Hashtag Activism

#สปดกรจรกม แฮชแท็กร่วมใจ สู้ไปด้วยกันเราจะรอดกันหมด

กระแส Hashtag Activism ได้กลายเป็นรูปแบบการสื่อสารใหม่ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะปัญหาสังคม การเมือง สิ่งแวดล้อม จะร้องขอความช่วยเหลือ จะวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ การสื่อสารผ่านแฮชแท็กดูจะเปลี่ยนเรื่องยากให้สื่อสารได้ง่าย ขยายเสียงเบาๆ ของคนหนึ่งคนให้ดังขึ้นได้เมื่อทุกคนร่วมใจส่งเสียงดังผ่านการติดแฮชแท็กไปด้วยกัน 

        รวมทั้งสถานการณ์ COVID-19 ในช่วงนี้ ที่นอกจากความกังวลต่อการระบาดของโรคโดยตรงแล้ว ยังมีความกังวลต่อผลกระทบทางอ้อมที่จะตามมา ท่ามกลางวิกฤตเราจึงได้เห็นมนุษย์คิด แก้ปัญหา เยียวยา ช่วยเหลือกัน บรรเทาผลกระทบต่างๆ หาทางร่วมมือกันแม้จะต้องอยู่ห่างกันในช่วงนี้

        และนี่คือบางส่วนของแฮชแท็กที่ใช้ในการระดมพล เริ่มจากคนหนึ่ง ส่งเสียงไปหาอีกหลายๆ คน เพื่อให้เรารอดพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

 

Hashtag Activism

#สปดกรจรกม

        #สปดกรจรกม สู้ไปด้วยกันเราจะรอดกันหมด แฮชแท็กที่ ยอด ชินสุภัคกุล CEO ของ Wongnai เอาไว้ใช้ส่งให้กับทีมงานและนำมาใช้ต่อกับสถานการณ์ช่วงนี้ที่ร้านอาหารกำลังแย่ จากการถูกสั่งปิด แม้หลายร้านจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสปรับตัวเองขึ้นแพลตฟอร์มบริการรับส่งอาหารได้ทัน แต่ก็ยังมีอีกหลายร้านที่สะดุดกับการต้องหยุดบริการอย่างฉับพลัน จากร้านที่เคยคิวยาว บางร้านรายได้ลดลงเป็นศูนย์ ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเจ้าของร้านเท่านั้น หากยังมีอีกหลายชีวิตทั้งพ่อครัว พนักงานเสิร์ฟ แม่บ้าน ฯลฯ ซึ่งถ้าหากตัวเลขประมาณการจำนวนร้านอาหารในประเทศไทยนั้นมีอยู่ที่ 300,000 ร้าน ร้านหนึ่งมีทีมงานประมาณ 10 ชีวิต นั่นแปลว่ามีผู้อยู่ในอุตสาหกรรมนี้สามล้านกว่าคนเป็นอย่างต่ำ

        แต่เอาเข้าจริงแล้ว นี่ไม่ใช่แค่การ #saveร้านอาหารเท่านั้น #สปดกรจรกม สู้ไปด้วยกันเราจะรอดกันหมด คือทางออกที่แท้จริงกับสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ร่วมกันในขณะนี้ 

        ผลจะออกมาเป็นอย่างไร เราจะแพ้หรือชนะ ขึ้นอยู่กับการกระทำที่ร่วมมือกันตอนนี้จริงๆ

 

Hashtag Activism
image: https://mgronline.com/entertainment/detail/9630000029082

#cover19

        ตูน อาทิวราห์ เจ้าเดิมเพิ่มเติมคือคู่หูคู่ใจ ก้อย รัชวิน ออกมาโพสต์คลิปคลายเครียดชวนเพื่อนศิลปินมาร่วมกิจกรรมชาเลนจ์ #cover19 ผ่านการคัฟเวอร์เพลงแล้วแท็กหาศิลปินต้นฉบับให้คัฟเวอร์เพลงผู้อื่นแล้วส่งต่อไป ในทุกวัน เวลา 19.00 น. ประเดิมด้วยเพลง ไม่เคยรักใครเท่าติ๋ม ของโมเดิร์นด็อก 

        โดยตูนได้ออกมาอธิบายถึงเหตุผลที่ลุกขึ้นมาทำชาเลนจ์ครั้งนี้ว่า “#cover19 ขอส่งต่อแรงใจและกำลังใจไปให้คุณหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกๆ คนที่กำลังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างหนักอยู่ในโรงพยาบาลทุกๆ แห่งในขณะนี้เพื่อพวกเราทุกคนนะครับ หวังว่าคลิปสั้นๆ และ live เล็กๆ ของเราในวันนี้คงจะสร้างรอยยิ้มให้กับทุกๆ คนได้บ้าง ไม่มากก็น้อย เวลาประมาณ 19.00 มารอฟัง @modernpod ร้องเพลงให้ทุกๆ คนได้ฟังกันนะครับ ตื่นเต้นว่าพี่ป๊อดจะเลือกร้องเพลงของใคร และใครจะถูกส่งต่อไปให้ทำหน้าที่ร้องเพลงในกิจกรรม #cover19 นี้เป็นคนต่อไป ด้วยรักและห่วงใยครับ”

Hashtag Activism#YESICAN

        ในช่วงที่ผ่านมา หลายคนอาจเห็นศิลปินดาราเปิดพื้นที่ให้ผู้คนได้ฝากร้านค้าตามช่องทางต่างๆ ของตนเอง, ธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร Co-working Space หันมาปรับรูปแบบบริการเพื่อช่วยทั้งพนักงานที่ตนเองดูแลอยู่ รวมทั้งดูแลความปลอดภัยของผู้ใช้บริการไปด้วยเช่นกัน, โรงแรม ที่พัก ที่สลับมาให้เป็นโรงพยาบาลชั่วคราว หรือเป็นที่พักให้กับนักศึกษา แรงงานที่ยังกลับภูมิลำเนาไม่ได้ และอีกหลายความพยายามของหลายกลุ่มที่หาทางมีส่วนร่วมในการลดผลกระทบจากการระบาดครั้งนี้ในช่องทางของตัวเอง เพื่อแสดงพลังให้เห็นว่าหากโรคนั้นระบาดได้ ความร่วมมือร่วมใจก็ระบาดเป็นภูมิคุ้มกัน บรรเทาผลกระทบข้างเคียงจากเชื้อร้ายได้เหมือนกัน 

 

Hashtag Activism

#กินใกล้บ้าน It Will Be Ok CrowdMapPing

        การที่รัฐคิดช้าไปก่อนหลายขั้น ตัดสินใจกะทันหัน จนการปรับตัวนั้นติดขัดไปตามๆ กัน แต่เมื่อเราบ่นไปแล้วก็เท่านั้น ผู้คนและธุรกิจจึงหันมาพึ่งกันเอง โชคดีที่ร้านอาหารต่างๆ ยังมีแพลตฟอร์มทางเลือกในการส่งถึงบ้านเพื่อเป็นทางรอดของธุรกิจ

        แต่อีกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากการคิดช้าไป คิดไม่ครบของรัฐ ก็คือร้านค้าชุมชน พ่อค้าแม่ค้าในตลาด คนหาเช้ากินค่ำ ที่ไม่เคยได้รับการฝึกเตรียมการใช้เครื่องมือออนไลน์มาก่อน จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะผลักให้ต้องปรับวิถีมาออนไลน์ 100% ในระยะกระชั้นนับเป็นวันเช่นนี้ การรณรงค์ให้ผู้คน #กินใกล้บ้าน (ซึ่งคือไปซื้อแล้วสั่งกลับ) ในช่วงเวลานี้ จึงเป็นการช่วยกันของผู้คนและชุมชนให้รอดไปด้วยกัน 

        ทีมผู้ริเริ่ม #กินใกล้บ้าน ได้เสนอว่าในระยาวนั้น อยากให้รัฐมีมาตรการ #กินใกล้บ้าน เพื่อให้ผู้คนสั่งอาหารกันในพื้นที่ แทนที่จะต้องขนส่งข้ามเขตข้ามเมืองกันไปมา ซึ่งนั่นจะเป็นทางออกที่ทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภคอยู่รอด และยังลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ลดขยะ ลดคาร์บอนฟุตพรินต์ต่างๆ ที่เกิดจากการส่งอาหารทางไกลอีกด้วย

        นอกจากนี้กลุ่ม Satarana Citizen Lab ยังได้ชวนทุกคนมาร่วมกันเติมข้อมูลลงใน It Will Be Ok CrowdMapPing แผนที่ส่วนกลางที่ทำให้ทุกคนได้เห็นข้อมูลร้านอาหาร ร้านขายของชำชุมชน เพื่อให้เราต่างได้เห็นพิกัดร้านค้าต่างๆ ใกล้บ้านในชุมชน และสนับสนุนร้านค้าเหล่านั้นได้

       

ช่องทางการกรอกข้อมูล

        ร้านอาหาร https://satarana.ushahidi.io/posts/create/2

        ร้านขายของชำ https://satarana.ushahidi.io/posts/create/3

        ที่นั่งทำงาน https://satarana.ushahidi.io/posts/create/4

        หรือหากใครไม่มีข้อมูลในมือ แต่อยากเข้าดูข้อมูลร้านค้าที่มีอยู่ ณ​ ปัจจุบัน สามารถดูได้ที่ https://satarana.ushahidi.io 

 

Hashtag Activism

#นับหนึ่งให้ถึงแสน

        จำนวนการบริจาคโลหิตที่ลดลงเกือบครึ่ง ส่งผลให้ปริมาณโลหิตที่ต้องการน้อยกว่าปริมาณโลหิตที่ได้รับนับเป็นเท่าตัวในทุกกรุ๊ปเลือด เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่คนไม่ค่อยพูดถึง

        โลหิตยังเป็นยารักษาโรคที่สำคัญ มีความต้องการใช้ทุกคน โดยมีช่องทางการได้มาจากการบริจาคเพียงเท่านั้น และหากขาดโลหิตในคลังจะส่งผลต่อการรักษาผู้ป่วยต่างๆ ทั้งจากอุบัติเหตุ ผ่าตัด ตกเลือดหลังคลอด โรคเลือด ฯลฯ ซึ่งหากปริมาณการบริจาคยังลดลงต่อเนื่องเช่นนี้ต่อไป อาจเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยทั่วประเทศ โดยการบริจาคเลือดต้องรีบทำก่อนจะเข้าสู่ช่วงขาขึ้น ไม่เช่นนั้นช่วงนั้นอาจจะแทบจะไม่เหลือใครที่บริจาคได้เลย ซึ่งนั่นจะส่งผลกระทบไม่เพียงแต่ผู้ป่วยด้วยโรคระบาดนี้ แต่จะส่งผลถึงชีวิตของผู้ป่วยโรคอื่นๆ ด้วย 

        #นับหนึ่งให้ถึงแสน จึงเป็นแฮชแท็กที่ชวนให้คนหนึ่งคนแท็กเพื่อนต่อๆ กันไป เพื่อชวนผู้ที่มีสุขภาพดี ผู้ครบกำหนดบริจาคโลหิต 3 เดือน และไม่ได้เดินทางกลับจากประเทศที่มีโรค COVID-19 ระบาด บริจาคโลหิตเร่งด่วน ให้ยอดบริจาคตั้งแต่วันนี้ถึง 15 เมษายนครบแสนคนกัน เพื่อช่วยผู้ป่วยทั่วประเทศ

        บริจาคโลหิตได้ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ และหน่วยรับบริจาคโลหิตทุกแห่ง เพื่อส่งต่อโลหิตที่ปลอดภัยให้กับผู้ป่วยทั่วประเทศ

        อ่านคุณสมบัติผู้บริจาคโลหิตเพิ่มเติม ได้ที่ http://bit.ly/2W1txy3

        อ่านมาตรการสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยในการบริจาคโลหิต ได้ที่ https://blooddonationthai.com/?p=13010

        นัดหมายบริจาคโลหิตเป็นหมู่คณะ โทร. 0-2256-4300 ธนาคารเลือด โรงพยาบาลศิริราช ตึก 72 ปี ชั้น 3 ทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-18.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-16.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2419-8081 ต่อ 123, 128

 

#IStayHomeFor

        ใครอยู่บ้านเก่งกว่าคนนั้นชนะ แฮชแท็กฮิตทั่วโลก เริ่มต้นจาก เควิน เบคอน นักแสดงอเมริกันที่เริ่มใช้แฮชแท็กนี้และแท็กเพื่อนศิลปินคนดังเริ่มต้นจาก เดวิด เบ็กแฮม จนตอนนี้กลายเป็นกระแสกันเต็มโลกออนไลน์ที่ผู้คนอยู่บ้าน ถือป้ายข้อความ #IStayHomeFor ระบุว่าคุณอยู่บ้านเพื่อนใคร และแท็กเพื่อนต่อไปอีกหกคน 

        แคมเปญง่ายๆ ที่ทำให้ใครต่อใครได้กลับมาทบทวนความหมายของมาตรการ Social Distancing ว่าไม่ใช่คำสั่ง แต่คือความจำเป็น แม้จะอึดอัด อยากกอดกันใจจะขาด แต่เมื่อเห็นว่าการห่างกันสักพักนั้นจะทำให้เราได้กลับมาใกล้กันกว่าที่เคย เราทั้งหลายก็ดูจะยินยอมพร้อมใจอยู่บ้านเพื่อคนที่รักกันแต่โดยดี

        ไม่รู้ว่าไวรัสหรือไวรัลจะแพร่กระจายตัวเร็วกว่ากัน แต่ขอให้ไวรัล #สปดกรจรกม #นับหนึ่งให้ถึงแสน #YESICAN #กินใกล้บ้าน #cover19 #IStayHomeFor ความพยายามที่มนุษย์ช่วยเหลือกันในยามวิกฤตเป็นภูมิคุ้มกันป้องกันไวรัส และทำให้เรากลับมาเห็นว่าเรานั้นต่างเกี่ยวข้องเชื่อมโยง ตัดกันไม่ขาดมากเพียงใด