ทำอย่างไรดีเมื่อเครียดจากการทำงาน จนไม่มีเวลาไปความผ่อนคลาย?
คำถามจากตัวเราถึงใจเราเอง… เพราะรู้สึกว่าช่วงนี้นอกจากทำงานเยอะแล้ว ยังต้องมากังวลกับอาการกลัวโควิด-19 ทำให้ไม่ค่อยได้ออกไปไหนหากไม่จำเป็น และสำหรับชาวอินโทรเวิร์ตอย่างเราที่แม้เป็นคนจะติดบ้าน ชอบอยู่เงียบๆ แต่การไม่ได้ออกไปไหนเป็นเวลานานจากสถานการณ์ตึงเครียดนี้ ก็ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานหดลงไปด้วย ความเครียดจึงพุ่งขึ้นระดับมหาศาล
หลายคนอาจจะบอกว่า ถ้าอย่างนั้นก็อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลงสิ แต่สำหรับตัวเราบางทีการทำสิ่งเหล่านี้ก็ต้องพึ่งพาความสุนทรีย์ และสถานการณ์ที่เป็นใจด้วย เราถึงจะเกิดการพักผ่อนอย่างแท้จริง ฟังดูเป็นคนเรื่องมากนะ เราไม่เถียง นั่นจึงทำให้เราต้องเสาะหาวิธีใหม่ๆ เพื่อเยียวยาใจตัวเองอยู่ตลอด
เราไปเจอบทความในเว็บไซต์หนึ่งเขียนถึงวิธีการบำบัดความเครียดด้วย การแตะ หรือ Tapping Therapy (แต่ขอออกเสียงว่า ‘การแท็ป’ เพื่อทำให้เห็นเห็นได้ชัดเจนภาพมากขึ้น และเพื่ออรรถรส) ซึ่ง Poppy Delbridge ผู้เชี่ยวชาญในการแท็ปบำบัด กล่าวไว้ว่า
“การบำบัดนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราได้สัมผัสกับอารมณ์ต่างๆ ซึ่งมีแนวคิดคือ ให้เราได้สัมผัสถึงสิ่งที่รู้สึกจริงๆ เป็นการผสมผสานระหว่างการทำงานด้านร่างกายและจิตวิทยา โดยจะใช้ใช้วิธีพื้นฐานด้านการพูดคุยกับตัวเองในในขณะที่ปรับอารมณ์ให้เข้ากับพลังงานของร่างกาย”
ป๊อปปี้แชร์ประสบการณ์ของเธอว่า เมื่อพูดถึงการดูแลสุขภาพจิต เรามักจะนึกถึงการทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายมากกว่าการกลับมาหยุดนิ่งแล้วสำรวจภายในของตัวเอง ซึ่งในตอนที่ทำกิจกรรมต่างๆ อยู่นั้นเธอได้ตระหนักว่าอารมณ์ของเธอก็ยังไม่สงบนิ่งอยู่ดี และเธอก็มีปัญหากับการทำสมาธิแบบเดิม “ฉันไม่สามารถนั่งลงแล้วคิดถึงความรู้สึกของตัวเองเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงโดยไม่กระสับกระส่ายได้ และฉันก็ยอมแพ้ในที่สุด” แต่เมื่อเธอเจอการบำบัดด้วยการแท็ปก็ทำให้เธอสัมผัสถึงอารมณ์ความรู้สึกได้มากขึ้น “การแท็ปเป็นสิ่งที่ทรงพลังจริงๆ เพราะทำให้ฉันสามารถตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกของฉันได้” เธอกล่าว
ซึ่งการบำบัดรูปแบบนี้เหมาะสำหรับคนที่มีงานยุ่ง เพราะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว โดยป๊อปปี้แนะนำว่าให้แบ่งเวลาไว้เพียง 5 นาทีเพื่อทำการบำบัดนี้ในทุกวัน ไม่เพียงแต่ช่วยให้เข้าใจว่าความรู้สึกนั้นมาจากไหน แต่ยังช่วยให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลาย และควบคุมชีวิตได้มากขึ้นด้วย
วิธีสร้างกิจวัตรการแท็ปเพื่อคลายความเครียดใน 5 นาที ทำได้ดังนี้
1. ขั้นแรก ให้หาที่นั่งที่สะดวกสบาย เธอแนะนำว่าเพื่อให้จิตวิญญาณได้สัมผัสถึงพลังจากธรรมชาติมากที่สุดให้นั่งกับพื้น หรือนั่งในท่าที่วางเท้าแตะพื้นได้เพื่อให้รับรู้ได้ถึงความเย็นที่ไหลเวียนอยู่
2.จากนั้นให้ถูมือทั้งสองข้างไปมาด้วยความเร็วที่ไม่ช้าไปและไม่เร็วเกินไป คอยจดจ่อและให้จุดรวมความสนใจอยู่ที่การถูมือ แล้วลองนึกถึงความรู้สึกเครียดที่มีว่า จากระดับ 0-10 คุณรู้สึกเครียดในระดับใด
3. เมื่อประเมินความเครียดของตัวเองได้แล้ว ให้วางมือทั้งสองข้างลงบนหน้าอก คล้ายๆ ท่า butterfly hug โดยให้นิ้วชี้อยู่ใต้กระดูกไหปลาร้าเล็กน้อย (บางคนอาจจะรู้สึกตึง และเจ็บเล็กน้อย) แล้วเริ่มนวดที่บริเวณนั้น ช้าๆ แล้วพูดออกมาดังๆ ว่า “ฉันรู้สึกหนักใจและเครียด” ซ้ำกัน 2-3 ครั้ง
4. ต่อมาให้เริ่มเพิ่มคำว่า ‘เพราะ…’ ต่อท้ายประโยคแรก เช่น “ฉันรู้สึกหนักใจและเครียด เพราะมีหลายอย่างต้องทำ” หรือ “ฉันรู้สึกหนักใจและเครียด เพราะผู้คนคาดหวังจากฉันมากกว่าที่ฉันจะทำได้” ซึ่งเป็นการระบายความเครียดออกมา ผ่านคำพูดที่ตรงกับรู้สึกของคุณจริงๆ โดยที่มือยังนวดต่อไป หลังจากนั้นให้พูดประโยค “ฉันสังเกตเห็น และตอนนี้ฉันเลือกที่จะยอมรับความรู้สึกของตัวเองแล้ว”
***ประโยคเต็มก็คือ “ฉันรู้สึกหนักใจ และเครียดเพราะผู้คนคาดหวังจากฉันมากกว่าที่ฉันจะทำได้ ฉันสังเกตเห็น และตอนนี้ฉันเลือกที่จะยอมรับความรู้สึกของตัวเองแล้ว”
5. ในขั้นตอนต่อไป ให้ใช้นิ้วกลางและนิ้วชี้ ‘แท็ปๆ’ เป็นจังหวะที่บริเวณกึ่งกลางหน้าผาก ช่วงเหนือกระดูกคิ้วอย่างเบามือ ในขณะเดียวกันก็พูดประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมาดังๆ แล้วเลื่อนการแท็ปลงมาแตะที่ใต้ตา และใต้คาง ขณะเดียวกันก็รับรู้ถึงความรู้สึก และความเครียดที่หลั่งไหลออกมา ให้ทำเช่นนี้ซ้ำๆ จนกว่าจะรู้สึกสบายใจ
6. ต่อมาให้นำมือมาแตะที่หัวใจ สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วสังเกตว่าคุณรู้สึกตึงเครียดหรือไม่ ในขั้นตอนนี้ให้พยายามเชื่อมต่อความรู้สึกเข้ากับร่างกายของคุณ และสังเกตบริเวณที่ตึงและเจ็บปวด
7. จากนั้นให้นำมือข้างหนึ่งวางไว้บริเวณที่ปวด เช่น ต้นคอ หรือหัวเข่า แล้วใช้มืออีกข้างแท็ปๆ โดยพูดว่า “ฉันรู้สึกถึงความเครียดในร่างกาย และพร้อมที่จะปลดปล่อยมันออกไป ตอนนี้ฉันอยากจะรู้สึกเบาขึ้น” แล้วปล่อยมือ สังเกตว่าระดับความเครียดลดลงในระดับใด (ก็หวังว่าจะน้อยลง)
8. มาถึงขั้นตอนสุดท้าย ให้คุณหยุดการแท็ปลงแล้วแทนที่ความรู้สึกในเชิงลบ ด้วยความรู้สึกเชิงบวกแทน จากนั้นเริ่มแตะหน้าผากอีกครั้งในจังหวะที่เร็วขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ให้มีพลัง แล้วพูดว่า “ตอนนี้ฉันรู้สึกควบคุมตัวเองได้มากขึ้น” เลื่อนการแตะไปที่ใต้ตา ใต้คางแตะตามกระดูกไหปลาร้า โดยพูดว่า “ฉันรู้สึกสงบ และเข้าใจตัวเองแล้ว” จากนั้นวางมือบนหน้าอกข้างซ้ายบริเวณหัวใจของคุณจนกว่าคุณจะพร้อมสิ้นสุดกิจกรรม
เราไม่อาจยืนยันได้ว่าวิธีนี้จะได้ผลกับทุกคนหรือไม่ บางคนอาจบอกว่าทำแล้วไม่เห็นได้ผลอะไรเลย นั่นอาจแปลว่าวิธีนี้ไม่ใช่วิธีการที่เหมาะกับคุณ หรือไม่ก็คุณอาจยังสงบนิ่งไม่พอ เพราะแม้ว่าจะมีขั้นตอนการปฏิบัติที่แตกต่างไปในแต่ละวิธีการ แต่เชื่อว่าหัวใจสำคัญของศาสตร์การบำบัด ที่ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิ อาบป่า เดินจงกรม ล้วนแล้วแต่มีจุดประสงค์เพื่อกลับมาสำรวจ และรู้สึกถึงการหมุนเวียนของพลังภายในจิตใจของตัวเองทั้งนั้น ดังนั้น หากจะลองผ่อนคลายอารมณ์ความเครียดด้วยการแท็ปดูสักครั้งก็คงไม่เสียหาย หากไม่เวิร์กก็แค่หาวิธีอื่นที่เหมาะกับตัวเองก็เท่านั้น
ที่มา: https://www.stylist.co.uk/fitness-health/wellbeing/tapping-therapy/527643
ภาพ: Unsplash