All I Want For Christmas Is You

All I Want For Christmas Is You: ของขวัญคริสต์มาสชิ้นสำคัญที่แม่หมีมอบไว้ให้แก่มนุษยชาติ

“การได้รับสิทธิ์ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาในบทเพลงได้ มันช่วยให้ฉันผ่านช่วงเวลาที่ยากที่สุดของชีวิต และช่วยจุดประกายความหมายให้ชีวิตของใครอีกหลายคนได้ ฉันคิดว่านี่คือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งแล้ว” 

         พรสวรรค์สำคัญของ มารายห์ แครี ศิลปินหญิงระดับตำนานที่กว่าเธอจะเดินมาสู่เส้นทางซูเปอร์สตาร์นั้น กลับเต็มไปด้วยเรื่องแปลกประหลาดอันน่าทึ่งใจอยู่มิใช่น้อย

 

All I Want For Christmas Is You

01 | The Wind Mariah

        มารายห์​ แครี เกิดที่รัฐนิวยอร์ก ในปี 1970 จากแม่ที่มีชื่อสายไอริช-อเมริกัน และพ่อที่มีชื่อสาย แอฟริกัน อเมริกัน และเวเนซูเอล่า โดยชื่อจริงของเธอได้รับแรงบันดาลใจมาจาก The Wind Mariah เพลงประกอบละครเวทีเรื่อง Paint Your Wagon และชื่อเต็มของเธอคือ มารายห์ แองเจลา แครี

02 | Road of Superstar

        ในช่วงเกรด 11 มารายห์เริ่มรู้สึกว่าการเรียนหนังสือแบบหลักสูตรทั่วไปไม่เหมาะสมกับเธอ จึงตัดสินใจออกจากโรงเรียนมัธยม และเข้าโรงเรียนความงามในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ในช่วงนั้นเธอทำงานทุกประเภทเพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเอง ทั้งพนักงานเสิร์ฟ พนักงานต้อนรับ หรือแม้กระทั้งคนกวาดเศษผมตามร้านเสริมสวยก็ตาม 

        เมื่ออายุ 18 ปี เธอได้งานเป็นร้องประจำอยู่ในไนต์คลับ ขณะเดียวกันเธอก็ยังหมั่นเพียรพยายามอัดเสียงร้องใส่เทปเพื่อหวังว่าจะไปเข้าหูโปรโมเตอร์ศิลปินบ้าง จนในคืนหนึ่งที่เทปของเธอได้ไปถึงมือ ทอมมี่ มอตโตลา ประธานบริษัท Columbia Records โดยระหว่างทางกลับบ้านเขาได้ใส่เทปในเครื่องเสียงรถยนต์ของเขาและก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงร้องของ มารายห์ แครี มอตโตลาจึงเฝ้าตามหาเธอนานถึง 2 สัปดาห์จนพบ จับเซ็นสัญญาและออก Mariah Carey (1990) อัลบั้มแรกของเธอโดยทันที

 

03 | Singer to Lover

        ในช่วงที่มารายห์กำลังออกอัลบั้มที่สาม Music Box (1993) เธอก็แต่งงานกับมอตโตลา ในปี 1993 ว่ากันว่าการแต่งงานครั้งนี้เต็มไปด้วยแรงปรารถนาแห่งรักอย่างมากของมารายห์ จนถึงขนาดที่ว่าเธอยอมกลับมากินเนื้อสัตว์ตามสามีอีกครั้งหลังจากที่ผันตัวไปเป็นมังสวิรัติอยู่หลายปี

        แต่สุดท้ายความรักก็ไม่หอมหวานเหมือนเส้นทางอาชีพนักร้อง เธอและมอตโตลาหย่าร้างกันก่อนที่เธอจะออกอัลบั้ม Butterfly (1997) ที่เป็นเหมือนตัวแทนแห่งอิสรภาพครั้งใหม่ของเธอ 

        หลังจากนั้นเธอได้สลัดคราบผู้หญิงบ้านๆ กลายมาเป็น ดีว่าสาวสุดฮอต ด้วยสไตล์หวาบวิว สร้างความตื่นตาให้กับวงการบันเทิงเป็นอย่างมาก จนถึงขนาดที่ว่าในปี 2000 และปี 2001 เธอได้รับการโหวตเป็น 1 ใน100 ผู้หญิงที่เซ็กซี่ของโลกจากการจัดอันดับโดยนิตยสาร FHM

 

All I Want For Christmas Is You

04 | Legs of a Goddess

        เรียวขาของเธอมีการทำประกันสูงถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังจากที่เซ็นสัญญากับบริษัทใบมีดโกน ในโปรเจ็กต์ที่มีชื่อว่า ‘Legs of a Goddess’

 

05 | Voice in the world

        ในปี 2003 เธอได้รับการบันทึกจาก Guinness Book World Record ว่าเป็นมนุษย์ที่สามารถไต่สเกลโน้ตดนตรีได้สูงที่สุดในโลก จากการแสดงสดในเพลง Star-Spangled Banner โดยว่ากันว่าเธอสามารถร้องเพลงในระดับเสียงได้ถึงคู่ที่ 7 ซึ่งเป็นระดับเสียงที่น้อยคนมากจะไล่ถึงขั้นนี้ โดยผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าเสียงของเธอนั้นสามารถเปิดประตูหรือทำให้แก้วแตกได้เลย

06 | Marilyn Monroe

        มาริลิน มอนโร คือนักแสดงในดวงใจของมารายห์ จนถึงขนาดที่เธอนำชื่อของไอดอลคนนี้ไปตั้งเป็นชื่อลูกว่า มอนโร แคนนอน นอกจากนี้ความคลั่งไคล้ของเธอยังไปไกลถึงขนาดที่ว่า เธอซื้อเปียโนของ มาริลิน มอนโร ที่ราคาสูงถึง 662,500 เหรียญสหรัฐฯ

 

All I Want For Christmas Is You

07 | Hi lambs

        เห็นเธอเวี้ยดๆ แบบนี้แต่รู้ไหมว่า มารายห์ แครี เป็นคนที่เคร่งครัดต่อศาสนาคริสต์มากๆ (ช่างขัดกับภาพของเธอใน MV หลายๆ ตัวยุคคัมเอาต์เหลือเกิน) โดยเธอจะเรียกแฟนคลับของตัวเองว่า Lambs หรือเหล่าลูกแกะน้อย ซึ่งมาจากการที่พระเยซูมีอาชีพเป็นคนเลี้ยงแกะ แกะเลยเปรียบเสมือนสาวกที่จงรักภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า เหมือนกับที่แฟนคลับต่างคอยสนับสนุนและให้กำลังใจเธอเรื่อยมา

08 | Mimi

        เธอมีชื่อเล่นลับที่เพื่อนสนิทเท่านั้นถึงจะเรียกเธอแบบนี้ได้ นั่นคือ ‘Mimi’ จนกระทั่งเธอได้ออกอัลบั้มชื่อ The Emancipation of Mimi (2005) แฟนเพลงจึงสามารถเรียกเธอว่า Mimi ได้เสียที และเหล่าลูกแกะในประเทศไทยก็แปลงชื่อเล่นของเธออีกรอบให้ดูน่ารักขึ้น จึงเป็นที่มาของชื่อ ‘แม่หมี’ ที่เราได้เห็นพวกเขาพูดถึง Queen of R&B คนนี้

09 | Best Singer,Worst Actor

        ครั้งหนึ่งเธอเคยร่วมแสดงในภาพยนตร์ Glitter (2001) ในบทตัวเธอเอง (ยังมีใครจำหนังเรื่องนี้ได้ไหม) แต่ด้วยความที่เธอเป็นนักร้องมาตลอดชีวิต ทำให้หนังเรื่องนี้ส่งผลให้เธอคว้ารางวัล Razzie Award (รางวัลสำหรับหนังและนักแสดงยอดแย่ประจำปี) จนกลายเป็นเป็นจุดด่างพร้อยในใจเธออยู่พักหนึ่ง

 

10 | New Love

        หลังจากนั้นมารายห์​ ได้พบกับ นิก แคนนอน นักแสดงชาวอเมริกันและแร็ปเปอร์ ในขณะที่เธอกำลังถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลง Bye Bye บนเกาะนอกชายฝั่งแอนติกา แล้วหลังจากนั้นไม่นานเธอก็ตกลงปลงใจแต่งงานกันในบาฮามาส

        แม้ว่าทั้งคู่จะมีอายุห่างกันมากถึง 11 ปี แต่เธอก็ตอบกลับมาเสมอว่า “อายุไม่ใช่สิ่งอื่นใดนอกจากตัวเลข”

 

All I Want For Christmas Is You

11 | มารายห์ แครี กับสุนัขทั้ง 8

        สุนัขทั้ง 8 ตัวของมารายห์ส่วนใหญ่คือสิ่งมีชีวิตที่มีความเป็นอยู่สุขสบายเฉกเช่นมนุษย์ โดยเธอใช้เงินกว่า 28,000 เหรียญต่อปีในการพาเหล่าน้องๆ ไปทริป ‘วันหยุดพักผ่อนของสุนัข’ ด้วยการพาพวกมันขึ้นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปใช้ชีวิตในโรงแรมห้าดาว ณ เมืองบริสตอล จากนั้นก็จะพาไปผ่อนคลายด้วยสปาหลากหลายแห่ง ก่อนที่จะปิดด้วยดินเนอร์มื้อหรูส่วนตัวระหว่างเธอกับสุนัข

12 | Stranger Singer

        ครั้งหนึ่ง จัสติน ฟานไวก์ ซีอีโอของ Big Concerts เคยเล่าไว้ว่า ในโชว์งานหนึ่งที่เขาเป็นผู้จัด มารายห์ แครี ศิลปินในงานนั้นเคยเรียกร้อง ลูกแมวสีขาว 20 ตัว และนกพิราบสีขาวอีก 100 ตัวภายในห้องพักศิลปินของเธอโดยเฉพาะ หลังจากงานนั้น จัสตินก็ยกให้เธอเป็นดีว่าที่อยู่เหนือดีว่าทั้งปวง 

 

All I Want For Christmas Is You

 

        ในช่วงเวลานี้ มารายห์มีเพลงฮิตออกมาถล่มชาร์ตเพลงต่างๆ มากมายเต็มไปหมด แต่หากพูดถึงเพลงที่โด่งดังและคุ้นหูมากที่สุดเพลงหนึ่งก็คงหนีไม่พ้นเพลงประจำเทศกาลส่งท้ายปีอย่าง All I Want for Christmas Is You เพลงจากอัลบั้มที่ 5 ของเธอที่เล่าถึงหญิงสาวผู้ไม่ต้องการของขวัญในวันคริสต์มาสใดๆ นอกจากคนรักของเธอ ก่อนที่จะเพลงนี้จะกลายเป็นเพลงประจำเทศกาลคริสต์มาสไปโดยปริยาย

 

 

13 | 25 Years

        หลังจากรอคอยมาถึง 25 ปี All I Want For Christmas Is You ก็ได้ทะยานขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 1 บนบิลบอร์ดชาร์ตได้สำเร็จเป็นครั้งแรก และกลายเป็นเพลงคริสต์มาสเพลงที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่สามารถขึ้นอันดับหนึ่งในอเมริกาต่อจากเพลง The Chipmunk Song (Christmas Don’t Be Late) ของ The Chipmunks และ เดวิด เซวิลล์ ในปี 1958

        นอกจากนี้เพลงดังกล่าว ยังคว้าสามสถิติใหม่ของ Guinness World Records ทั้งเป็นเพลงคริสต์มาสที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นเพลงของศิลปินหญิงที่ถูกฟังทางสตรีมมิงมากที่สุดใน 24 ชั่วโมงบน Spotify กับยอด 10.8 ล้านครั้ง และเป็นเพลงคริสต์มาสที่อยู่ใน Top 10 ของชาร์ตอังกฤษนานที่สุดถึง 20 สัปดาห์

 

All I Want For Christmas Is You

14 | World Records

        ส่วนสถิติของมารายห์เอง เพลงนี้กลายเป็นเพลงลำดับที่ 19 ของเธอต่อจาก Touch My Body เมื่อปี 2008 ที่ขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดชาร์ตได้ และทำให้เธอยังครองสถิติเป็นศิลปินเดี่ยวที่มีเพลงอันดับหนึ่งมากที่สุดบนชาร์ต

        รวมไปถึงกลายเป็นศิลปินที่ครองอันดับ 1 นานสุดถึง 80 สัปดาห์แล้ว โดยเธอครองสถิตินี้อยู่แล้วแค่ต่อขยายความยาวเพิ่มไปอีก (ซึ่งก่อนหน้านี้ครองสถิติร่วมกับ Elvis Presley ที่ 79 สัปดาห์) โดยศิลปินที่ตามเธอมาห่างๆ ได้แก่  Rihanna ที่ครองอันดับ 1 นาน 60 สัปดาห์