เสื้อผ้าเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 และเสื้อผ้าก็เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีผลต่อการทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างมากในช่วง 100 กว่าปีที่ผ่านมา ช่วงหลังกระแสรักษ์โลกที่มาแรงทำให้พวกเราหลายๆ คนมีความตระหนักในเรื่องนี้มากขึ้น
ดิฉันเองเป็นอีกคนหนึ่งที่ตระหนักเรื่องนี้มาสักพักหนึ่งแล้วค่ะ แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังไปไม่ถึงขีดสุดที่จะลุกขึ้นเป็น Green Fashion อย่างเต็มตัว ดิฉันได้รับคำถามนี้จากทีมงานของ a day BULLETIN ก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับ Sustainable Fashion มากขึ้น รวบรวมมาเป็นฮาวทูเล็กๆ ในบทความนี้ เพื่อให้คนที่เพิ่งเริ่มต้นแบบดิฉันได้ลงมือทำบ้าง ทีละเล็ก ทีละน้อย ค่อยๆ ทำไป เราทุกคนอาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการยืดเวลา รักษาสิ่งแวดล้อมให้กับโลกใบนี้ได้ เริ่มต้นจากตู้เสื้อผ้าของเราเอง
1. ง่ายที่สุดคือการใส่ใจเรื่องการซัก
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแค่เรื่องเล็กๆ อย่างซักเสื้อผ้า สามารถช่วยลดมลภาวะจากการปล่อยของเสียให้กับโลกได้ 60-80% เลยทีเดียว แม้แต่การใช้น้ำร้อนในการซักผ้าก็สร้างมลภาวะได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น การปรับเครื่องซักผ้าให้เป็นน้ำอุณหภูมิปกติ หรือใช้การซักมือแทนและตากแห้งแทนการปั่นก็ช่วยได้ เมื่อก่อนดิฉันเป็นคนหนึ่งที่พอใส่อะไรเสร็จก็โยนใส่เครื่องซักในทันที โดยไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้เลยค่ะ แต่พอได้ทำความเข้าใจถึงมลภาวะที่เกิดขึ้นจากการซักผ้าดิฉันจึงมีสติในเรื่องนี้มากขึ้นในหนังสือ ใครอยากเริ่มวิธีที่ง่ายที่สุดกับการเป็นส่วนเล็กๆ ในการดูแลสิ่งแวดล้อม ให้ลองเก็บเสื้อผ้าที่ใส่ไปแล้วไว้ใส่ใหม่เพื่อซักในการใส่ครั้งที่ 2 หรือ 3 กรณีนี้ ขอยกเว้นว่าไม่ใช่ช่วงที่คุณต้องออกไปเจอคนมากมายหรือมีความสกปรกเกิดแล้วต้องหมักหมมไว้นะคะ แต่ให้เลือกจากชุดที่ไม่สกปรกมากก่อนก็ได้ เช่น กางเกงสีเข้ม กางเกงยีนส์ ชุดนอน หรือชุดอยู่บ้าน เริ่มจากง่ายๆ แค่นี้ก่อนก็จะช่วยให้เราสามารถสร้าง awareness เล็กๆ ให้กับตัวเองได้แล้วค่ะ
2. คิดก่อนซื้อ
ไม่ได้เกี่ยวกับการสิ้นเปลืองเงิน แต่ให้คิดว่าเสื้อผ้าหนึ่งชิ้นที่ซื้อไป คุ้มค่ามากแค่ไหนกับการใช้งาน เวลาที่ดิฉันสอนเรื่องมิกซ์แอนด์แมตช์ในเวิร์กช็อป เราจะให้ผู้เข้าร่วมเวิร์กช็อปนำเสื้อผ้ามา คำถามที่เราจะถามให้ทุกคนคิดก็คือว่า เสื้อผ้าหนึ่งชิ้นที่นำมานั้นสามารถเอาไปแมตช์ได้กี่ชุด ในกี่โอกาส อยากให้ทุกคนลองใช้คำถามนี้กับตัวเองทุกครั้งที่จะซื้อเสื้อผ้า ดิฉันมักจะแนะนำลูกค้าเสมอว่า 1 ชิ้นควรจะเอาไปแมตช์ได้อย่างน้อย 5 ลุกส์ ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นชิ้นเบสิกเสมอไป อาจจะเป็นเสื้อผ้าลายก็ได้ แค่เรียนรู้วิธีที่จะนำไปแมตช์กับท่อนอื่นๆ เช่น เล่นเลเยอร์ให้ได้สไตล์ที่แตกต่างออกไป เวลาใส่จะได้ไม่รู้สึกซ้ำหรือเบื่อกับเสื้อผ้าชิ้นนั้นค่ะ วิธีนี้จะทำให้เราได้เสื้อผ้าชิ้นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แล้วยังใช้ได้หลายโอกาส พูดง่ายๆ ว่าซื้อครั้งเดียว คุ้มค่าค่ะ
3. ซื้อน้อยๆ แต่ให้ใช้ได้นานๆ
พูดง่ายๆ ว่าให้เน้นที่คุณภาพของสินค้ามากกว่า เมื่อก่อน ตอนที่เรายังอายุน้อยๆ เราอาจจะเน้นไปที่ปริมาณ เพราะเบื่อกับการใส่ซ้ำ แต่หลังๆ มานี้ดิฉันเลือกซื้อสินค้าที่ราคาสูงหน่อย แต่เก็บได้นานๆ โดยเฉพาะเสื้อผ้าสีเบสิกที่ทุกคนอาจจะคิดว่าซื้อแพงไปทำไม ซื้อถูกก็ได้เพราะดูไม่ออก แต่ดิฉันขอยืนยันด้วยประสบการณ์การจับเสื้อผ้ามาทั้งชีวิตทั้งที่ถูกมากและตัวเหยียบล้าน (ไม่ได้ซื้อเองนะคะ แค่เอามาถ่ายงานค่ะ) คุณภาพสินค้ามาพร้อมราคาจริงๆ ไม่ได้บอกว่าต้องซื้อของราคาหลายพัน เสื้อผ้าราคาหลักร้อยที่คุณภาพดีก็มีเช่นกัน การเลือกคุณภาพหมายความถึงเนื้อผ้า การตัดเย็บ ทรง ที่สามารถอยู่กับเราได้นาน ซักได้ไม่เปลี่ยนสภาพภายในระยะเวลาอย่างต่ำ 1 ปี ขึ้นไป แปลว่าเราซื้อ Fast Fashion ได้นะคะ อะไรที่เป็นเทรนด์ที่เราอยากสนุก แต่ให้แบ่งเปอร์เซ็นต์ในตู้เพื่อนำเงินที่เราต้องเสียอยู่แล้ว ไปซื้อของคุณภาพในจำนวนน้อยชิ้น ทำแบบนี้สัก 6 เดือนถึงหนึ่งปี คุณจะพบว่าตู้เสื้อผ้าของคุณเต็มไปด้วยของคุณภาพที่พร้อมจะให้ใส่ไปนานๆ เลยค่ะ
4. ทิ้งอย่างมีคุณภาพเพื่อสร้างคุณค่าให้เสื้อผ้าชิ้นเก่า
เสื้อผ้าชิ้นที่ไม่ใช้แล้วมีค่ามากกว่าการเป็นผ้าขี้ริ้ว ซึ่งไม่ใช่ว่าผ้าขี้ริ้วไม่ดีนะคะ แต่การเคลียร์ตู้เสื้อผ้าหนึ่งครั้งคงทำเป็นผ้าขี้ริ้วได้ไม่หมด การนำเสื้อผ้าไปบริจาคหรือทิ้งเป็นขยะรีไซเคิลจะช่วยให้เสื้อผ้าเก่าๆ ของเราเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นต่อไป ดิฉันมักจะเคลียร์ตู้เสื้อผ้าทุกๆ สามเดือน เพื่อให้เสื้อผ้าไม่เก่ามากจนเกินไป เวลานำไปบริจาค ผู้อื่นจะได้นำไปใช้ต่อในวันที่เสื้อผ้าเรายังไม่เก่ามากจนเกินไป
5. ซื้อเสื้อผ้ามือสอง เสื้อผ้าสั่งตัดหรือเช่าแทนโดยเฉพาะในโอกาสพิเศษๆ
ซื้อเสื้อผ้ามือสองกับสั่งตัดเป็นวิธีส่วนตัวที่ดิฉันใช้มาตลอด มีช่วงหนึ่ง ถึงขนาดไม่ใส่เสื้อผ้ามือหนึ่งเลย เพราะด้วยความที่เป็นคนชอบสไตล์วินเทจเป็นส่วนตัวอยู่แล้วก็เลยสนุกกับการซื้อเสื้อผ้าวินเทจ หลังมาๆ ก็เริ่มสั่งตัด เพราะการสั่งตัดจะได้เสื้อผ้าที่พอดีและมีคุณภาพ ที่สำคัญคือใส่ได้นานๆ ไม่พังง่าย หลังๆ มานี้ดิฉันชื่นชอบไอเดียเปิดร้านเช่าเสื้อผ้ามาก เห็นด้วยไหมคะ บางทีเราไปงาน ใช้เสื้อผ้าแค่ชุดเดียว แต่ว่าต้องไปซื้อหรือตัดในราคาสูง การเช่าเป็นทางออกที่ดีมากๆ และทำให้เรามีเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่บ่อยๆ ไว้รกตู้อีกด้วยนะคะ
วิธีง่ายๆ เหล่านี้เป็นเหมือนการฝึกให้เราได้มีการตระหนักเรื่องรักโลกรักสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เรามีส่วนเล็กๆ ในเรื่องนี้ ทุกการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มจากก้าวเล็กๆ จะพาเราไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เสมอ
มาทำไปด้วยกันนะคะ
ภาพ: Getty Images