เราอาจแบ่งคนทำงานได้อย่างง่ายเป็นสองกลุ่มหลักๆ คือเหล่าคนทำงานสายธุรกิจที่ชีพจรลงเท้า ต้องวุ่นกับการเดินทางไปทำงานพบปะลูกค้าไม่เว้นวัน หรือต้องทำงานอยู่ข้างนอกออฟฟิศบ่อยๆ และเหล่านักทำงานสายอาร์ตหรือครีเอเตอร์ ที่ต้องเค้นสมองและสองมือในการคิดคอนเทนต์งานเชิงศิลป์ แต่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน การมีผู้ช่วยหรือเครื่องมือที่พร้อมตอบโจทย์และสนับสนุนการทำงานในทุกรูปแบบให้ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพสูงสุดก็ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง
แน่นอนว่าเครื่องมือที่ช่วยในการทำงานของคนรุ่นใหม่ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีทุกอย่างหมุนไวคงหนีไม่พ้นโน้ตบุ๊ก ที่นับวันจะมีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ และหนึ่งในแบรนด์ที่เรานึกถึงแรกๆ ก็คือ ASUS ที่พัฒนานวัตกรรมตอบโจทย์คนใช้งานอย่างเรามาตลอด 30 ปี และมี Product Segmentation ที่หลากหลาย
ล่าสุด ASUS เพิ่งเปิดตัวโน้ตบุ๊กธุรกิจพรีเมียมสองสไตล์อย่าง ASUS ExpertBook B9450 และ ProArt StudioBook สำหรับคนทำงานสองกลุ่มใหญ่ ทั้งคนรุ่นใหม่ในสายงานธุรกิจและคนทำงานสายครีเอเตอร์ระดับโปรเฟสชันนอลที่ต้องใช้คอมแรงๆ สเปกสูงๆ ที่มาพร้อมดีไซน์หรูหรา ประสิทธิภาพขั้นสุด และฟังก์ชันน่าสนใจมากมาย ทำให้เราเห็นว่า แม้อยู่ในช่วงที่สังคมโดนดิสรัปต์ด้วยโรคภัย แต่ความตั้งใจที่จะส่งมอบนวัตกรรมดีๆ ให้ผู้ใช้งานของ ASUS ไม่เคยเปลี่ยน
ยิ่งพอได้เห็นตัวสินค้าทั้งสองรุ่น เราก็รู้ได้เลยว่า โน้ตบุ๊กของ ASUS ที่สามารถตอบโจทย์การทำงานทั้งสายธุรกิจหรือสายครีเอเตอร์ แถมยังสะดวกต่อการเคลื่อนย้ายหรือการทำงานนอกสถานที่ได้นี่แหละคือสิ่งที่คนรุ่นใหม่รักอิสระแต่ไม่ทิ้งงานแบบเราต้องการ
ASUS ExpertBook B9450 เพื่อนสายลุยงานไปไหนไปกัน
ExpertBook B9450 มาพร้อม 2 รุ่น โดยต่างกันเรื่องแบตเตอรี่เป็นหลัก คือ 870 กรัม และ 995 กรัม ซึ่งขนาด 870 กรัม ถือเป็นโน้ตบุ๊กธุรกิจขนาด 14 นิ้วที่เบาที่สุดในโลก จึงสามารถพกพาระหว่างเดินทางได้เป็นอย่างดี ตัวขอบจอภาพที่บางเฉียบทำให้สามารถติดตั้งจอภาพขนาด 14 นิ้วลงในตัวเครื่องขนาด 13 นิ้วได้ ทำให้มีขนาดโดยรวมที่กะทัดรัดเป็นพิเศษ แถมมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 24 ชั่วโมง (ในรุ่น 995 กรัม) พร้อมฟังก์ชันการชาร์จเร็ว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มอาชีพแบบ Digital Nomad เช่น มีการเดินทางตลอดเวลา มีการทำงานนอกสถานที่ รักอิสระ และชอบเปิดรับสิ่งใหม่ในชีวิต ถือเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของประสิทธิภาพและความคล่องตัวสำหรับผู้ใช้งานธุรกิจ
ทนทาน ปลอดภัยเป็นพิเศษ
แม้จะมีน้ำหนักเบา แต่ด้วยวัสดุตัวเครื่องที่ทำจาก Magnesium Lithium Alloy ที่เบาแต่ยังแข็งแรงกว่าแมกนีเซียมอะลูมิเนียม จึงทนทานต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี ตัวเครื่องผ่านการทดสอบที่เข้มงวด ทั้งจากการกดทับ การสั่น การกระแทก และการตกจากที่สูง ผ่านเกณฑ์ความทนทานตามมาตรฐานทางทหาร แถมยังมีมาตรการความปลอดภัยทางธุรกิจที่ครอบคลุมตั้งแต่การป้องกันฮาร์ดแวร์ ไปจนถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลตัวตนผ่านตัวชิพ TPM 2.0 ซึ่งเป็นเกรดระดับองค์กร ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญในระดับองค์กรพร้อมถูกปกป้องในขั้นสูงสุดอย่างแน่นอน ที่สำคัญคือได้รับการรับรอง Intel Project Athena Certified ซึ่งตรงตามข้อกำหนดที่ยืนยันประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังและมีเสถียรภาพ
ทุกการใช้งานไม่มีติดขัด ด้วยฟังก์ชันการดีไซน์ที่เหนือชั้น
ในยุคที่การประชุมทางไกลผ่านโปรแกรมวิดีโอคอลทั้งหลายเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญ ฟังก์ชันของ ExpertBook B9450 ก็สามารถตอบโจทย์นั้นได้ด้วยระบบเสียงชั้นยอด ไมโครโฟน 4 ทิศทาง สามารถจับเสียงได้ชัดเจนและมีระบบตัดเสียงรบกวนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการประชุมแบบวิดีโอ (Video Conference) ของคุณได้ พร้อมกันนั้นยังเป็นครั้งแรกสำหรับโน้ตบุ๊กธุรกิจที่มี NumberPad แป้นตัวเลขพร้อมไฟ LED ส่องสว่างที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการป้อนข้อมูลแบบตัวเลขที่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน แถมยังสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่าน MyASUS เพื่อโอนไฟล์ URL การแจ้งเตือน อ่าน รับ และส่งข้อความบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งหมดได้อย่างไร้รอยต่อ
ExpertBook B9450 มาพร้อมสี Star Black ที่ไม่ว่าพกพาไปทำงานที่ไหนก็สัมผัสได้ถึงความดูดีมีสไตล์ตามฉบับคนทำงานรุ่นใหม่ และบานพับ Ergolift ที่ช่วยยกระดับตัวเครื่องให้สูงขึ้น และเอียงคีย์บอร์ดให้เหมาะกับรูปมือของมนุษย์ ก็ทำให้สามารถพิมพ์งานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
ProArt StudioBook เพื่อนคู่ใจของสายครีเอเตอร์ระดับมืออาชีพ
ยุคนี้โน้ตบุ๊กดีๆ สักเครื่อง ก็ออกไปนั่งทำงานที่ไหนก็ได้บนโลก ProArt StudioBook จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาให้ผู้ใช้งานที่ต้องการเน้นประสิทธิภาพเครื่องแรงๆ แต่ยังมีดีไซน์ที่สวยงามแบบมืออาชีพและพกพาไปข้างนอกได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เป็น Professional Creators ในสายงานต่างๆโดยเฉพาะ เช่น นักออกแบบ สถาปนิก 3D แอนิเมเตอร์ วิศวกร โปรแกรมเมอร์ หรือแม้กระทั่งคนที่ทำงานคอนเทนต์เป็นงานอดิเรก เช่น เหล่ายูทูเบอร์ นักตัดต่อวิดีโอ หรือกระทั่งคนทำเพลงด้วยตัวเอง ก็สามารถใช้โน้ตบุ๊กเครื่องนี้ได้ ด้วยฟังก์ชันต่างๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนทำงานเชิงศิลป์ทั้งหลาย ให้มีทั้งประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม และได้ประสิทธิภาพในงานแบบเต็มๆ เรียกว่าแค่มี ProArt StudioBook ก็สามารถไปนั่งทำงานหรือหาแรงบันดาลใจที่ไหนก็ได้
ประสิทธิภาพครบครันในสายงานเชิงศิลป์
เป็นที่ทราบกันดีว่าผลิตภัณฑ์ในสาย ASUS ProArt มีขอบเขตสีที่กว้างและเทคโนโลยีการปรับสีขั้นสูงเพื่อมอบประสบการณ์สีที่แม่นยำที่สุดให้กับผู้ผลิตคอนเทนต์ และความสามารถในการใช้จินตนาการอย่างเต็มที่ โดยมีบริษัทไกด์สีชื่อดังอย่าง PANTONE รับประกันความไม่ผิดเพี้ยนของสี รองรับการใช้งานระดับสูงได้ นอกจากนั้นยังใช้ฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังที่สุด อาทิ การ์ดจอประมวลผลแบบเรียลไทม์ NVIDIA QUADRO RTX GPUs ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้านภาพยนตร์, วิดีโอ, การออกแบบยานยนต์, การออกแบบเชิงสถาปัตยกรรม หรืองานระดับมืออาชีพโดยเฉพาะ ช่วยให้ผู้ผลิตคอนเทนต์สามารถสร้างชิ้นงานที่สวยงาม และประมวลผลหรือการเรนเดอร์กราฟิก3D ได้อย่างรวดเร็ว
ที่สำคัญคือมีซอฟต์แวร์ Smart Sync ที่สามารถซิงก์กับมือถือได้ทุกรุ่น ทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่าการเรนเดอร์งานไปถึงไหนแล้ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องนั่งรออยู่หน้าจอตลอดเวลา แต่จะไปชงกาแฟสักแก้วหรือจะไปนั่งพักสายตาเปลี่ยนบรรยากาศสักนิดก็ได้ นับว่าเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น
ดีไซน์เท่และแตกต่าง
ด้วยความที่การสร้างสรรค์งานศิลป์รูปแบบต่างๆ ในโน้ตบุ๊กนั้นส่วนใหญ่จะกินเวลานาน ProArt StudioBook จึงออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้อากาศไหลเข้าและออกจากตัวเครื่องได้อย่างดีที่สุด เมื่อเปิดแล็ปท็อป ฝาด้านนอกของจะเปิดโดยอัตโนมัติเพื่อช่วยระบายความร้อนและดึงประสิทธิภาพการทำงานได้สูงสุด ส่วนตัวเครื่องเป็นสี Star Grey มีเหลี่ยมมุมของตัวเครื่องที่ให้ความรู้สึกหรูหรามีระดับ
หลายรุ่น หลากซีรีส์ ให้เรียกใช้ตามความชอบและความเหมาะสม
อย่างที่ทราบว่า ProArt ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับคนที่ทำคอนเทนต์ระดับมืออาชีพ หนึ่งในนั้นคือโน้ตบุ๊ค (ProArt StudioBook) ซึ่งมีดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานดังที่เราได้กล่าวไป แต่ความเจ๋งคือโน้ตบุ๊ค ProArt นั้นมีซีรีส์หรือรุ่นมากมายให้ได้ลองเลือกใช้ตามความเหมาะสม อาทิ ProArt StudioBook One (W590), ProArt StudioBook Pro X (W730), ProArt StudioBook Pro 15 (W500), ProArt StudioBook Pro 17(W700) และ ProArt StudioBook 15 (H500) ซึ่งแต่ละรุ่นบอกเลยว่าจุดเด่นและรายละเอียดฟังก์ชันเจ๋งๆ ก็แตกต่างกันไป แต่อยู่บนพื้นฐานของการทำงานในเชิงศิลป์ และทุกรุ่นได้รับการรับรองจากสถาบัน ISV ใช้งานได้ครบทั้งสาย Adobe และ Autodesk
การรับประกันจาก ASUS: มีบริการ และการรับประกันพิเศษ สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Commercial โดยเฉพาะ ได้แก่
– 3 Year Onsite Service : บริการซ่อมถึงที่ 3 ปี
– 3 Year Global Warranty : รับประกัน 3 ปีทั่วโลก
– 1 Year Perfect Warranty : รับประกันอุบัติเหตุในปีแรก
– ASUS Online Customer Service : การบริการลูกค้าออนไลน์แบบเรียลไทม์