ต่อลาภ ลาภเจริญสุข | บ้านสีเอิร์ธโทนใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ ณ เชียงใหม่ ที่ซึ่งชีวิตได้ใกล้ชิดธรรมชาติ

เราก้าวเข้าสู่ความสงบเงียบจนได้ยินเสียงใบไม้ไหว ใต้แสงแดดอบอุ่นยามบ่ายของเชียงใหม่ในฤดูฝน บทสนทนาภายในบ้านหลังใหม่ที่ปลูกเคียงคู่กับบ้านหลังเดิมซึ่งหลายคนเคยเห็นผ่านหูผ่านตากันบ้างแล้ว ของศิลปินหนุ่มผู้เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอย่าง ‘เหิร’ – ต่อลาภ ลาภเจริญสุข แห่ง Gallery Seescape ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์หน้าต่างแฮนเมด ‘ทวิภพ’ และ ‘แคร์’ – ธารวิมล ขันสุธรรม เชฟสาวเจ้าของร้าน SS1254372 Cafe ซึ่งประกอบไปด้วยข้าวของที่บอกเล่าเรื่องราวจากการใช้ชีวิตและการทำงานได้อย่างลงตัว

 

เพราะผมเกิดมาจากครอบครัวที่ต่างจังหวัด ก็จะมีความผูกพันกับพวกสีเขียวของบ้านไทยริมน้ำ มีสีชมพูอ่อนๆ ที่ซีดจางเพราะโดนแดด โดนน้ำ ผมก็เลยชอบสีที่ผ่านการลดทอนตามกาลเวลา

บ้าน ต่อลาภ

“ผมว่าที่อยู่อาศัยมันก็คืองานศิลปะชิ้นหนึ่ง สิ่งที่เราเลือกเข้ามาในชีวิต มันก็เหมือนเลือกงานศิลปะ ไม่แตกต่างกันเลย นั่นก็แปลว่าเราจะเอาอะไรเข้ามาหรือเอาอะไรออกไปก็เป็นการตัดสินใจของคนทำงานศิลปะ เป็นเหมือนการสร้างบ้าน ผมพยายามทำโครงสร้างสถาปัตยกรรมให้มันผสมกลมกลืนกับธรรมชาติ ในที่นี้ผมตีความเป็นทั้งต้นไม้ นก มด แมลง หรือแสงแดด ให้เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันมากที่สุด เราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เลยสร้างอาคารรอบพื้นที่ตรงกลางที่เป็นคล้ายๆ สวน

บ้าน ต่อลาภ

“คอนเซ็ปต์ของบ้านหลังนี้คือการพยายามนำวัสดุเก่ามาใช้ใหม่ให้ได้มากที่สุด มากกว่า 30% ได้ ทั้งไม้ ทั้งเหล็ก ทุกอย่าง ส่วนใหญ่ผมจะไปหาตามโรงรีไซเคิล ซึ่งมันน่าแปลกที่วัสดุเหล่านี้ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในเมือง ต่อมามันโดนผลักออกมาอยู่รอบๆ เมือง แล้วผมก็เอามันมายัดใส่ไว้ในเมืองใหม่ผ่านการสร้างเป็นบ้าน (หัวเราะ)

“ส่วนตัวผมจะชอบสีที่มันเป็นอบอุ่น ตุ่นๆ เอิร์ธโทน เพราะผมเกิดมาจากครอบครัวที่ต่างจังหวัด ก็จะมีความผูกพันกับพวกสีเขียวของบ้านไทยริมน้ำ มีสีชมพูอ่อนๆ ที่ซีดจางเพราะโดนแดด โดนน้ำ ผมก็เลยชอบสีที่ผ่านการลดทอนตามกาลเวลา ในบ้านจะเห็นมีองค์ประกอบที่สีปรี๊ดๆ อยู่บ้าง ก็เพราะบางทีเราเห็นอะไรซีดๆ มาทั้งชีวิตแล้ว ขอสีฟลูออเรสเซนต์มาตัดอารมณ์บ้าง (ยิ้ม)”

บ้าน ต่อลาภ

แม้จะอยู่ในบ้าน แต่ถ้าเราสามารถเห็นกิ่งไม้ไหว เห็นแสงจากข้างนอกสาดส่องเข้ามาข้างใน มันจะเกิดภาวะปลอดภัยว่าธรรมชาติโอบล้อมอยู่ใกล้เรา

บ้าน ต่อลาภ

“ผมจะสนุกกับการใช้พื้นที่แคบให้มีฟังก์ชันสมบูรณ์ที่สุด มันเหมือนว่าเราได้ใช้ทุกสัดส่วน ทุกสเกลให้สมบูรณ์ ซึ่งมันยากมากนะ ผมจะชอบมากเวลาที่ใครมีที่แค่ 2 เมตรครึ่ง แล้วสามารถใช้ทำอะไรได้หมด ผมว่ามันเจ๋งมาก

“จริงๆแล้วมนุษย์ต้องการพื้นที่แค่นิดเดียว เท่าที่จำเป็นแค่นั้น เดี๋ยวผมจะทำให้พื้นที่เล็กกว่านี้อีกในอนาคต ให้ compact ที่สุดสำหรับมนุษย์คนหนึ่ง การเลือกต้นไม้ที่จะใส่ในบ้าน อันดับแรกคือฟอร์มของใบ ทรงพุ่ม อันดับสองคือความคงทน เราเคยเลี้ยงพวกพืชตระกูลดอกแล้วไปไม่รอด คนที่ปลูกต้นไม้ออกดอกสมบูรณ์นี่ต้องแน่วแน่มาก ยากกว่าทำงานศิลปะอีก (หัวเราะ)”

บ้าน ต่อลาภ

“มันเหมือนว่าการใช้ชีวิตอยู่ในสเปซที่เราสร้างขึ้นด้วยสิ่งที่เราชอบ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือองค์ประกอบใดๆ ก็ตาม มันจะทำให้เรามีความสุขที่ได้นั่งคิดงานท่ามกลางสเปซเหล่านี้และมอบแรงบันดาลใจให้เราเสมอ ที่บ้านหลังนี้จะมีต้นไม้ทุกมุม อยู่ในบ้านก็ต้องเห็นต้นไม้ มันเป็นการดึงสิ่งภายนอกเข้ามาสู่ภายใน ภายในออกไปสู่ภายนอก เป็นการแชร์สเปซซึ่งกันและกัน อยู่ข้างนอกเราก็เห็นบ้านข้างใน เพราะบ้านเป็นกระจก ทำให้รู้สึกว่าบ้านกว้างมาก ทั้งๆ ที่ก็ไม่กี่ตารางวา เราจะรู้สึกทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในรั้วบ้านว่าเหมือนเราหลุดมาอีกโลกหนึ่งเลย”

บ้าน ต่อลาภ

“ภาวะที่ทำให้เกิดความสบายใจของมนุษย์ ที่ผมได้เรียนรู้จากการออกแบบสเปซคือการสลับที่ แม้จะอยู่ในบ้าน แต่ถ้าเราสามารถเห็นกิ่งไม้ไหว เห็นแสงจากข้างนอกสาดส่องเข้ามาข้างใน มันจะเกิดภาวะปลอดภัยว่า ธรรมชาติโอบล้อมอยู่ใกล้เรา เช่นเดียวกัน ถ้าเราอยากให้พื้นที่นอกบ้านตรงลานโล่งหรือสนามหญ้ามีความอบอุ่น คล้ายว่าเรานั่งอยู่ในสเปซปิดภายในบ้าน ลองเอาโซฟาไปตั้ง เอาข้าวของเครื่องใช้ในบ้านไปตั้งไว้ข้างนอกดูสิ แล้วคุณจะไม่รู้สึกเคว้งคว้างกับสเปซนอกอาคารอย่างที่เคย เพราะการผสานสองสิ่งระหว่างส indoor กับ outdoor ให้กลมกลืนกัน มันจะเกิดเป็นภาวะสบายและปลอดภัย ไม่เป็นสเปซปิด อย่างน้อยๆ เอาแค่แสงมาก็ได้ ในห้องน้ำบ้านเราก็มีช่องแสงเปิด ให้น้ำฝนตกลงมาโดนหัวบ้างก็ชุ่มชื่นดีนะ (หัวเราะ)”

บ้าน ต่อลาภ

บ้าน ต่อลาภ

ภาพ: มณีนุช บุญเรือง