ถ้าถามว่าอีก 20 ปี มนุษย์เราจะกินอะไรเป็นอาหารหลัก คุณจะตอบว่าอย่างไร?
“People don’t know what they want until you show it to them (ผู้คนไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร จนกว่าพวกเขาจะได้เห็นมัน)” คำถามดังกล่าวจึงเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ เพราะว่าเรายังคง ‘มองไม่เห็น’ ว่าอนาคตของอาหารการกินของเราจะวิวัฒน์ขึ้นไปมากกว่าที่เรากินอยู่ทุกวันนี้ได้อย่างไร? แถม Homo Sapien ยังกินได้ทั้งพืช และเนื้อสัตว์ หากพูดถึงอาหารแห่งอนาคต ความเป็นไปได้จึงมีอยู่มากมายจนไม่สามารถนับได้
แต่หากพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นมากที่สุดในวินาทีนี้ เราคงต้องพูดถึง ‘Plant-based Meat’ หรือเนื้อสัตว์สังเคราะห์จากโปรตีนพืช ซึ่งถ้าย้อนไปสัก 5 ปี ที่แล้ว เนื้อสังเคราะห์จากโปรตีนพืช เป็นเพียงแค่อาหารสำหรับช่วงเทศกาลกินเจ หรือเป็นอาหารสำหรับกลุ่ม Vegan หรือกลุ่มมังสวิรัติ ที่ต้องการสารอาหารจำพวกโปรตีน จากการงดการทานเนื้อสัตว์เท่านั้น
แต่เมื่อเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ทำให้รสชาติและเนื้อสัมผัสของเนื้อพืชราวกับเนื้อสัตว์จริงๆ อีกทั้งอาหาร และโภชนาการที่มากกว่าการทานเนื้อสัตว์จริงๆ Plant-based จะกลายมาเป็นอาหารแห่งอนาคตได้ไหม
ไปหาคำตอบกัน
เมื่อการกินเนื้อ = การกัดกินโลก
ใน ปี 2020 นี้ Plant-Based Meat หรือเนื้อที่ทำจากพืชนั้นไม่เพียงแค่เป็นทางเลือกของเหล่ามังสวิรัติเท่านั้น แต่อาจเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมอาหารของมนุษยชาติครั้งยิ่งใหญ่ก็ได้ เพราะ Plant-based Meat นอกจากจะอุดมไปด้วยโภชนาการที่ดีกว่าเนื้อสัตว์จริงแล้ว กระบวนการผลิตยังสามารถลดอัตราการเกิดก๊าซเรือนกระจก ที่เป็นปัญหาในการทำฟาร์มเลี้ยงปศุสัตว์เพื่อการบริโภคอีกมหาศาลด้วย
ในปัจจุบัน 83% ของพื้นที่ทางการเกษตรในปัจจุบันคือการทำฟาร์มปศุสัตว์ที่กินพื้นที่ไปมากกว่า 45% ของพื้นที่โลก และยังเป็นตัวการหลักที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 18% ซึ่งมากกว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อการเดินทางเสียอีก อีกทั้งการเลี้ยงสัตว์ส่งผลต่อคุณภาพและปริมาณของน้ำ เนื่องจากน้ำในการเพาะเลี้ยงปศุสัตว์ คิดเป็น 20-30% ของน้ำสะอาดทั่วโลก การเลี้ยงวัวยังเป็นสาเหตุหลักของการเกิดก๊าซมีเทน ที่ร้ายแรงกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ถึง 86 เท่าในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
เราจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการที่มนุษย์ส่วนใหญ่บริโภคเนื้อสัตว์ คือสาเหตุหลักที่เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน และคงไม่เกินเลยหากจะเปรียบเปรยว่าการกินเนื้อริบอายจานโปรดของคุณคือการที่คุณเคี้ยวบดขยี้อายุขัยของโลกนี้ลงไปพร้อมๆ กันด้วย
ทุกคนอาจรู้อยู่แล้วว่าการกินเนื้อสัตว์ไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อมเท่าไหร่ แต่ถ้าจะให้หยุดกินกันในทันที หลายคนน่าจะทำไม่ได้
คำถามก็คือ – แล้วจะมีอะไรมา ‘ทดแทน’ การกินเนื้อสัตว์จริงๆ ได้ไหม?
อนาคตของอาหารที่ใกล้กว่าที่คุณคิด
อาหารแห่งอนาคตไม่เพียงแค่คำนึงถึงรสชาติหรือโภชนาการที่ได้รับ แต่ยังต้องเป็นอาหารที่ดีต่อโลกด้วยอีกด้วย เนื้อสัตว์สังเคราะห์จากโปรตีนพืช จึงอาจจะกลายมาเป็นกุญแจ ที่มาแก้ไขปัญหาการเพาะเลี้ยงสัตว์ของคนทั่วโลก เพราะในปัจจุบันเราไม่เพียงสามารถสร้างเนื้อสัตว์จากโปรตีนพืชได้เท่านั้น แต่ด้วย Deep Technology ยังสามารถสร้างกระบวนการ Reverse Engineering จากเซลล์เนื้อสัตว์ให้มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เหมือนกับเนื้อสัตว์จริงๆ ขึ้นมาได้ด้วย
Plant-based Meat ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในโลกตะวันตกสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการอาหารสัญชาติอเมริกันที่ชื่อว่า Beyond Meat ได้บุกเบิกตลาดเนื้อเทียมมาตั้งแต่ปี 2009 และยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อบริษัทผู้ผลิตอาหารมากมาย ตั้งแต่ Burger King, McDonald’s หรือกระทั่ง Starbucks ได้จับมือกับบริษัทผลิตเนื้อ Plant-based เจ้าต่างๆ เช่น Beyond Meat และ Impossible Meat สร้างสรรค์เมนูที่ใช้ Plant-based Meat เป็นส่วนประกอบ เนื้อ Plant-based จึงหอมหวานมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในแง่ของอาหารแบบใหม่ และในแง่ของมูลค่าตลาดและความเป็นไปได้อีกมหาศาล
ประเทศไทยจะกลายเป็นครัวในการผลิต Plant-based ของโลก
อีกไม่นานการทานอาหารประเภท Plant Based จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนที่อยู่ในฝั่งโลกตะวันออก และประเทศไทยที่ถูกขนานนามว่าเป็นครัวของโลก จะเป็นประเทศแรกๆ ที่ก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่ที่เราไม่จำเป็นต้องบริโภคเนื้อสัตว์อีกต่อไป เพราะบริษัทอาหารสัญชาติไทยอย่าง NRF ได้ตกลงที่จะตั้งโรงงานผลิต Plant-based ในประเทศของเรา เพื่อที่จะตีตลาดในฝั่งเอเชีย
แดน ปฐมวาณิชย์ ซีอีโอของบริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF บริษัทแห่งเดียวในโลกที่มีใบอนุญาตและเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิต Plant-based Food ได้กล่าวไว้ในรายการ ทันหุ้น ว่า อาหารประเภท Plant-based มีศักยภาพในการเติบโตที่สูงมากในตลาดโลก ประมาณกันว่ามูลค่าอาจสูงถึง 8 หมื่นล้านเหรียญ ภายในเวลาแค่ 10 ปี เท่านั้น
แดนยังกล่าวอีกว่าจริง ๆ แล้วกลุ่มเป้าหมายของ Plant-based ไม่ใช่กลุ่มมังสวิรัติ แต่คือตลาดกลุ่มคนที่กินเนื้อเป็นปกติ เพราะเมื่อกำแพงข้อจำกัดทางด้านรสชาติ เนื้อสัมผัส และกลิ่น ที่เคยขวางกั้นในการเลือกบริโภคของคนกลุ่มนี้ได้พังทลายลงไป บวกกับโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพกว่าการบริโภคเนื้อสัตว์ และกระบวนการผลิตที่ไม่ส่งผลเสียต่อโลก Plant-based จึงจะกลายเป็นอาหารแห่งอนาคตอย่างที่ไม่ต้องสงสัย
อาหารแห่งอนาคตคือความเท่าเทียม
นอกจากอาหาร Plant-based จะเป็นอาหารที่ต่อโลก และดีต่อสุขภาพของคุณแล้ว อาหาร Plant-based ยังจะเป็นอาหารที่ทำลายกำแพงแห่งความเชื่อในการกินของผู้คนไปด้วย เพราะเมื่อเราสามารถที่จะสังเคราะห์เนื้อสัตว์ขึ้นมาได้แล้ว คำถามก็คือ – การคร่าชีวิตเพื่อบริโภคจะยังมีอยู่หรือเปล่า หรือกลุ่มคนที่มีความเชื่อว่าไม่กินเนื้อสัตว์ประเภทใดประเภทหนึ่ง จะยังคงมีอยู่หรือไม่?
นั่นคือคำถามต้องต้องรอคำตอบในอนาคต
แต่ไม่ใช่อนาคตที่ไกลเกินเอื้อม
ที่มา: