คืนก่อนวันคริสต์มาส ปี 2017 ริชาร์ด โคสทิเกน (Richard Kostigen) วัย 57 ปีกำลังประสบมรสุมครั้งใหญ่ในชีวิต อาการติดเหล้าของเขาเข้าขั้นรุนแรงจนเกินเยียวยา จากนายหน้าค้าที่ดินและพื้นที่เช่าหลายแห่งในเมืองบอสตันที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ตอนนี้เหมือนว่าเขาจะสูญเสียไปหมดทุกอย่าง ชีวิตสมรสกำลังระส่ำระสาย อาชีพการงานก็ทำท่าว่าจะล้มเหลว และแม้จะพยายามเลิกเหล้าหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ คืนนี้ความคิดหนึ่งเข้ามาในหัว เขาอยากจบชีวิตของตัวเอง พอซะทีกับชีวิตที่จมดิ่งและไม่รู้ว่าจะแก้ไขยังไง เขาดื่มหนักมากและพยายามจะฆ่าตัวตายที่ท่าจอดเรือบอสตันลองวาร์ฟ (Boston Long Wharf)
คืนนั้นอากาศหนาวเย็นสุดขั้ว พื้นทางเดินปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง ปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายทำให้เขาเดินเป๋ไปมาทรงตัวไม่อยู่ หน้าฟาดลงไปกับพื้น เลือดไหลกบปาก ฟันหักไปอีกหลายซี่ ความเจ็บปวดเหมือนปลุกให้สมองที่มึนงงกลับมามีสติอีกครั้ง เขารวบรวมแรงเพื่อลุกขึ้นไปยังบาร์เหล้าแถวนั้นก่อนจะหยิบมือถือเพื่อโทร.หาน้องสาวให้มาช่วยรับเขากลับบ้าน
นั่นคือจุดที่เขารู้ตัวแล้วว่าต้องการความช่วยเหลืออย่างจริงจัง จนวันหนึ่งเขาได้เจอกับโครงการที่จัดโดย DynamiCare Health สตาร์ทอัพเทคโนโลยีจากเมืองบอสตันที่ทำให้เขาเป็นอิสระจากการติดสุรา แม้มันเป็นหนทางที่ไม่ง่าย ตอนนี้ริชาร์ดเลิกดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด ความสัมพันธ์ของเขากับคนรอบข้างและครอบครัวก็ดีขึ้น และยังทำงานพาร์ตไทม์กับทีมพัฒนาแอพพลิเคชันที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ในวันที่เลวร้ายที่สุดของชีวิต
ภาพ: www.ehavioralhealthnews.org
DynamicCare Health ทำงานอย่างไร?
มีงานวิจัยมากมายที่เป็นหลักฐานยืนยันว่าการมอบรางวัลเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นคูปองหรือบัตรของขวัญให้แก่ผู้ที่มีปัญหาการเสพติดนั้นส่งผลในเชิงบวกให้พวกเขาสามารถหลุดออกมาจากวงจรของยาเสพติดและแอลกอฮอล์ได้จริง วิธีนี้มีชื่อเรียกว่า ‘Contingency Management’ หรือ ‘การบริหารเชิงสถานการณ์’ ที่รูปแบบการรักษาจะกระตุ้นความรู้สึกพึงพอใจให้กับสมองในทันที (Instant Gratification) คล้ายที่ผู้ติดสารเสพติดจะรู้สึกเมื่อได้เสพสารนั้นเข้าไป แต่วิธีการรักษาแบบนี้เป็นเรื่องซับซ้อน ใช้เงินเยอะและวัดผลได้ยาก ส่วนใหญ่พอมีใครแนะนำวิธีการรักษาแบบนี้มักจะถูกคัดค้านว่าใช้เงินเยอะเกินไป แจกเงินฟรี หรือเป็นการใช้จ่ายที่ไม่มีเหตุผลมารองรับ
เดวิด กาสต์เฟรนด์ (David Gastfriend) ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารฝ่ายการแพทย์ของ DynamiCare กล่าวว่า “สารเสพติดทั้งหมดที่เข้าสู่ร่างกายจะไปรบกวนศูนย์ให้รางวัลของสมองซึ่งอยู่ลึกลงไปข้างใน ถ้าเราเอาคนไปดีท็อกซ์เสร็จแล้วส่งต่อไปให้คนให้คำปรึกษา ก็เหมือนเราบอกพวกเขาว่า ‘พยายามใช้สมองส่วนเหตุผลเอาชนะศูนย์ควบคุมที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเคมีในสมองดูนะ’ ปัญหาคือว่าพฤติกรรมของมนุษย์ทำงานในทิศทางตรงกันข้ามเลย” เพราะฉะนั้นเป้าหมายของแอพพลิเคชันนี้คือการพยายามเข้าไปสู่ศูนย์ควบคุมการให้รางวัลในสมองของเราโดยตรง
DynamiCare เป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพอีกหลายแห่งที่กำลังพยายามแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยใช้เทคโนโลยีทั้งแอพพลิเคชันมือถือและวิดีโอเกมเข้ามาเป็นตัวช่วย มันเป็นการบำบัดด้วยระบบดิจิทัล (Digital Therapeutics) ซึ่งเจ้าอื่นๆ ในตลาดก็จะมี Akili Interactive Labs ที่ใช้เกมเพื่อรักษาอาการ ADHD และ Pear Therapeutics ที่มุ่งรักษาอาการนอนไม่หลับ) ตอนแรกริชาร์ดก็ไม่เชื่อหรอกว่าแอพพลิเคชันจะมาช่วยให้เขาหลุดจากการติดสุราได้จริง ๆ
“ดูเหมือนไกลจากความเป็นจริงมากๆ ที่เทคโนโลยีที่ผมถืออยู่ในมือทุกวันจะสามารถช่วยได้”
แต่เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นมากนักเขาก็ต้องลองดู โดยเขาต้องบันทึกการเข้าร่วมการประชุม AA (Alcoholics Anonymous – เป็นการประชุมที่จัดขึ้นเพื่อให้คนที่ติดแอลกอฮอล์มารวมกันเพื่อแชร์ประสบการณ์และพูดคุยช่วยเหลือกัน) รวมทั้งการเข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆ อย่างการนั่งสมาธิ และทำตามคำแนะนำของแอพพลิเคชั่น
เมื่อไม่ดื่มเหล้า เงินจำนวนเล็กน้อยประมาณวันละ 5 ดอลลาร์ฯ ก็จะทยอยฝากเข้ามาในบัตรเดบิตที่ถูกออกแบบมาให้ติดตามได้และไม่สามารถใช้ในบางที่ได้อย่างร้านเหล้า บาร์ หรือกาสิโน นอกจากนั้น ในแอพฯ ก็จะมีการส่งข้อความหนุนใจและระบบที่คอยติดตามว่าตอนนี้มีพัฒนาการถึงไหนแล้ว DynamiCare จะคอยมอบเงินรางวัลและดูแลระบบเพื่อแลกกับค่าธรรมเนียมเรียกเก็บจากผู้ให้บริการด้านสุขภาพ บริษัทประกัน และองค์กรอื่นๆ ที่ทำงานร่วมกับผู้ที่ประสบปัญหาการเสพติด ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 350 ดอลลาร์ฯ ต่อผู้ป่วยต่อเดือน
หลังจากใช้ไปประมาณสองสามอาทิตย์ ริชาร์ดก็รู้สึกดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
“ในช่วงแรกของการกลับมารักษาตัว จะไม่ค่อยมีคนมาให้กำลังใจคุณสักเท่าไหร่หรอก ดังนั้น ในตอนเริ่มต้น เพียงแค่รางวัล 5 ดอลลาร์ฯ ก็เป็นสิ่งที่สามารถไปต่อได้”
ภาพ: www.bizjournals.com
ผลลัพธ์ที่เปลี่ยนชีวิต
นอกจากแอพพลิเคชันนี้จะให้รางวัลเป็นเงินในแต่ละวันแล้ว มันยังช่วยทำให้คุณเข้าถึงคนที่ให้คำปรึกษาผ่านการคุยวิดีโอออนไลน์ได้ด้วย ผลการทำงานนี้ได้มีการทดสอบและตีพิมพ์อย่างเป็นทางการ สร้างผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจสำหรับผู้ที่อยากเลิกใช้สารเสพติด สารกระตุ้น แอลกอฮอล์ และบุหรี่
ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งในวารสาร Journal of Substance Abuse Treatment ที่ทดสอบกับผู้ป่วย 61 ราย ที่เข้ารักษาตัวจากอาการติดเหล้าที่คลินิก Gosnold Treatment Centers ในแมสซาชูเซตส์ มีการแบ่งผู้ป่วยออกเป็นสองกลุ่มเท่าๆ กัน ผู้ที่ใช้ DynamiCare มีแนวโน้มที่จะผ่านการทดสอบปัสสาวะมากกว่าอีกกลุ่มหนึ่งถึงสองเท่าในช่วงสี่เดือนของการรักษา
DynamiCare เป็นผลผลิตของ เดวิด กาสต์เฟรนด์ และ เอริก กาสต์เฟรนด์ (Eric Gastfriend) ลูกชายของเขา เดวิดเป็นจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผู้ติดยาเสพติดและเป็นอดีตผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยการเสพติดที่โรงพยาบาลแมสซาชูเซตส์เจเนอรัล ส่วนเอริกเคยทำงานในบริษัทสตาร์ทอัพเกี่ยวกับเกมที่เคมบริดจ์ จากนั้นไปเรียนต่อจนจบจาก Harvard Business School
เมื่อประมาณหกปีก่อน มีสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวของเอริกกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับการใช้สารเสพติด เขาเลยปิ๊งไอเดียที่เป็นต้นกำเนิดของ DynamiCare ขึ้นมา โดยนำเทคโนโลยีและความรู้ต่างๆ ที่มีมาแก้ปัญหาเรื่องต้นทุนและการตรวจสอบของระบบการรักษาแบบ Contingency Management เอริกคุยกับพ่อเรื่องนี้ว่า “พ่อไม่เห็นเหรอว่าด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ อุปสรรคเหล่านี้เราแก้ได้หมดแล้วนะ?” โดยเชื่อว่าแอพพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สำหรับการตรวจสอบและการคุยกับผู้ให้คำปรึกษาแบบออนไลน์นั้นจะช่วยทำให้ปัญหานี้หมดไป
“ผมอ้าปากค้างเลยนะ” เดวิดบอกกับสื่อ Boston Globe ถึงตอนที่เขาคุยกับลูกชาย “ผมบอกว่า ‘เอริก ถ้าลูกเอาเทคโนโลยีพวกนั้นมารวมกันได้นี่จะปฏิวัติวงการที่พ่อทำงานอยู่เลยนะ’”
สองพ่อลูกเลยตั้งบริษัทขึ้นมาโดยมีเอริกเป็น CEO และเดวิดเป็น CMO (Chief Medical Officer) ระดมทุนได้กว่า 6 ล้านเหรียญฯ จากเหล่านักลงทุนและกลุ่มของหมอที่ลงทุนในสตาร์ทอัพทางสุขภาพ พวกเขาเอาแอพพลิเคชันนี้ไปเสนอให้กับนักวิจัย เครือข่ายโรงพยาบาล องค์กรที่รักษาผู้ป่วย และบริษัทประกันสุขภาพ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มของผู้ให้บริการด้านสุขภาพ (Heathcare Provider) โดยแอพพลิเคชันนี้จะช่วยอัพเดตข้อมูลแก่ผู้ให้บริการเกี่ยวกับความคืบหน้าของผู้ป่วยที่อยู่ในระบบ ซึ่งหมายความว่าที่ปรึกษาจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีคนพลาดการนัดหมายหรือตรวจยา และสามารถติดต่อและพยายามทำให้คนป่วยเหล่านั้นกลับมารักษาใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง
พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือว่า DynamiCare จะกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ให้บริการด้านสุขภาพเหล่านี้ติดตามและช่วยเหลือผู้ป่วยที่เข้ามารักษาอาการเสพติดต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง นอกจากนั้นแล้ว แอพพลิเคชันนี้จะมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่สามารถตรวจน้ำลายและค่าแอลกอฮอล์ในลมหายใจด้วยตัวเองที่บ้านได้ด้วย ไม่ต้องเข้ามาตรวจที่โรงพยาบาลก็ส่งผลตรวจผ่านทางแอพพลิเคชันได้เลย
ริชาร์ดบอกว่าเจ้าอุปกรณ์นี้ช่วยทำให้เขารู้สึกไม่กดดัน ไม่รู้สึกอายเวลาต้องไปโรงพยาบาลและเจอคนอื่น
“ผมรู้ว่าผมทำต่อไปได้โดยที่ไม่ต้องไปต่อคิวเข้าห้องน้ำอีก 34 คน โดยมีคนแก่อายุ 70 ยืนมอง แล้วเราก็ยื่นฉี่อุ่นๆ ในแก้วให้กับเขา มันแตกต่างมากเลย รู้สึกเหมือนคนปกติอีกครั้งหนึ่ง ไม่รู้สึกอาย ไม่รู้สึกอัปยศอดสู”
ภาพ: www.mobihealthnews.com
กฏหมายที่ยังเปลี่ยนตามไม่ทัน
ถึงแม้ว่า DynamiCare มีผลลัพธ์ที่ดีมากขนาดไหน อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องพยายามหาทางแก้เพื่อกระจายตลาดไปสู่คนทั่วไปคือเรื่องกฎหมายที่เขียนมาตั้งแต่ปี 1970 ที่ห้ามผู้ให้บริการทางสุขภาพรับหรือให้สินบน เงินทอน หรือรายได้ต่างๆ เพื่อสนับสนุนการรักษาที่ครอบคลุมโดยรัฐบาล
ตามกฎหมายแล้ว อะไรก็ตามที่มากกว่า 75 ดอลลาร์ฯ ถูกนับว่าเป็นการติดสินบนได้ทั้งสิ้น DynamiCare เริ่มจากการให้คูปองส่วนลด 1 ดอลลาร์ฯ ที่ร้านอาหารอย่าง McDonald’s แต่มันก็ไม่ได้ผลเท่ากับเงินรางวัลวันละ 5 ดอลลาร์ฯ เหมือนที่ทำอยู่ในตอนนี้
DynamiCare เลยต้องหาทางออกโดยการหาทางปรับข้อกฎหมาย โดยเดือนมีนาคมที่ผ่านมาสำนักงานผู้ตรวจการทั่วไปของกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐอเมริกา (The Office of Inspector General of the US Department of Health and Human Services) ได้ออกหนังสือรายงานความคิดเห็นของที่ปรึกษาความยาว 9 หน้า สรุปใจความสำคัญว่า เนื่องจากประสิทธิภาพของโปรแกรมอย่าง DynamiCare แอพพลิเคชันที่จ่ายเงินสูงถึง $200 ต่อเดือน และ $599 ต่อปี จะไม่ละเมิดกฎหมาย
ซึ่งเหตุผลที่มีการปรับเปลี่ยนตรงนี้เพราะจำนวนยอดผู้เสียชีวิตจากการติดเหล้าและใช้สารเสพติดเพิ่มขึ้นสูงมากในช่วงระบาดของโควิด-19 กว่า 92,000 คน เสียชีวิตจากการเสพเฮโรอีนในปี 2020 เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากปีก่อนหน้า และการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องจากการดื่มสุราก็เพิ่มขึ้น 25% ในช่วงเดียวกันมากกว่า 99,000 คนเลยทีเดียว จอห์น แมคกาฮาน (John McGahan) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมูลนิธิ Gavin Foundation ซึ่งดูแลสถานบำบัดรักษาหลายแห่งกล่าวว่า “การระบาดของการเสพเฮโรอีนมีเยอะมาก แน่นอนว่ามันรุนแรงขึ้นจากการระบาดของโควิด-19 เพราะทำให้คนแยกออกจากกันและทำให้การรักษายากขึ้นด้วย”
มูลนิธิของจอห์นได้ทดลองใช้แอพพลิเคชันของ DynamiCare กับผู้ที่เข้ามารับการรักษากว่า 200 คนแล้วผลลัพธ์ก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจมาก จอห์นบอกว่า “เหมือนพระเจ้าส่งมาไม่มีผิดเลย เรามองว่ามันเป็นการช่วยชีวิตคนและนั่นคือเหตุผลที่เราเลือกจะใช้มัน”
ตอนนี้ชีวิตของริชาร์ดห่างจากแอลกอฮอล์มาเกือบห้าปีแล้ว เขาเชื่อในผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาก ถึงขั้นสมัครเป็นฝ่ายดูแลลูกค้าของบริษัทเลยทีเดียว นี่คือแอพพลิเคชันที่ทำให้เขาได้กลับมามีชีวิตที่ดีอีกครั้งหนึ่ง ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับภรรยา ลูกสามคน และหลานๆ อีกสามคน และอาจจะกลับไปทำงานค้าที่ดินที่เขาชื่นชอบอีกครั้งก็ได้
“ผมมีชีวิตที่ดีมาก มีความสุขมากๆ ด้วย และผมก็อยากแชร์สิ่งนี้ให้กับคนอื่นให้มากที่สุดเท่าที่ความสามารถของผมจะทำได้”
อ้างอิง:
– https://www.dynamicarehealth.com/
– https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3083448
– https://oig.hhs.gov/documents/advisory-opinions/1024/AO-22-04.pdf
– https://www.bostonglobe.com/2021/05/27/business/akili-raises-160m-its-prescription-video-game/
เรื่อง: โสภณ ศุภมั่งมี