Hot issues of the week: 20 JAN 2020

แต่ละสัปดาห์ มีเรื่องที่เราต้องจับตากันอยู่ตลอด adB รวบรวมหลากเรื่องร้อนไม่ควรพลาดมาให้คุณติดตาม ทั้งเรื่องเล็กใหญ่ ภัยธรรมชาติ การเมือง เรื่องซีเรียส ไปจนถึงไลฟ์สไตล์ และเรื่องรื่นรมย์

01 Davos 2020

        การประชุมที่เมืองดาวอส (World Economic Forum in Davos) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คืองานที่รวบรวมผู้คนที่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกสูงสุดเข้าไว้ด้วยกัน โดยในปีนี้มีเรื่องหนึ่งที่ต้องจับตามอง (และคนไทยอาจจะชอบมองข้าม) ก็คือเรื่องของ ‘ความเหลื่อมล้ำ’

        ระบบเศรษฐกิจโลกที่มีลักษณะไม่สมดุล (หรือเรียกว่า Biased Economic Systems) เอื้อประโยชน์ให้กับคนรวยมากกว่าคนจน ทำให้ผู้คนจำนวนมากถูกกีดกันออกไป โดยประเด็นหนึ่งที่มีการนำเสนอในงาน Davos 2020 ก็คือรายงานของ Oxfam ที่ปล่อยออกมาในแต่ละปี ปีนี้พบว่า มหาเศรษฐีของโลก 2,153 คน มีความมั่งคั่งรวมกันแล้วมากกว่าคนที่เหลืออีก 4.6 พันล้านคน หรือประชากรที่รวยที่สุด 1% ของโลก มีความมั่งคั่งมากกว่าคนที่เหลือ (คือ 99%) มากกว่าสองเท่า และผู้ชายที่รวยที่สุดในโลก 22 คน มีความมั่งคั่งรวมกันแล้วมากกว่าผู้หญิงทุกคนในแอฟริการวมกัน

        นี่คือประเด็นหนึ่งที่ถกกันใน World Economic Forum และแสดงให้เห็นว่า ระบบเศรษฐกิจแบบที่เป็นอยู่มันมีปัญหาขนาดไหน

  • ที่มา: https://edition.cnn.com/2020/01/19/business/oxfam-billionaires/index.html

 

02 กำแพงของทรัมป์

        อย่าคิดว่าทรัมป์เลิกสร้างกำแพงไปแล้ว เพราะที่จริงกำแพงที่ว่าดำเนินการมาตลอด เป็นกำแพงยาวถึง 576 ไมล์ โดยเพิ่งมีรายงานออกมาว่า กำแพงนี้ราคา ‘แพง’ ที่สุดในโลกก็ว่าได้ โดย U.S. Customs and Border Protection รายงานว่างบประมาณในการสร้างกำแพงอยู่ที่ 11 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

        ที่จริงกำแพงนี้มีอยู่แล้ว แต่ทรัมป์มาสร้างเพิ่มและปรับปรุงให้เกิดระบบกำแพงที่ดีขึ้น ข้ามยากขึ้น โดยที่แต่ละไมล์ของกำแพงทรัมป์นั้น มีมูลค่า 19.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ถ้าเป็นกำแพงในยุคของบุช จะอยู่ที่ไมล์ละแค่ 3.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น นั่นคือเป็นกำแพงที่แพงกว่าเดิม 5 เท่า ก็ต้องติดตามกันต่อไป ว่าจะสำเร็จเสร็จสิ้นเมื่อไหร่

  • ที่มา: www.npr.org/2020/01/19/797319968/-11-billion-and-counting-trumps-border-wall-would-be-the-world-s-most-costly
  • ภาพ: Evan Vucci / AP Photo

 

03 ออสเตรเลียมีไฟป่า แคนาดามีพายุหิมะ

        กองทัพแคนาดาต้องส่งกองกำลังไปช่วยขุดหิมะที่กลบฝังเมืองในแถบนิวฟันด์แลนด์และหมู่เกาะลาบราดอร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น ในเมืองเซนต์จอห์นส์ ซึ่งพายุหิมะถล่มถมทับรถยนต์หลายพันคัน ถือเป็นพายุหิมะครั้งใหญ่ที่ทำให้เกิดหิมะหนา 30 นิ้วทั่วเมือง รวมถึงเกิดลมพายุพัดแรง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ภัยธรรมชาตินั้นรุนแรงขึ้นมากจริงๆ ไม่ว่าจะหนาวหรือร้อน

  • ที่มา: www.npr.org/2020/01/19/797778020/canada-sends-armed-forces-to-help-newfoundlanders-dig-out-after-blizzard
  • www.huffingtonpost.ca/entry/newfoundland-snow-storm-best-tweets_ca_5e2388fec5b674e44b993034

 

04 เมกะเทรนด์ที่ต้องจับตามอง

        เทรนด์ก็คือแนวโน้มที่จะเกิดสิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่ถ้าเป็นระดับ ‘เมกะเทรนด์’ (Megatrend) ก็คือเทรนด์ใหญ่ยักษ์ที่จะส่งผลต่อผู้คนมากมาย เป็นคลื่นใหญ่ที่จะดำเนินไปเป็นเวลานับสิบๆ ปี

        และสองเมกะเทรนด์ที่ต้องจับตามองตอนนี้ อย่างแรกก็คือเมกะเทรนด์ที่เรียกว่า Telemedicine ซึ่งเกิดขึ้นจากระบบประกันสุขภาพที่ล้มเหลวในหลายประเทศ ประกอบกับเทคโนโลยีในการสื่อสารดีข้น ทำให้ตลาด Telehealth หรือ ‘สุขภาพทางไกล’ กำลังพุ่งทะยาน

        มีรายงานจาก Fortune Business Insights บอกว่า ตลาด Telehealth จะโตถึงปีละ 23.4% ไปจนถึงปี 2026 ซึ่งมหาศาลมาก

        อีกเมกะเทรนด์หนึ่งก็คือ Hybrid Cloud ซึ่งก็คือการนำเอาระบบคลาวด์ต่างๆ มาผนวกรวมกัน ก่อเกิดเป็นทั้ง Hybrid และบริการแบบ Multicloud ลองนึกภาพดูว่า ทุกวันนี้เราเก็บข้อมูลเอาไว้ในคลาวด์หนึ่งๆ มันจะเชื่อมโยงโยนไปมาในคลาวด์อื่นๆ ไม่ได้ แต่ในอนาคต จะเกิด third party ที่ทำให้เชื่อมโยงข้อมูลเหล่านี้ได้ โดยคาดหมายว่า ธุรกิจนี้จะเติบโต 22.7% ตั้งแต่ปี 2018-2023

  • ที่มา: www.fool.com/investing/2020/01/19/2-megatrends-to-profit-from-over-the-next-decade.aspx

 

05 จับตามอง SpaceX กับ อีลอน มัสก์

        โครงการส่งคนไปอวกาศ SpaceX นั้นน่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง เพราะคาดว่า ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนปีนี้ ปฏิบัติการของ SpaceX ที่จะส่งมนุษย์ขึ้นไปบนอวกาศ มุ่งหน้าไปสู่สถานีอวกาศน่าจะเกิดขึ้นได้ โดย SpaceX เชื่อมั่นว่า อุปกรณ์ต่างๆ น่าจะพร้อมในควอเตอร์แรกนี้ ดังนั้น การเดินทางจริงจึงน่าจะเกิดขึ้นได้ในช่วงเดือนเมษายนเป็นต้นไป และนี่คือก้าวแรกของการส่งมนุษย์สู่ดาวอังคารนั่นเอง

  • ที่มา: www.engadget.com/2020/01/19/spacex-crew-dragon-astronaut-launch-second-quarter

 

06 The Blob : มหาภัยในแปซิฟิก

        The Blob คือมวลน้ำอุ่นขนาดมหึมาที่ค้นพบกันมาในช่วงปีสองปีมานี้ มันคือตัวการที่ทำให้นกหลากชนิด ตั้งแต่นกพัฟฟิน นก Murre และนกทะเลจำนวนเป็นล้านตัว ตายและถูกคลื่นซัดเข้าชายฝั่งอะแลสกานับเป็นล้านๆ ตัวทุกปี และมีรายงานกันมาเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา

        ปีนี้ก็น่าจับตาดูอีกเหมือนกัน ว่าปรากฏการณ์คลื่นอุ่นสังหารล้านชีวิตนี้จะเกิดขึ้นอีกไหม โดย The Blob มีขนาดกว้างใหญ่มาก ในตอนแรก มันมีขนาดแค่ราว 800 กิโลเมตร และกินพื้นที่ลึกลงไปใต้มหาสมุทรราว 91 เมตร แต่ตอนหลังก็ขยายตัว จนแต่ละหย่อมของ The Blob กว้างยาวได้ถึงกว่า 1,600 กิโลเมตร แต่ความลึกยังคงเดิม มัน ‘โอบ’ ชายฝั่งของทวีปอเมริกาเหนือ ตั้งแต่เม็กซิโกตอนเหนือไปจนถึงอะแลสกา ซึ่งมีความยาว 3,200 กิโลเมตร แต่เกิดเป็นหย่อมๆ เป็นก้อนๆ รวมแล้วสามก้อนด้วยกัน

        นี่คืออีกปรากฏการณ์หนึ่งที่บอกเราว่า – โลกไม่ปกติอีกต่อไปแล้ว

  • ที่มา: https://komonews.com/news/local/the-blob-blamed-for-largest-pacific-nw-seabird-die-off-in-history