และแล้วฝุ่น PM 2.5 ก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อช่วงเวลา 09.00 น. ของวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา คุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ ค่า AQI อยู่ที่ 175 ส่วนค่าฝุ่น PM 2.5 วัดได้ที่ 102.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ติดอันดับ 2 มลพิษทางอากาศสูงสุดในโลก รองจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 วัดได้ที่ 146.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
วันนี้เข้าวันที่ 4 ที่เราอยู่ท่ามกลางฝุ่น PM 2.5 แม้ว่าช่วงสองสามวันนี้จะมีฝนตกลงมาอย่างหนักก็พอทำให้ค่าฝุ่นทุเลาลงไปได้บ้าง แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์และใช้วิธีการนำเอารถดับเพลิงมาพ่นละอองน้ำแทนรถพ่นละอองน้ำ ที่คาดว่าจะมีการจัดซื้อในเร็วๆ นี้
ล่าสุด กทม. เตรียมทดลองติดตั้งหอฟอกอากาศเพื่อมาแก้ปัญหาค่าฝุ่น PM 2.5 ให้กับชาวกรุง โดยมีบริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เสนอการติดตั้งเครื่องนี้จำนวน 1 เครื่อง บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้า BTS สยาม ทางเข้าศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน
หอฟอกอากาศมีขนาดความสูงประมาณ 4 เมตร กว้าง 1.5 เมตร ตัวเครื่องทําจากสเตนเลส หนักประมาณ 200 กิโลกรัม ทำงานโดยดึงอากาศจากรอบตัวเครื่องไปกรองฝุ่นสองขั้นตอน โดยใช้แผ่นกรองชนิด HEPA Filter และกำลังไฟฟ้า 3.5 kW ก่อนปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาจากทางด้านบน คาดว่าจะสามารถสร้างอากาศบริสุทธิ์ได้ไม่น้อยกว่า 17,000 ลบ.ม./ชม. ครอบคลุมพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1,000 ตร.ม.
ส่วนราคาหอฟอกอากาศนี้จะอยู่ที่ประมาณ 5.3 ล้านบาทต่อเครื่อง โดยทางท่านผู้ว่าฯ อัศวิน ขวัญเมือง ก็ยังคงย้ำผ่านทางเพจเฟซบุ๊กว่าเป็นเพียงการทดลองติดตั้ง ยังไม่มีการจัดซื้อ ทั้งหมดก็เพื่อทดสอบประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของอุปกรณ์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นและมลพิษในกรุงเทพฯ
ซึ่งจริงๆ แล้วการแก้ไขปัญหาฝุ่นและมลพิษทุกคนสามารถช่วยกันได้ เพียงแค่บำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้ก่อมลพิษ ใช้ระบบขนส่งมวลชนแทนพาหนะส่วนตัว ไม่เผาขยะในที่โล่ง และช่วยกันเพิ่มพื้นที่สีเขียว เช่น การปลูกต้นไม้เพื่อดูดซับมลพิษ ผู้ว่าอัศวินฯ ได้กล่าวไว้
ที่มา: