รัก แต่ไม่อุ้ม

รัก, แต่ไม่อุ้ม: ความรักในวิถีของฉันที่ใครหลายคนอาจเรียกว่าเฉยชา

น้องสาวคนหนึ่งเข้าโรงพยาบาลไปตรวจร่างกายด้วยอาการภูมิแพ้ ตรวจไปจนทั่ว หมอจึงพบว่าที่เธอเจ็บหน้าอกอยู่ เพราะมีก้อนเนื้อเล็กๆ ในเต้านมกดทับเส้นประสาท และเมื่อเช็กดูอย่างละเอียด ก็พบว่ามันมีหลายก้อน

        ระหว่างนั้นเธอมักโทร.คุยกับฉัน ฉันเข้าใจความกลัวของเธอ เพราะฉันก็เคยเจออะไรที่คล้ายกัน เพียงแต่มันอยู่คนละแห่ง คนละจุด ฉันบอกเธอว่า รอให้หมอสรุปว่าเป็นอะไร จากนั้นก็ให้หาวิธีรักษาที่เหมาะสม

        หลังจากนั้นไม่กี่วัน เธอเข้าไปเจาะและได้ผลชิ้นเนื้อออกมาอย่างที่เธอกลัว

        เธอยังไม่ได้บอกฉัน แต่ฉันรู้ได้จากสเตตัสที่แสดงอารมณ์ของเธอ จากคอมเมนต์ให้กำลังใจและห่วงใยอย่างมากมาย

        แต่ฉันไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น

        ฉันเป็นห่วงเธอ แต่ฉันเชื่อว่าด้วยสายสัมพันธ์ของเธอ จะทำให้เธอได้รับการรักษาที่ดีที่สุด ด้วยหลายเหตุผล ฉันเชื่อว่าเธอจะหาย

        ฉันรู้ว่าเธอกำลังเปราะบาง เธอบอกข่าวร้ายกับฉันทาง inbox แต่ฉันก็เลือกที่จะเขียนข้อความถึงเธอทาง inbox อย่างกระชับ

        เมื่อเทียบกับความเป็นห่วงในคอมเมนต์ การส่งข้าวส่งน้ำ การไลน์ไปถามทุกเช้าค่ำว่ากินอะไรหรือยัง กินข้าวลงไหม อาจเรียกได้ว่าฉันเงียบมาก

        นั่นคือความรักในวิถีของฉัน

        หากวัดจากมาตรฐานที่คนส่วนใหญ่ปฏิบัติอาจเรียกได้ว่าเฉยชา

        กระทั่งน้องสาวอีกคน inbox มาถามว่า พี่รู้เรื่องหรือยัง เธอคงเห็นฉันไม่ขยับอะไรเลย

 

        คำถามของฉันก็คือ กำลังใจ ความห่วงใย เท่าไหร่ถึงจะพอ เราต้องโอบกอดคนหนึ่งคนด้วยความห่วงใยท่วมท้นแค่ไหนถึงจะช่วยเขาได้

        เธอได้รับแล้วจากคนอื่น ถ้อยคำจากฉันอีกคนจะช่วยเธอได้จริงหรือ ต่อให้ประดิดประดอย เขียนให้ยาวยืด มันคือคำว่าเป็นห่วงและให้กำลังใจอยู่ดี

        ฉันไม่เชื่อในเรื่องเหล่านั้นนัก

        ฉันเชื่อว่าอาวุธที่จะสู้กับทุกอย่างบนโลกคือเงิน สายสัมพันธ์ และความต้องการที่จะชนะ

        เธอมีครบทั้งสามข้อ เพียงแต่ข้อสุดท้ายยังไม่ปรากฏตรงหน้า เพราะ… ถ้ามีคนอุ้มเราอยู่ เราย่อมไม่อยากเดิน ถึงเดินก็เดินไม่เต็มแรง

        ฉันจะไม่อุ้มเธอ

        เท้าของเธอต้องได้เหยียบบนโลกแห่งความจริง ไม่ว่าเธอจะกลัวมันแค่ไหน เพราะในที่สุด เธอเท่านั้นที่ก้าวเข้าไปสู่กระบวนการรักษา

        ฉันเคยผ่านการผ่าตัด เคยผ่านความกลัว ฉันพบว่า ระหว่างเรากับโรคก็นับเป็นความสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง ต่อให้รักษาหายแล้ว ความสัมพันธ์ก็ไม่ได้จบลง

        การช่วยเหลือเป็นสิ่งที่ดี แต่การช่วยเหลือใดๆ ก็ไม่ช่วยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรากับโรคที่เราเผชิญ

        ทุกความสัมพันธ์เป็นเรื่องเฉพาะ โรคก็มีความลับของโรค ขณะเดียวกันร่างกายและจิตใจมนุษย์ก็เป็นอีกความลับ สองความลับบวกกันเกิดความสัมพันธ์หนึ่งเดียวในโลก ซึ่งเธอควรรีบทำความรู้จัก

        ฉันจึงถอยห่างสักหน่อย เพื่อให้เธอมองเห็น  ยิ่งเห็นเร็ว ค้นพบเร็ว เธอก็จะตั้งรับได้เร็ว

        คล้ายๆ ว่าฉันทิ้งเธอไว้ตรงนั้น ให้เธอได้รู้จักกับความสัมพันธ์ใหม่ที่เธอไม่มีสิทธิ์เลือก และเพราะเธอไม่อาจเลือก เธอจึงไม่เหลือทางอื่นนอกจากลุยไปข้างหน้า

        ฉันไม่กลัวว่าเธอจะน้อยใจ และพร้อมน้อมรับหากมีคนคิดว่าฉันใจดำ

        ได้ทั้งนั้นล่ะ

        ขอเพียงเธอเข้มแข็งขึ้น