Love Actually

ความสัมพันธ์เอียงๆ

“เราไม่ได้เป็นแฟนกันพี่ แต่อยู่ด้วยกันมาเจ็ดปี”

        “เชื่อพี่เหอะ เขาเป็นคนที่ควบคุมไม่ได้ คาดหวังอะไรไม่ได้”

        ฉันนอนฟังพวกเธอคุยหนึ่งชั่วโมง ไม่ได้ตั้งใจเสียมารยาท แต่ห้องนอนของฉันอยู่ใกล้วงกินดื่มนั้น

        ก่อนหน้านี้ฉันนั่งอยู่กับพวกเธอ ฉันหนีเข้าห้องมานอนเพราะหนาว และฉันดื่มช้าไปหน่อย อ้อแอ้ไม่ทันพวกเธอ

        กรณีเพื่อนร่วมวงเมาล่วงหน้า เราจะเห็นอะไรชัด ได้ยินชัด  เช่น เพื่อนพูดประโยคเดิม 3 ครั้ง หรือ ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ยังคุยประเด็นเดิม ไม่ได้กว้าง และลึกไปกว่าเดิม

        ฉันควรพักผ่อน ฉันเป็นเจ้าบ้าน ต้องทำมื้อเช้า ต้องตื่นก่อนพวกเธอ ฉันต้องนอน… ได้นอนเหยียดขาใต้ผ้าห่มก็ยังดี

        ครั้นได้ฟังบทสนทนาของพวกเธอ ฉันเผลอคิด น่าจะนั่งต่อสักหน่อย เผื่อมีคำแนะนำดีๆ ประโยคเด็ดๆ มอบให้เธอ

        คิดไปเอง ประสาคนอยู่มานานกว่า เจอผู้คน (ชาย) มาเยอะกว่า แต่เอาเข้าจริง เมื่อเกี่ยวกับความสัมพันธ์ เราแนะนำได้ก็แต่ตัวเองเท่านั้น

        หลายปีก่อน ฉันประสบปัญหาคล้ายเธอ

        มัน… เหมือนกลืนไม่เต็มคำ จะคายทิ้งก็ตัดใจไม่ลง ได้แต่อมไว้ในปาก รู้รส อร่อย แต่อึดอัด และขัดใจ

        รักเขามาก มากชนิดที่ไม่คิดว่าจะรักอย่างนี้ได้อีก เขาคือคนที่มองหามาทั้งชีวิต ฉันตกหลุมรักเขาอย่างง่ายดาย ไม่สิ ต้องใช้คำว่าทันทีทันใด

        เพื่อนเตือน เฮ้ย นั่นมันความหลงใหล

        ฉันยิ้มหวาน ยักไหล่ค้าง ก็คอยดูกันไป

        เขารักฉันหรือเปล่านะ คงรัก (มั้ง) คบหากัน อยู่ด้วยกัน แต่ไปไหนมาไหนด้วยกันน้อยมาก โดยเฉพาะในสถานที่หรืองานที่เขาคาดว่ามีคนรู้จักเขาเยอะ ที่สำคัญ เขาไม่เคยแนะนำฉันให้รู้จักเพื่อนของเขา ญาติพี่น้องเขา

        เขาไม่เคยเอ่ยว่าเขาเป็นคนรักของฉัน

        เราก็คล้ายคู่รักอื่น มีเซ็กส์ หัวเราะด้วยกัน ช่วยเหลือกัน และมีบทสนทนาที่ลื่นไหล ตราบเท่าที่ไม่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์

        เขาไม่ชอบพูดถึงสถานภาพของเรา  ทั้งไม่เคยมีอนาคตแห่งเรา

        นอกห้อง นอกบ้าน นอกเตียง เขาคือชายโสดมากเสน่ห์ (คนเดิม)

        ขณะที่ฉัน หายใจเข้าก็เขา หายใจออกเป็นเขา ไม่อยากจะไปไหนถ้าเขาไม่ไปด้วย ฉันออกไปแฮงเอาต์กับเพื่อนบ้าง (อย่างกังวล-เขาจะกลับบ้านเร็วมั้ยนะ)

        ดูเหมือนว่าหนึ่งสิ่งที่มั่นคง คือความรักใคร่ของฉัน (ฝ่ายเดียว)

        เขาอยู่กับปัจจุบันซึ่งลื่นไหลได้ ปัจจุบันที่เขาเป็นผู้กำหนด และฉันยินยอมให้เป็นเช่นนั้นตั้งแต่ต้น

        ไม่ได้พูดออกมา แต่นั่นถือเป็นพันธะสัญญา-เขามีอิสรภาพ

        โดยหลักการ อิสรภาพเป็นของฉันด้วย เพียงแต่ฉันไม่เห็นมัน ไม่เคยใช้ เพราะไม่อยากได้

        ฉันปรารถนาการผูกมัด การยืนยัน ใช่-ต่อให้พรุ่งนี้จะเปลี่ยนไป

        มันเป็นความสัมพันธ์เอียงๆ ที่แสนเย้ายวน เป็นความทรมานอันแสนหวาน และกลายเป็นความทุรนทุราย เมื่อเขามีใครอีกคน หรือหลายคน

        ฉันไม่อาจเสียใจ โวยวาย เรียกร้อง เพราะจะดูเหมือนฉันกำลังบ้า เป็นหญิงคลั่งรักผู้ไม่ยอมเข้าใจอะไรเอาเสียเลย

        จริงอยู่ ที่ไม่อาจวัดความรักได้จากความซื่อสัตย์ เพราะใครบางคนสามารถรักได้หลายรัก

        แต่ฉันมั่นใจ  ความรักวัดได้จากการยินดีที่จะสูญเสีย และตอนนั้นฉันคิด ในเมื่อเขาไม่ยอมสูญเสียสถานภาพชายโสด อีกทั้งไม่มีคำมั่นสัญญาใด เขาก็ไม่คู่ควรกับความรัก

        ฉันสูญเสียชีวิตบางส่วนเพื่ออยู่กับเขา ฉันอดทน และทำอีกหลายอย่าง ซึ่งเขาไม่ได้ขอ

        เขาไม่เคยขออะไรเลย นอกจากความสัมพันธ์ที่ปลอดโปร่ง โล่งสบาย เสมือนหนึ่งไม่มีอยู่

        ฉันทำให้เขาได้ก็เฉพาะในบางวัน และในระยะสั้น

        ฉันโกรธเขายาวนานนัก นานกว่าระยะเวลาในความสัมพันธ์หลายเท่าตัว

        แต่เมื่อมองกลับไป ฉันพบว่าฉันมีส่วนทำให้มันเกิดขึ้น ฉันรู้แต่ว่าฉันอยากได้เขา แต่ฉันไม่เคยถามตัวเองว่าต้องการชีวิตแบบไหน

        ฉันกระโจนลงไปในชีวิตเขา จากนั้นก็กระโดดขึ้นมามือเปล่า-นั่นถูกต้องแล้ว

        ควรมีภาพรวมชีวิตของสองคน ไม่ใช่คนหนึ่งคนใดเป็นผู้กำหนด

สำหรับอิสรภาพ เป็นหน้าที่ของฉันที่ต้องมอบให้ตัวเอง ก่อนที่จะมอบให้เขา

        ทั้งหมดถือเป็นความผิดพลาดของฉัน ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับเธอ ผู้กำลังปรับทุกข์อยู่ข้างห้องนอนฉัน

        แม้เราจะอยู่ในสถานการณ์คล้ายคลึง แต่ฉันไม่มีอะไรแนะนำเธอ

        เมื่อถึงเวลานั้น เธอจะรู้ และมองเห็นทั้งหมดเอง