซื้อเพลง การมาของแอพฯ สตรีมมิงก็ทำให้เราคิดเหมือนกันว่า ‘อะไรวะ?’ แต่จริงๆ ก็ไม่ได้ปิดกั้นมันหรอก เพราะเหรียญยังมีสองด้าน ด้านดีคือทำให้เราสนุกเวลาไปเล่นคอนเสิร์ต คนดูมีการตอบรับกับเพลงของพวกเรา ถ้ามัวไปแต่แอนตี้ก็เหมือนกับเอาเรือไปขวางน้ำที่กำลังเชี่ยวกราก ก็ต้องปรับตัวกันไป
ก่อนหน้านี้พวกเราคุยกันเรื่องยอดวิวต่างๆ ในยูทูบ แล้วก็เรื่องว่าจะทำยังไงให้คนรู้จักเพลงของวง แต่ตอนนี้เราคุยกันเรื่องการแสดงสดมากกว่า ซึ่งวงดนตรีอื่นๆ ก็น่าจะคุยอะไรกันแบบนี้ และพวกเราก็เชื่อว่านักดนตรีทุกคนยังมีไฟที่อยากทำงานเพลงต่อไป
Helmetheads…
ในวันนี้พวกเรามีเนื้อเพลงภาษาไทย และเป็นเพลงที่ฟังได้ง่ายขึ้น เช่น Instagram หรือ Unfriend แต่พวกเราก็ยังใช้ซาวนด์และกลิ่นของดนตรีร็อกแอนด์โรลแบบสมัยก่อนอยู่ เพียงแต่พอเอาเพลงต่างๆ มารวมเป็นหนึ่งอัลบั้มก็จะมีความเป็นวาไรตี้ร็อก อย่างเพลง กรอบนอกนุ่มใน จะเป็นแนวเพลงร็อกแอนด์โรลแบบยุค 80s แต่ถ้าเป็นเพลง เพราะเธอหรือเปล่า จะเป็นเพลงจังหวะสวิงแบบ เอลวิส เพรสลีย์ ส่วนเพลง ยินดี ก็จะเป็นร็อกประมาณวง Oasis
Instagram คือเพลงที่ยากที่สุดของพวกเรา เพราะเป็นเพลงแรกที่เราหันมาคุยกับคนหมู่มาก และก็ต้องเป็นตัวเองด้วย แต่สิ่งที่น่าตลกคือเราพยายามทำเพลงนี้ให้เป็นเพลงตลาดที่สุด ป๊อปที่สุด แต่บางคนก็บอกว่าฟังแล้วยังเป็นเพลงแบบ Helmetheads อยู่ ไม่ได้เป็นเพลงตลาดมากแบบที่พวกเราคิดไว้
“
วงร็อกแอนด์โรลต้องการนำเสนอเรื่องทัศนคติของตัวเองมากกว่าจะทำเพลงฮิต
”
Social Notwork…
อัลบั้มนี้ไม่ได้ถูกวางคอนเซ็ปต์ไว้ตั้งแต่แรก แต่เป็นการต่อยอดจากงานชุดแรกของพวกเรา ซึ่งเราทำเพลงกันมาต่อเนื่องหลายปี เมื่อถึงเวลารวบรวมเพลงทั้งหมดมาใส่ไว้ในอัลบั้ม นัท (มือกีตาร์) ก็เสนอว่าควรใช้ชื่อ Social Notwork ตามคอนเซ็ปต์เพลงต่างๆ ที่วงนำเสนอ ซึ่งพวกเราก็เห็นด้วยว่า ถ้าเราอยู่แต่ในเมือง อยู่แต่ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กมากเกินไป มันก็ไม่เวิร์กจริงๆ ก็เลยเอาแนวคิดนี้ไปถ่ายปกอัลบั้มกันในป่า พอไปถึงเราก็คิดอะไรห่ามๆ แบบวัยรุ่นว่า แก้ผ้าเลยก็แล้วกัน (หัวเราะ)
พวกเรามองว่าเป็นเจตคติของร็อกแอนด์โรล วงร็อกแอนด์โรลไม่เคยทำอัลบั้มอีพี วงร็อกแอนด์โรลต้องการนำเสนอเรื่องทัศนคติของตัวเองมากกว่าจะทำเพลงฮิต ไล่มาตั้งแต่วง The Beatles จนถึง Oasis ก็ยังไม่มีวงไหนทำอัลบั้มอีพี มีแต่จะทำเป็นอัลบั้มคู่ด้วยซ้ำไป เพราะเขามีเรื่องที่จะเล่าเยอะ เป็นเรื่องเล่าที่มีต่อคนในแต่ละเจเนอเรชัน
พวกเราวัดแค่ว่าอัลบั้มนี้ได้วางแผงนั่นคือประสบความสำเร็จแล้ว Social Notwork ออกช้ากว่ากำหนดเป็นปี เพราะบ้านเรามีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้นพอดี เลยคิดว่าเลื่อนมาออกตอนนี้จะเหมาะสมกว่า ข้อดีก็อยู่ตรงที่เรามีเวลาคุยกันมากขึ้นในการทำอาร์ตเวิร์กอัลบั้ม
ทุกเพลงในอัลบั้มนี้นำกลับมามิกซ์เสียงใหม่ ดังนั้น ซาวนด์ที่คุณได้ยินในอัลบั้มจะไม่เหมือนกับซาวนด์ที่อยู่ในยูทูบ ความรู้สึกจะต่างออกไป เสียงร้องจะชัดขึ้น เสียงกีตาร์โซโลจะพุ่งออกมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน เสียงกลองที่หนักแน่น ทั้งหมดคือสิ่งที่พวกเราอยากทำ เพราะเป็นอัลบั้มแรกในชีวิตของพวกเรา เราเลยอยากทำออกมาให้ดีที่สุด
—
HELMETHEADS
—
สมาชิกวง
‘จิ้ง’ – ชตารัช ศรีดำรงรักษ์ (ร้องนำ, กีตาร์)
‘นัท’ – ณัฐพงศ์ เลิศศรีนวล (กีตาร์)
‘ซัม’ – สดายุ สุวรรณจุณีย์ (กลอง)
เดียว สุวีระ (เบส)
FB: HELMETHEADS / SPICYDISH
ภาพ: Helmetheads