อุณหภูมิเฉลี่ยในออสเตรเลียสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส อาจทำให้คนในประเทศกลายเป็นผู้ลี้ภัยเพราะโลกร้อนเกินไป

        สำนักอุตุนิยมวิทยา ประเทศออสเตรเลีย ออกแถลงการณ์ว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (17 ธันวาคม 2562) อุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศสูงสุดในประวัติศาสตร์ เท่ากับ 40.9 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติเดิมที่เคยบันทึกไว้ในปี 2556 คือ 40.3 องศาเซลเซียส

        สาเหตุที่อุณหภูมิเฉลี่ยพุ่งสูงขึ้นเกิดจากคลื่นความร้อนซึ่งเป็นผลกระทบมาจากภาวะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงและอุณหภูมิโลกอุ่นขึ้น รวมถึงไฟป่าประจำฤดูร้อนที่เกิดขึ้นเร็วและรุนแรงกว่าปกติ ทำให้ที่ผ่านมาในประเทศออสเตรเลียประสบปัญหาไฟป่าเรื้อรังในหลายพื้นที่เป็นระยะเวลาหลายเดือน ไฟสร้างความเสียหายให้พื้นที่ป่าและพื้นที่อยู่อาศัยโดยรอบรวมกันไม่ต่ำกว่า 18 ล้านไร่ ควันจากป่ายังทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ เพราะกระแสลมสามารถพัดเถ้าถ่านและฝุ่นออกไปได้ไกลถึง 30 กิโลเมตร ทำให้ทางการต้องประกาศเป็นภาวะฉุกเฉิน

        ส่วนในเขตเมืองที่มีประชาชนอยู่อย่างหนาแน่น เช่น กรุงซิดนีย์และเมืองเพิร์ธ ก็ได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อน ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยในพื้นที่เกิน 40 องศาเซลเซียสติดต่อกันหลายวัน และอาจพุ่งสูงสุดถึง 46 องศาเซลเซียสในปลายสัปดาห์ หากคลื่นความร้อนและไฟป่ายังไม่บรรเทาความรุนแรงลง

        ด้านนักวิทยาศาสตร์แสดงความเป็นกังวลว่าไฟป่าเกิดขึ้นจากสาเหตุหลักๆ สองส่วนคือภาวะโลกร้อนและความแห้งแล้งจากการขาดแคลนน้ำจนทำให้ดินแตกระแหง รวมถึงขาดพื้นที่ป่าที่คอยให้ความชุ่มชื้นกับดิน

        ในอนาคตจึงมีความเป็นไปได้ว่า หากสถาณการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศยังคงวิกฤตต่อเนื่อง ประเทศออสเตรเลียอาจเป็นประเทศแรกที่ต้องอพยพคนออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพราะความร้อนที่มากเกินไปจะทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของคนในพื้นที่ได้

 


ที่มา:

  • www.bbc.com/news/world-australia-50837025
  • www.theguardian.com/australia-news/2019/dec/18/too-hot-for-humans-first-nations-people-fear-becoming-australias-first-climate-refugees
  • www.theguardian.com/australia-news/2019/dec/17/australian-heatwave-records-forecast-to-be-broken-as-temperatures-surge-past-40c