love actually

เราผูกพันกันตั้งแต่ต้น

รถเคลื่อนออกจากประตูบ้านฉัน ภรรยาของเพื่อนนั่งเบาะข้าง ลูกชายอยู่เบาะหลัง        

         “ขอบคุณนะเจ๊” เขาพูดก่อนขึ้นรถ

         เขาทำให้ฉันคิดถึงประโยคเดียวกันในเก้าปีก่อนหน้า… ฉันเห็น เรา จากดวงตาของเขา

         ฉันน่าจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ถ้าไม่มีรอยยิ้มนั้น รอยยิ้มซึ่งสว่างจ้า มันส่องมาจากใจที่เชื่อมั่นและนับถือตัวเอง

         ไม่เพียงเขา อันที่จริง ฉันควรขอบคุณตัวฉันเองด้วย

         หากวันนั้นเราทำทุกอย่างตามใจ อะไรจะเกิดขึ้นกับมิตรภาพของเรา  กับภรรยา และกับลูกชายของเขา

         เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยม เพื่อนสนิทแบบที่… ถ้าอีกคนย้ายโรงเรียน อีกคนจะต้องร้องไห้ ตั้งแต่แรก เขาเรียกฉันว่าเจ๊ ทั้งที่ฉันไม่เคยตั้งตัวเป็นพี่สาว เขาเลือกที่จะเรียกแบบนั้น โดยอ้างว่า เราหน้าตาคล้ายกัน

         ตอนเรียนมัธยมฉันคิด—เพราะเราคล้ายกัน ทั้งหน้าตาและนิสัย มิตรภาพของเราจึงพิเศษ

         เราเป็นพี่น้องร่วมสาบาน… เหมือนในหนังจีนน่ะ

         ฉันได้รู้ว่าทั้งหมดเป็นข้ออ้าง เมื่อเราเติบโตเต็มหนุ่มสาว หลังจากที่เราแยกออกจากกัน ไปใช้ชีวิตที่แตกต่าง

         ทุกครั้งที่เราเจอกัน—งานแต่งเพื่อน งานเลี้ยงรุ่น งานปีใหม่ งานศพ เรามองหากันและกันเสมอ เรานั่งใกล้กันเมื่อมีโอกาส เรากินเหล้าจากแก้วเดียวกัน สูบบุหรี่มวนเดียวกัน

         เขายังเรียกฉันว่าเจ๊ด้วยน้ำเสียงพิเศษ ซึ่งฉันเข้าใจความหมายของมันในที่สุด

         แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เวลาของเราได้ผ่านไปแล้ว

         ฉันไม่เคยโสด ฉันมีแฟนแล้วเลิก และมีคนใหม่ ทุกครั้งที่เราเจอกัน ฉันมีคนรัก

         เขาแต่งงานเร็ว อย่างเงียบๆ และชิงมีลูกก่อนใคร ทุกครั้งที่มาเลี้ยงรุ่น หมายถึงเขาต้องเดินทางมาจากจังหวัดอื่น เขามักพาภรรยามาด้วย เปิดห้องใกล้ที่จัดเลี้ยง ให้เธอรอเขาในห้อง เพื่อเธอจะสบายใจว่าเขาไม่ได้เมาแล้วขับ

         หลายนิสัยของเขาไม่เปลี่ยน ยังสูบบุหรี่จัด และหากดื่มกับเพื่อนเขาต้องกลับคนสุดท้าย ดื่มอย่างทิ้งตัว พร้อมเรื้อน พร้อมที่จะเสียฟอร์ม

         ฉันจำไม่ได้ว่าเราเริ่มนัดเลี้ยงห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่า หากไม่ติดอะไร ฉันก็ไป

         หลายปีแล้วที่ฉันไม่ไปร่วมงาน ฉันปฏิเสธจนไม่มีเพื่อนคนไหนเอ่ยปากชวน พวกเขาอาจลืมฉันไปแล้ว หรือไม่พวกเขารู้—ต่อให้ชวน ฉันก็ไม่ไปอยู่ดี

         ฉันมีเหตุผลที่จะไม่ไป ฉันไม่อยากเจอเขาอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสถานการณ์เดิมๆ

         ในงานเลี้ยงครั้งสุดท้ายที่ฉันไป เขาส่งบุหรี่ให้

         ฉันรับมาสูบ ก้นกรองเปียก… มันเปียกเสมอ เมื่อรับบุหรี่ต่อจากเขา แต่ฉันก็สูบ แล้วส่งบุหรี่คืนเขา

         “เราน่าจะเป็นแฟนกันนะเจ๊” เขาพูด

         ฉันหัวเราะ มันหลุดจากปากเขาได้ เพราะฉันเพิ่งเลิกกับแฟนเหรอ

         “นั่นสิ แต่มันช้าไป ช้าไปมาก มาก” ฉันเน้นเสียงคำว่ามาก

         “ทำไมเราไม่เป็นแฟนกันตั้งแต่ตอนเรียน” เขาพูดอีก

         ก็เพราะเราไม่ได้เป็นน่ะสิ  ฉันคิด แล้วเราก็จูบกัน ในสวนริมน้ำนั่น จูบที่ใช้เวลาเดินทางสิบกว่าปีจึงพบเจ้าของ

         จูบเดียว ซึ่งทำให้เราไม่เหมือนเดิม

         คืนนั้นหลายคนดื่มหนัก ปีศาจสุราทั้งหมดจึงพร้อมใจกันโทรศัพท์หาแฟน ภรรยา และสามี เพื่อแจ้งว่า เราจะเปิดห้องนอนในโรงแรมนี้

         ฉันไม่มีใครให้โทร.รายงาน แต่ฉันก็เปิดห้อง เพราะดื่มไปมาก ห้องพักของฉันอยู่ชั้นเดียวกับเขา ออกจากลิฟต์ ฉันต้องเลี้ยวซ้าย ส่วนเขาเลี้ยวขวา

         แต่เขาเดินมาส่งฉัน เข้ามาในห้องกับฉัน

         ก่อนที่อะไรจะเกินเลย ฉันหลับตา ถามตัวเองว่า หากปล่อยให้มันเกิดขึ้น ฉันจะรู้สึกอย่างไร ฉันจะมองหน้าเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอย่างไร

         ฉันจับมือของเขาไว้ รูดซิปกางเกงขึ้น สวมเสื้อ บอกเขา “เราเป็นเพื่อนกัน และเมียเธอรออยู่ในห้อง”

         เขาจ้องตาฉัน “ใช่”

         “ออกไปแล้วเลี้ยวขวา จำเบอร์ห้องได้ใช่ไหม” ฉันจัดเสื้อผ้า และเสยผมให้เขา “อยากล้างหน้าหน่อยไหม”

         เขาส่ายหน้า บีบมือฉันแน่น “ขอบคุณมากนะเจ๊”

         ฉันระบายลมหายใจพรู เมื่อเขาเดินออกจากไป อยากให้เขาอยู่ที่นี่ แต่ฉันก็ผลักเขาออกไปแล้ว กัดฟันแน่น และตัดใจเสีย

         อย่างซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ต้องบอกว่านาทีนั้นฉันเสียดาย ฉันเชื่อว่านี่เป็นโอกาสเดียวของเรา

         ครั้นลืมตามาเห็นแสงเช้า ฉันก็ดีใจที่ได้นอนเตียงนี้คนเดียว

         ใกล้เที่ยง เขาโทร.มาบอก เขากำลังจะขับรถกลับบ้าน “ขอบคุณมากนะเจ๊” เขาพูด ตามด้วยเสียงหัวเราะ (อย่างรู้สึกผิด แต่ก็โล่งใจ)

         มันดีกว่าใช่ไหม ที่ได้ตื่นมาเห็นหน้าภรรยา และสามารถสบตาเธอตรงๆ ชีวิตเขาต้องไม่มีปัญหาเพราะฉัน แน่นอน เขายังไม่เสียเพื่อนและเจ๊ไป

         เราไม่ได้อย่างที่เราต้องการ—ช่างหัวมัน

         “เออ ไม่เป็นไร ขับรถดีๆ ก็แล้วกัน” ฉันบอกเขาก่อนวางหู

         ฉันตัดสินใจพลาดบ่อยครั้ง ตั้งใจเดินเข้ากองไฟก็มาก แต่กับเพื่อนคนนี้ฉันจะไม่เสี่ยง ฉันไม่อาจหลอกตัวเองว่ามันจะจบในคืนเดียว

         เราผูกพันกันตั้งแต่ต้น และเราควรรักษามันไว้