ภาพความฝันสูงสุดของคู่รักทุกคู่ น่าจะเป็นคำว่า ‘ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร’ อยากจะได้อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า จินตนาการเห็นภาพเป็นคนแก่สองคนเดินจูงมือกันเดินบนสนามหญ้า และ happy ending ส่วนมากก็ตัดจบที่ตรงนั้น…
แต่เบื้องหลังฉากในฝันของคู่ตายายเดินจับมือกันแสนอบอุ่นนี้ หากดำเนินเรื่องต่อเนื่องไปในความจริงแล้ว ไม่ว่ายังไงก็จะต้องมีใครคนหนึ่งจากไปก่อนอย่างแน่นอน และจะมีอีกคนที่ยังต้องอยู่เผชิญโลกคนเดียวต่อไปอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้อย่างโดดเดี่ยว ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความคิดถึงอยู่ทุกวันที่ตื่นลืมตา และเฝ้ารอวันที่จะได้เจอกันอีกครั้ง
เวลาที่รักใครสักคนด้วยหัวใจทั้งหมดที่มี ความกลัวแบบนี้มักจะแอบซ่อนอยู่ลึกที่สุด บีบหัวใจที่สุด น่าสะพรึงที่สุด แม้ไม่ค่อยมีใครอยากนึกถึงแต่ก็ต้องมีแวบคิดขึ้นบ้างจนได้ การจากลากันในความตายเป็นความจริงที่เจ็บปวด ที่แม้จะรักกันแค่ไหน สุดท้ายวันหนึ่ง คนใดคนหนึ่งก็ต้องจากโลกนี้ไปก่อน อาจเป็นเขาที่ทิ้งเราไว้ หรืออาจจะเป็นเราเสียเองที่ต้องหยุดลมหายใจไปก่อนแล้วทิ้งอีกคนหนึ่งไว้
เราเคยอ่านผลวิจัยเจอมาว่า ความกลัวนี้มาคู่กันกับความรักอยู่แล้วเป็นปกติ ยิ่งเมื่อเราเจอรักแท้ รักที่ดี รักที่ใช่ แบบ the love of my life หรือ soulmate รวมถึงความรักแบบพ่อแม่รักลูก หรือลูกรักพ่อแม่ การที่จะต้องเห็นภาพร่างไร้ลมหายใจของคนที่เรารักนั้นเป็นความกลัวขั้นสูงสุดของมนุษย์ทุกคน ดังนั้น โดยปกติแล้วเราทุกคนก็เลยเลือกที่จะ ignore ความจริงนั้น ใช้ชีวิตเบลอๆ ไป มองข้ามมันไปด้วยความยุ่งเหยิงของโลกในแต่ละวัน กำหนดความคิดหลอกตัวเองให้กลบๆ ลืมๆ ความจริงที่เป็นสิ่งแน่นอนพื้นฐานสิ่งเดียวบนโลกนี้ไปว่าวันหนึ่งเราทุกคนก็ต้องตาย ตัวเองก็ต้องไป คนที่เรารักทุกคนก็ต้องไป ใครก่อนใครหลังเท่านั้นเอง
ในความกลัวว่าวันหนึ่งจะต้องจากกันนี้ ทำให้เกิดความรู้สึกที่ทำให้ขนลุกน้ำตารื้นขึ้นมาได้ทุกครั้งที่คิดภาพนั้น ที่จริงเราใช้ประโยชน์จากมันได้ ความรักทำให้เราอ่อนแอและเปราะบางก็จริง แต่ในความรู้ตัวว่าเราอ่อนแอ หวาดกลัว และเปราะบางเหลือเกิน ก็สามารถทำให้เราเข้มแข็ง กล้าหาญ และมีสติตื่นขึ้นมาได้เหมือนกัน พอคิดขึ้นมาแต่ละทีก็ให้มันเตือนเราว่าเราต้องดีใจกับทุกวินาทีที่ยังมีกันและกันนะ ขอบคุณที่เรายังหายใจ ขอบคุณที่โทร.หาเขาแล้วยังได้ยินเสียงตอบกลับมา ขอบคุณที่กอดแน่นๆ แล้วเขายังตัวอุ่นตัวนิ่มเหมือนเดิม เสียงบ่น การงอน คือของขวัญ ทุกข้อความคือความพิเศษ ความกลัวนี้ช่วยทำให้เราไม่เผลอตัวทำร้ายกันโดยไม่ตั้งใจ และไม่ลืมที่จะบอกรักกันทุกครั้งที่มีโอกาส กอดกันให้นานขึ้นกว่าเดิมด้วยความรู้สึกว่าเรานี่ยังโชคดีจริงๆ
บทความในครั้งนี้อาจจะหนักหน่วงใจไปบ้าง เราไม่ได้อยากให้มันไปสร้างความกลัวตื่นตกใจกับใคร แล้วกลายเป็นใช้ชีวิตอยู่บนความกลัว เราเขียนขึ้นจากประสบการณ์ตรงในชีวิตที่เคยเกิดขึ้นกับครอบครัวเราอยู่หลายครั้ง มันให้บทเรียนไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า จนตอนนี้มันทำให้เราไม่ได้อยู่กับความกลัวแบบเดิมอีกต่อไป ความกลัวนั้นกลับช่วยสร้างสติที่ทำให้เราระมัดระวังกับทุกสิ่งที่ทำมากขึ้น และพยายามทำทุกวันอย่างดีที่สุดเพื่อคนที่เรารักและรักเรา
เราหวังว่า จากความกลัว จะเปลี่ยนเป็นสติและความกล้าได้ในที่สุด ให้เรากล้าที่จะใช้ชีวิตอยู่กับคนรักและครอบครัวอย่างรู้ตัวเองเสมอ ดูแลใส่ใจ ให้คุณค่ากับคนรักที่ยังอยู่ข้างๆ กันตรงนี้วันนี้ให้ดี ให้คุ้มกับที่ยังได้หายใจอยู่ข้างๆ กัน และหากวันนั้นมาถึงจริงๆ ซึ่งมันมาแน่ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่ปีใดก็ปีหนึ่ง เราก็แน่ใจได้เลยว่าเราทำดีที่สุดแล้วจริงๆ ไม่มีนาทีที่เสียเปล่า ไม่มีอะไรค้างคา ไม่นึกเสียดายสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ ไม่มีคำบอกรักที่ไม่ได้บอก ไม่ลังเลที่จะเป็นคนลดทิฐิลงก่อน ไม่มีคำขอโทษที่ไม่ได้พูดไป ให้คุ้มค่าที่สุดกับทุกวันที่เราได้มีกันอยู่ เมื่อมันถึงเวลาก็ขอบคุณฟ้าที่ให้เวลามาครบตามกำหนด และให้เราได้ใช้มันอย่างที่สุดแล้วจริงๆ… ขอบคุณฟ้าที่ให้เราได้เกิดมารักกัน