การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาหรือ COVID-19 ที่ขยายไปสู่ทวีปยุโรปและตะวันออกกลาง ณ ขณะนี้ คือสัญญาณที่ชี้ให้เห็นถึงการยกระดับของความรุนแรงขึ้นไปอีกขั้น
นับเป็นสถานการณ์ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) และผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาด กังวลว่าการระบาดของไวรัสโคโรนากำลังขยับเข้าใกล้สู่ระดับการระบาดใหญ่ (pandemic) หลังเห็นการแพร่เชื้ออย่างรวดเร็วในหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน
Marc Lipsitch ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด คาดการณ์ว่าภายในปีหน้า คนทั่วโลกประมาณ 40-70 เปอร์เซ็นต์อาจติดเชื้อไวรัส COVID-19 แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะมีอาการป่วยรุนแรง บางคนอาจติดเชื้อแต่ไม่ได้แสดงอาการใดๆ เช่นเดียวกับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ 14 เปอร์เซ็นของผู้ป่วยไม่แสดงอาการ
โดยไวรัส COVID-19 มีความคล้ายคลึงกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ตรงที่ทั้งคู่ต่างมีสารพันธุกรรมเป็นอาร์เอ็นเอ (RNA) สายเดี่ยว และลักษณะอาการของผู้ติดเชื้อ COVID-19 ก็มีความเหมือนกับอาการไข้หวัดใหญ่ คือมีไข้สูง ไอ เจ็บคอ น้ำมูลไหล บางรายหายใจเหนื่อยหอบ ทั้งยังแพร่เชื้อผ่านการไอ จาม มีฝอยละอองของน้ำมูกหรือเสมหะที่มีไวรัสอยู่
รวมถึงการที่ไวรัสปนเปื้อนมือหรือสิ่งของต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เมื่อคนอื่นมาสัมผัสก็มีโอกาสติดเชื้อไวรัสได้ ซึ่งเชื่อกันว่าลักษณะดังกล่าวเป็นวิวัฒนาการของไวรัสเพื่อเพิ่มการแพร่กระจายเชื้อในร่างกายมนุษย์ ด้วยการทำให้ป่วย แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต
อย่างไรก็ตามทั้งไวรัส COVID-19 และไวรัสไข้หวัดใหญ่มักเป็นอันตรายถึงชีวิตต่อผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง รวมถึงผู้สูงอายุที่ไม่ได้เข้ารับการรักษาพยาบาล
นอกจากนี้ Marc Lipsitch เชื่อว่าไวรัส COVID-19 จะยังคงขยายการแพร่กระจายออกไปเรื่อยๆ โดยในหมู่นักระบาดวิทยามีความเห็นตรงกันว่าเป็นไปได้อย่างมากที่การระบาดของไวรัส COVID-19 จะกลายเป็นโรคใหม่ที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล เพราะมนุษย์ยังไม่รู้วิธีสร้างภูมิต้านทานเพื่อป้องกันไวรัสชนิดนี้ในระยะยาว
“หากเชื้อไวรัสยังคงระบาดอย่างหนักเทียบเท่าตอนนี้ ‘ฤดูหนาวและไข้หวัดใหญ่’ อาจกลายเป็น ‘ฤดูหนาวและไข้หวัดใหญ่และ COVID-19’ ” Lipsitch กล่าว
ในส่วนประเทศไทย หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 หยุดนิ่งมาได้สักระยะหนึ่ง จนสังคมเริ่มตั้งคำถามเรื่องการปกปิดข้อมูล
ช่วงเช้าของวันนี้ (26 ก.พ.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาแถลงสถานการณ์ว่าพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 3 ราย ซึ่งเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ยืนยันว่าไทยยังคงเป็นการแพร่ระบาดในระดับที่ 2 เท่านั้น และยังไม่พบคนที่มีความสามารถในการแพร่โรคติดต่อไปยังผู้อื่นเป็นจำนวนมาก
หลังจากนั้นในช่วงบ่าย มหาวิทยาลัยมหิดลก็ออกมาแถลงการณ์ว่ามีบุคลากรที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าอาจสัมผัสเชื้อไวรัส COVID-19 จากการเดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงที่มีการระบาดต่อเนื่อง และมีอาการไข้ภายใน 14 วัน ปัจจุบันไทยมีผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้ว 40 คน รักษาหายแล้ว 24 ราย
ที่มา:
- www.theatlantic.com/health/archive/2020/02/covid-vaccine/607000/
- www.hfocus.org/content/2020/02/18552
- www.bbc.com/thai/thailand-51616758
- www.prachachat.net/general/news-425282
- www.bangkokbiznews.com/news/detail/867989
- http://dmsic.moph.go.th/index/detail/8018