เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยมีพฤติกรรมกังวลกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบตัว ยิ่งเกี่ยวกับความปลอดภัยภายในบ้าน คงไม่ปฏิเสธว่าหลายๆ ครั้งที่เราต้องย้อนกลับไปดูว่าปิดแก๊ส ปิดไฟ หรือล็อกประตูบ้านหรือยัง เดินเข้า-ออกบ้านจนเสียเวลาไปทำงานเลยก็มี พฤติกรรมเหล่านี้จึงมักจะถูกมักหยอกล้อกันว่าเป็น ‘โรคย้ำคิดย้ำทำ’
ในความเป็นจริงแล้ว โรคย้ำคิดย้ำทำ OCD (Obsessive Compulsive Disorder) คือ อาการที่คิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากไป ส่งผลต่อพฤติกรรมที่ทำตามอย่างที่คิดซ้ำๆ เช่น กลัวว่ามือสกปรก จึงย้ำเอง คิดเอง ว่ากลัวมือจะสกปรก ก็เลยจะย้ำทำโดยการล้างมือบ่อยๆ ยิ่งช่วงโควิด -19 หลายคนคงจะกังวลเรื่องล้างมือบ่อยๆ แต่อาจจะไม่มากเท่าผู้ที่มีอาการดังกล่าว หรือคนที่ออกจากบ้านทุกเช้า กลัวโจรจะขึ้นบ้านเลยย้ำทำโดยการเช็กกลอนประตูบ่อยๆ กลัวว่าไฟจะไหม้ก็เช็กสวิตช์ไฟหรือเตาแก๊ส เช็กแล้วเช็กอีก โดยพฤติกรรมเหล่านี้หากเป็นมากเกินไปจนเสียเวลา เสียงานเสียการ จะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวันอย่างมาก ทั้งนี้ทางการแพทย์ถือว่าเป็นโรคประสาทหรือโรคเครียดชนิดหนึ่ง
สาเหตุของโรคย้ำคิดย้ำทำ
อาการนี้เกิดจากระดับสารเคมีในสมองไม่สมดุล ทำให้สมองทำงานผิดปกติ มีความวิตกกังวลมากจนมีพฤติกรรมซ้ำๆ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีคำอธิบายที่แน่ชัดว่าเกิดจากความเครียดก่อนแล้วส่งผลให้ระดับสารเคมีไม่สมดุล หรือสารเคมีในสมองไม่สมดุล จนเครียด กลายเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำในที่สุด ส่วนอาการหลงลืมในผู้สูงอายุ ทำให้เกิดการทำซ้ำๆ จนคล้ายโรคย้ำคิดย้ำทำ เนื่องจากผู้สูงอายุย้ำทำในสิ่งที่คิดบ่อยๆ นั้น เกิดจากการหลงลืมว่าได้ทำไปแล้ว ถือว่าไม่ใช่โรคย้ำคิดย้ำทำ แต่เกิดจากความจำที่แย่หรือเสื่อม
โรคย้ำคิดย้ำทำเป็นโรคที่ไม่เป็นอันตรายกับชีวิต แต่สร้างความรำคาญให้กับผู้ป่วยและคนใกล้ชิด มีผลเสียหลายอย่าง ทำให้เสียเวลา เกิดอาการหมกมุ่น หรือในคนไข้ที่กังวลกับอาการย้ำคิดย้ำทำของตนมากเกินไปจนเป็นความเครียด ส่งผลให้กลายเป็นโรคซึมเศร้า ท้อแท้ตามมา หรือแม้กระทั่งคนไข้บางรายสามารถทำใจมองอาการเป็นเรื่องปกติ ส่งผลให้ความเครียดลดน้อยลง และยอมรับในอาการที่เป็นอยู่ว่าเป็นนิสัยของตัวเอง แต่ผลเสียในการใช้ชีวิตอื่นๆ ก็คงมีอยู่ สุดท้ายโรคย้ำคิดย้ำทำก็ไม่เกิดผลดีทั้งนั้น
การรักษาโรคย้ำคิดย้ำทำ
สามารถทำได้ 2 ส่วนคือ การใช้ยาช่วยปรับระดับสารเคมีในสมองให้สมดุล ทำให้คนไข้มีอาการดีขึ้น และทำจิตบำบัดโดยการปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม (Cognitive behavior therapy) ซึ่งเป็นการบำบัดที่เป็นสากล เพื่อแก้ปัญหาปัจจุบันและเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมที่ไร้ประโยชน์ โดยเน้นปัญหาในปัจจุบัน ไม่ได้ค้นกลับไปยังปมที่มีมาตั้งแต่อดีต ซึ่งให้ผลการรักษาที่ดี
บทความโดย:นายแพทย์กิตติ สกาวรัตนโยธิน
แพทย์ชำนาญการสาขาจิตเวชศาสตร์ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
ภาพ: Getty Images