หนึ่งในกิจกรรมที่ดิฉันมักจะให้ลูกค้าทำคือการหาสไตล์ไอคอน และหลายๆ ครั้งที่คำถามนี้ถูกส่งกลับมาว่า พยายามหาคนที่ชอบแล้ว พยายามหาสไตล์ที่ชอบแล้ว และพยายามลองแต่งตัวตามแบบเขาแล้ว ทำไมไม่ออกมาดูดีเหมือนกับไอคอนที่เราชื่นชอบล่ะ
คำตอบก็คือ การแต่งตัวไม่ใช่เรื่องของเสื้อผ้า แต่เป็นเรื่องของ Personality หรือบุคลิกภาพและการนำเสนอตัวเอง เราแต่ละคนมีบุคลิกภาพที่โดดเด่น เป็นตัวของตัวเองด้วยกันทั้งสิ้น แม้ว่าจะเราจะมีสไตล์ไอคอน หรือไอดอล หรือใครบางคนที่เราชื่นชมและอยากลุกขึ้นมามีสไตล์ให้เหมือนกับเขา เราจะต้องเลือกจากคนที่มีความใกล้เคียงกับเราก่อนค่ะ ในเชิงจิตวิทยา มีทฤษฎีหนึ่ง ว่าด้วยเรื่องของคนที่เราชื่นชอบ เขาบอกว่าคนเรามักจะชื่นชอบคนที่มีคุณสมบัติบางอย่างใกล้เคียงกับเรา หรือคนที่เราอยากจะเป็นเหมือนเขา พูดง่ายๆ ว่าเราชอบคุณสมบัติแบบไหนหรือสไตล์ของใคร นั่นแปลว่าเรามีสิ่งนั้นในตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่เราต้องหาวิธีในการนำเสนอสิ่งที่เรามีในตัวเองออกมา ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาความมั่นใจ หรือการหาสไตล์เสื้อผ้าที่ใช่มากขึ้น เพราะฉะนั้น การแต่งตัวโดยได้แรงบันดาลใจมาจากคนที่เราชื่นชอบ จะช่วยให้เราดูดีแบบไม่ขัดเขินได้ ต้องไม่ใช่การ Copy/Paste แต่เป็นการ ‘เลือก’ นำเสนอจุดที่เราชอบในตัวพวกเขามาปรับใช้กับตัวเราเองต่างหาก แปลว่าแม้ว่าจะเป็นเสื้อผ้าชิ้นเดียวกัน เมื่อเราเอามาใส่ เราก็จะหาวิธีใส่ในสไตล์ที่เราเป็นซึ่งจะทำให้การแต่งตัวของเราแตกต่างออกไป แต่ได้สไตล์ที่ใกล้เคียงกัน เมื่อเราทำบ่อยๆ เราก็จะได้สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคนที่เราชื่นชอบนั่นเองค่ะ สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นแต่งตัวตามไอดอล หรือไอคอนที่เราชอบ ดิฉันมีทิปส์เล็กๆ น้อยๆ มาฝากกันในอีพีนี้ เป็นวิธีที่ดิฉันใช้กับตัวเองมาแล้วและเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ดิฉันหลงรักการแต่งตัวที่สร้างจาก Personal Style ของคนมาถึงทุกวันนี้
เลือกไอดอลที่เราชอบให้ชัดเจน
แน่นอนว่าเราทุกคนมีคนที่ชื่นชอบหลายคน การลุกขึ้นมาแต่งตัวให้มีสไตล์ใกล้เคียงกับคนที่เราชื่นชอบ เราจะต้องเลือกมาก่อนว่าเราดึงแรงบันดาลใจมาจากใคร วิธีเลือกแบบง่ายๆ ก็คือเราสามารถเลือกคนที่มีความเชื่อมโยงกับเรา ซึ่งเราอาจจะเลือก 1-2 คนได้นะคะ อย่างตอนที่ดิฉันเริ่มต้นทำเรื่องนี้ ดิฉันชื่นชอบ ออเดรย์ เฮปเบิร์น กับ โคโค่ ชาเนล มาก ไม่ใช่แค่การแต่งตัว แต่เป็นเรื่องของทัศนคติ อุปนิสัย รวมไปถึงผลงานของเขาด้วย ออเดรย์ เฮปเบิร์น มีความเป็นผู้หญิงและหวานกว่า โคโค่ ชาเนล เยอะมาก ในขณะที่ชาเนลจะเป็นผู้หญิงที่ดูมุ่งมั่น มั่นใจและมีความเป็นอิสระกว่าออเดรย์ จุดร่วมของผู้หญิงสองคนนี้คือเป็นผู้หญิงเก่งที่มุ่งมั่นในการทำงานจนประสบความสำเร็จอย่างสูงในอาชีพของเธอ ดิฉันตอนนั้นกำลังเข้าสู่วงการแฟชั่นและมีความมุ่งมั่นสูง ดิฉันจึงเลือกพวกเธอมาเป็นแรงบันดาลใจทั้งในเรื่องการแต่งตัวและการทำงาน
ทำสไตล์บอร์ดให้เราเห็นภาพรวมก่อน
แน่นอนว่าเราไม่ได้แต่งตัวเหมือนไอดอลเราได้ทุกชุด ชุดบางชุดที่ไอดอลเราใส่อาจจะล้ำเกินไป บางชุดอาจจะดูสบายเกินไปสำหรับเรา บางคนอาจจะมีรูปร่างที่แตกต่างจากไอดอลของเรามากๆ เพราะฉะนั้น เมื่อเราเลือกไอดอลของเราแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือทำสไตล์บอร์ดโดยหารูปของพวกเขาในชุดที่เราชอบออกมาติดบอร์ดไว้เพื่อใช้เป็นแรงบันดาลใจในการแต่งตัว เวลาไปซื้อเสื้อผ้า หรือเลือกเสื้อผ้าในตู้ สมองเราจะแมตช์กับภาพที่เห็นบ่อยๆ และเราจะ Map ได้เองว่าต้องหยิบอะไรมาใส่กับอะไร
หาเสื้อผ้าชิ้นที่ใกล้เคียงกับสไตล์บอร์ดที่เราทำ
ช่วงแรกๆ ถ้าเรายังไม่มั่นใจ เราอาจจะเลือกจากสีก่อนได้นะคะ เช่น ดิฉันเลือกใส่เฉดสีที่คุมโทน เช่น ขาว ดำ เทา น้ำเงินเนวี่ ชมพูกลีบบัว เหลืองมัสตาร์ด ลายทาง ลายจุด กระโปรงทรงบาน กางเกงขาตรงบาน มาจากสไตล์ของ ออเดรย์ เฮปเบิร์น และ โคโค่ ชาเนล รวมกัน ดิฉันไม่ได้ถึงกับตั้งใจไปซื้อเสื้อผ้าสไตล์นั้นแต่ด้วยความชอบส่วนตัวในช่วงนั้นที่ชอบใส่เสื้อผ้าสไตล์วินเทจอยู่แล้ว ทำให้ดิฉันเลือกเสื้อผ้าที่เชื่อมโยงกับพวกเขาได้ง่ายขึ้น แรกๆ ก็เริ่มจากสี แล้วเปลี่ยนเป็นทรง (เช่น กระโปรงบาน คร็อปแจ็กเก็ต) แล้วถึงจับทุกสิ่งอย่างมาแมตช์ เพื่อให้คาแรกเตอร์ที่เราเลือกชัดขึ้น ได้ผลดีเลยค่ะ มีช่วงหนึ่งดิฉันมีสมญานามว่า ‘เกดกระโปรงบาน’ ที่เพื่อนๆ ในวงการตั้งให้จากการแต่งตัวสไตล์ ออเดรย์ เฮปเบิร์น ด้วย เมื่อไหร่ที่คุณได้รับฉายา เมื่อนั้นแปลว่าสไตล์ที่คุณตั้งใจสร้างเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้วล่ะ
สร้างสไตล์ของตัวเองด้วยใส่มุมมองของตัวเองเพิ่มไป
ลองแสดงเป็นสไตลิสต์ส่วนตัวของคนที่เราชอบดูบ้างสิคะ สมมติเลือกชุดมาหนึ่งชุด ลองมองดูว่าถ้าเราสไตลิสต์ของคนคนนี้ เราจะเพิ่มเสื้อผ้าชิ้นไหนเข้าไปอีก วิธีนี้ถึงแม้คุณไม่มีความรู้เรื่องแฟชั่นก็ทำได้ ดิฉันขอเชิญชวนให้ลองเปิดเซนส์ของตัวเองดูด้วยการใช้ความรู้สึกนำ เพราะหลายๆ ครั้งที่เราใช้ความคิดแล้วมันไม่เวิร์กเพราะเราคิดเยอะเกินไป หรือแคร์คนอื่นมากเกินไป ถ้าเราใช้ใจสัมผัส ใช้ใจเลือก บางทีเราอาจจะสไตล์ที่คาดไม่ถึงว่าจะเวิร์ก ที่สำคัญ เวลาเราเชื่อมโยงกับคนที่เราชอบแล้ว ไอเดียจะบรรเจิดแล้วเราจะได้แรงบันดาลใจในการแต่งตัวมากขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
ทำอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
ความไม่ขัดเขินจะเกิดขึ้นตรงนี้ ตรงที่เราทำอะไรบ่อยๆ จนเกิดเป็นความเคยชิน แน่นอนว่าถ้าวันนี้ดิฉันลุกขึ้นมาแต่งตัวในสไตล์ของเลดี้กาก้า ดิฉันอาจจะโดนตั้งคำถามมากมาย แต่ถ้าดิฉันเลือกเดินทางนี้แล้วไปให้สุด วันหนึ่งคนจะจำได้ว่าเราคือคนที่มีสไตล์การแต่งตัวใกล้เคียงกับใคร และถึงตอนนั้นทุกคำถามจะหมดไป เหลือแต่ความมั่นใจและความโดดเด่นของคุณ ที่แม้ว่าจะไม่ได้เหมือนแบบถอดออกมา 100% แต่คนจะเชื่อมโยงตัวตนของคุณกับคนที่คุณชอบได้ในทันที
ทำตามทิปส์นี้ซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ วันหนึ่งคุณจะได้สไตล์ส่วนตัวที่ใกล้เคียงกับไอดอลของคุณและความขัดเขินจะหายไปเมื่อมีความมั่นใจเข้ามาแทนที่ ทุกวันนี้ ด้วยอายุที่มากขึ้น ดิฉันไม่ได้แต่งตัวสไตล์วินเทจเหมือนกับ ออเดรย์ เฮปเบิร์น และ โคโค่ ชาเนล แล้ว แต่ดิฉันก็ยังดึงแรงบันดาลใจจากพวกเธอมาใช้เสมอ ดิฉันยังมีสไตล์เสื้อผ้าบางอย่างที่ใกล้เคียงกับพวกเขาแต่ปรับให้เป็นสไตล์ของเรามากขึ้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะได้ทั้งความภูมิใจและความสุขในการแต่งตัว
ไม่ว่าวันนี้คุณจะแต่งเป็นใคร ขอให้ระลึกไว้อย่างเดียวว่า มันไม่เกี่ยวกับรูปร่าง ไม่เกี่ยวกับราคาของเสื้อผ้า ไม่เกี่ยวแม้แต่ว่าใครจะเป็นคนเลือกเสื้อผ้าให้ สิ่งสำคัญสิ่งเดียวคือการเชื่อมโยงทัศนคติของเรากับเขาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อนั้น ไม่ว่าคุณจะหยิบเสื้อผ้าชิ้นไหนขึ้นมาใส่ คุณก็จะถูกหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับไอดอลของคุณในที่สุดและสุดท้ายคุณก็จะส่งต่อแรงบันดาลใจนี้ให้คนอื่นต่อ เหมือนกับที่ดิฉันได้ส่งต่อให้กับคุณใน Start with Style อีพีนี้ค่ะ
ภาพ: Unsplash