I Started A Joke

I Started A Joke: โลกคือละครตลกร้าย ฉันตลก คุณร้องไห้ ฉันมีน้ำตา คุณขบขัน ฉันจากไป คุณไม่ยี่หระ

“เมื่อในที่สุดฉันต้องจากไป แต่โลกทั้งใบก็ยังดำเนินต่อได้ แค่เพียงฉันได้รับรู้แล้วว่าเรื่องขบขันเหล่านั้นเป็นเรื่องของฉันเอง” ประโยคแสนเศร้าสร้อยจากเพลง I Started a Joke ที่ถูกขับร้องโดย โรบิน กิบบ์ (Robin Gibb) หนึ่งในสามพี่น้องกิบบ์ สมาชิกของบีจีส์ (Bee Gees) วงดนตรีพ็อพจากอังกฤษ ที่มีเอกลักษณ์และประสบความสำเร็จสูงสุดทั่วโลก ยังคงถูกนำมาเปิดเล่น รวมถึงถูกใช้ในเชิงพาณิชย์จนทุกวันนี้ ถึงแม้จะผ่านมานานกว่า 50 ปี น้ำเสียงที่ฟังดูครวญครางของโรบิน ก็ยังกระทบใจในทุกคราที่ได้ฟัง

         ในโลกอีกใบอย่างวงการภาพยนตร์ หนึ่งในตัวละครซึ่งมีคาแรกเตอร์เป็นที่จดจำมากที่สุดของผู้ชม (โดยเฉพาะหนังซูเปอร์ฮีโร่) คงหนีไม่พ้น Joker ชายผู้ถูกสังคมเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นบุคคลจิตไม่ปกติ ที่มาพร้อมเสียงหัวเราะชวนขวัญผวาบนใบหน้าแบบตัวตลก ใครที่ได้ชมภาพยนตร์แล้วก็คงเห็นว่าเบื้องหลังชีวิตของ Joker โดยเฉพาะเวอร์ชันล่าสุดในปี 2019 ที่ได้รับการกล่าวขวัญเป็นอย่างยิ่งจากการสวมบทบาทของ วาคิน ฟีนิกซ์ (Joaquin Phoenix) ในมุมหนึ่งช่างน่าเห็นใจและคล้ายตลกร้ายที่ทำลายชีวิตคนคนหนึ่งลงอย่างราบคาบ 

        “ฉันเคยคิดว่าชีวิตฉันเป็นเรื่องเศร้า แต่ตอนนี้รู้แล้ว มันเป็นเรื่องตลกต่างหาก” ตัวละครเขาว่าไว้อย่างนั้น

        เพราะชื่อ Joker และเรื่องราวของตัวละครนี่เอง ทำให้คนฟังเพลงมักนึกเทียบไปถึงเพลง I Started a Joke  (แม้แต่ในโลกภาพยนตร์ก็มักเอาเพลงนี้มาอะเรนจ์ใหม่ให้เข้ากับมู้ดของภาพยนตร์ที่กำลังจะเล่า) และราวกับว่าบทเพลงนี้กับภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับ Joker นั้นช่างเกิดมาคู่กันเสียจริง (ถึงแม้ว่าจะมีภาพยนตร์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ Joker แต่ก็นำเพลงนี้ไปประกอบ เช่น The Conjuring 2 หรือฉากในภาพยนตร์เรื่อง The Fighter ก็ตามแต่) 

 

        I Started a Joke แต่งโดยสามพี่น้องกิบบ์ ได้แก่ แบร์รี กิบบ์ (Barry Gibb) โรบิน กิบบ์ (Robin Gibb) และ เมาริซ กิบบ์ (Maurice Gibb) ในปี 1968 และถูกบรรจุในอัลบั้ม Idea และเป็นอัลบั้มที่ยังมีสองสมาชิกอย่าง วินซ์ มาโลนีย์ (Vince Melouney) กับ โคลิน ปีเตอร์เซน (Colin Petersen) อยู่ร่วมงาน โดยเพลงนี้ถือเป็นเพลงสุดท้ายที่ถูกบันทึกเสียงสำหรับอัลบั้ม Idea นี้

        ฟังดูเป็นเรื่องโจ๊ก แต่โรบินเคยบอกไว้ว่าทำนองแสนเศร้าของ I Started a Joke ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเสียงบนเครื่องบิน

        “ผมได้ยินทำนองเพลงนี้บนเครื่องบินบริติชแอร์เวย์สช่วงประมาณ 100 ไมล์จากเมืองเอสเซน (Essen) ที่มาของมันคือเสียงเครื่องยนต์ชิ้นหนึ่งที่ดังขึ้นและฟังเหมือนเสียงพึมพำ ทำให้ผู้โดยสารต่างเริ่มมึนงงคล้ายถูกสะกดจิต หลังจากนั้นครู่เดียว เสียงนั้นฟังดูลึกลับเหมือนเสียงร้องประสานเสียงของนักร้องในโบสถ์ หลังจากนั้น เราเริ่มแต่งเพลงนี้กันในผับเล็กๆ แห่งหนึ่งหลังเครื่องลงจอด จนสำเร็จ” 

        “ความจริงมีเรื่องทำนองนี้เยอะแยะในยุคสมัยนั้น เพลงแนวไซคีเดลิกมีมากมาย รวมถึงความคิดที่ว่าหากคุณเขียนทำนองบางอย่าง แม้มันจะฟังดูขบขันก็ตาม ผู้คนก็จะพยายามใส่ความหมายให้มันเองแหละ” โรบิน กิบบ์ เล่าให้สื่ออย่าง เดลีเมล ฟังในปี 2009

        “นี่เป็นเพลงที่มีความเป็นจิตวิญญาณสูงมาก ผู้ฟังแต่ละคนจะต้องตีความกันเอาเอง” เขากล่าวสรุป

 

 

I started a joke, which started the whole world crying

But I didn’t see that the joke was on me, oh no

I started to cry, which started the whole world laughing

Oh, if I’d only seen that the joke was on me

‘ฉันเริ่มต้นสร้างความตลกขบขัน แต่นั่นกลับทำให้ทั้งโลกต้องร่ำไห้ ฉันไม่ทันสังเกตเลยว่าเรื่องขบขันที่จริงแล้วคือฉันเอง ฉันเริ่มต้นร้องไห้ แต่นั่นกลับทำให้ทั้งโลกหัวเราะ โอ้ หากแค่ฉันได้เข้าใจว่าเรื่องขบขันที่จริงแล้วคือฉันเอง’

        ย่อมไม่ง่ายที่เราจะดำเนินชีวิตอยู่ในโลกที่แสนตลกร้ายเช่นนี้ ในขณะที่เราตั้งใจทำอย่างหนึ่ง คนอื่นกลับเข้าใจหรือรู้สึกไปอีกอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม นี่คือโลกและสังคมที่เรายังคงต้องอาศัยอยู่ต่อไป ฉะนั้น สิ่งที่จะช่วยได้ในสถานการณ์เช่นนี้คือการพยายามไตร่ตรองให้รอบคอบถึงสิ่งที่เรากำลังจะกระทำออกไป เพราะเมื่อใดก็ตามที่มันถูกเผยแพร่สู่สาธารณชน สิ่งนั้นจะกลายเป็นตัวผูกมัดของเราทางใดทางหนึ่งเสมอ ยิ่งในโลกปัจจุบันที่โซเชียลมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก เราก็คงได้เห็นตัวอย่างคนที่ชีวิตต้องพังลงจากเทคโนโลยีที่รวดเร็วเช่นนี้มาแล้วนับไม่ถ้วน

 

I looked at the skies, running my hands over my eyes

And I fell out of bed, hurting my head from things that I’d said

‘ฉันมองไปบนท้องฟ้า ยกมือสองข้างขยี้ลงบนดวงตา และฉันรู้สึกราวพลิกหงายหล่นจากเตียง เจ็บปวดต่อสิ่งที่ฉันได้พูดออกไป’

 

        เมื่อวันที่เราเริ่มแสดงออกไม่ว่าจะเป็นด้วยท่าทางหรือคำพูด หลายครั้งเราไม่เคยตระหนักถึงผลที่จะตามมา เราทำสิ่งเหล่านั้นไปเพียงเพราะความอ่อนด้อยต่อประสบการณ์ชีวิตและอีโก้ บางครั้งด้วยความไม่รู้ แต่เมื่อวันหนึ่งที่เราหลุดออกมาจากสภาวะความฝัน (And I fell out of bed) นั่นเป็นการเปรียบเทียบว่า ในที่สุด เราจะเริ่มตระหนักว่าเป็นเพราะตัวเราเองที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ต่างๆ ขึ้นมา รวมถึงความทุกข์ลำบากจากสิ่งที่เรากระทำได้นำพาไปสู่สถานการณ์อันเลวร้าย

 

‘Til I finally died, which started the whole world living

Oh, if I’d only seen that the joke was on me

‘เมื่อในที่สุดฉันต้องจากไป แต่โลกทั้งใบก็ยังดำเนินต่อได้ แค่เพียงฉันได้รับรู้แล้ว ว่าเรื่องขบขันเหล่านั้นเป็นเรื่องของฉันเอง’

 

        ในวันที่เติบโตขึ้น เราจะเริ่มรับรู้ถึงความผิดพลาดที่เราเคยได้กระทำไป ขณะที่อัตตาคลายลง ความเป็นจริงจะเริ่มส่องประกายขึ้น ความถ่อมตนจะเริ่มปรากฏชัดเจน และอาจทำให้เราสำนึกได้ว่า เราเองอาจไม่ใช่ใครที่สลักสำคัญใดๆ เลยก็ได้ และสิ่งที่เคยกระทำมานั้น แท้จริงแล้วอาจเป็นแค่เรื่องโจ๊กในสายตาคนอื่นๆ เพียงเท่านั้น

        ถึงแม้จะผ่านมา 50 ปี แต่ I Started a Joke ก็ยังคงตีความหมายได้กว้างไกล และยังนำมาเปรียบเทียบกับสังคมโลกในปัจจุบันได้ไม่ขัดเขิน เพราะไม่ว่ายุคสมัยใด คนทุกคนล้วนเคยตั้งใจกระทำบางสิ่งบางอย่างด้วยหวังว่ามันจะเกิดผล และเป็นประโยชน์แก่สังคมหรือตัวเราเอง แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเรื่องตลก สิ่งที่ทำลงไปเป็นเพียงความผิดพลาดในสายตาของผู้อื่นเพียงเท่านั้น (ลองนึกถึงกระแสหลังการขึ้นพูดประเด็นสิ่งแวดล้อมบนเวทีของ เกรตา ธันเบิร์ก ดูก็ได้)

        นอกจากนั้นเพลงยังสะท้อนให้เห็นบางมุมด้วยว่าบางทีสายตาที่มนุษย์คนหนึ่งมีต่อกันนั้นช่างร้ายกาจ เพราะในขณะที่คนคนหนึ่งอาจทำบางสิ่งผิดพลาดไปและเกิดเป็นรอยแผลที่แสนย่ำแย่ต่อความรู้สึก แต่กับสายตาคนอื่น อาจเป็นเรื่องโจ๊กที่แสนไร้ค่าและน่าขบขันไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ

        ที่น่ากลัวคือผลของมันอาจผลักให้มนุษย์คนหนึ่งจนมุม กลายเป็นคนขวางโลก และปะทุความเจ็บปวดกลายเป็น Joker เหมือนในภาพยนตร์ก็ได้

 


Recommended Tracks

01 Track: Tragedy Album: Spirits Having Flown Released: 1979

02 Track: Too Much Heaven Album: Spirits Having Flown Released: 1979

03 Track: Alone Album: Still Waters Released: 1997