Start with Style

Start with Style EP.23: สร้างสรรค์ สื่อสาร ผ่านตัวตนให้เกิด ‘Personal Branding’

ในยุคโลกดิจิทัลที่ทุกการปรากฏตัวคือการนำเสนอตัวเอง ไม่ว่าคุณจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำจะถูกรับรู้และตีแผ่บนโลกออนไลน์ ไม่เพียงแค่นั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่คนเห็นคุณบนโลกออนไลน์จะมีผลต่อมุมมองที่พวกเขาเห็นคุณในโลกแห่งความจริงเช่นกัน

        เมื่อก่อน ตอนที่ดิฉันเริ่มสมัครงานใหม่ๆ เราแค่ต้องทำ Resume ของตัวเองให้ดี และต้องมี Referrer หรือบุคคลที่เราจะอ้างอิงได้ เช่น นายเก่า อาจารย์ เป็นต้น แต่ในยุคนี้ เราไม่ต้องมีบุคคลอ้างอิงให้โทร.หาแล้ว ทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวเราจะปรากฏขึ้นในโลกออนไลน์ (ไม่เว้นแม้แต่ว่าคุณจะตั้ง Private หรือไม่) เพราะฉะนั้น ในเชิงภาพลักษณ์ การทำ Personal Branding ไม่ใช่แค่เพียงนำเสนอตัวเองด้วยการสื่อสารหรือการแต่งตัว แต่สะท้อนถึงทัศนคติตนเองและทัศนคติที่คุณมีต่องานและองค์กรของคุณ 

        ทั้งนี้ ดิฉันไม่ได้หมายความว่าเราต้องสร้างภาพ หรือลุกส์ให้ดูดีมีราคา เพื่อสร้างตัวตนพาเราไปสู่ความสำเร็จ หลังจากทำงานกับคนที่ประสบความสำเร็จมากมาย จากหลากหลายวงการ ดิฉันพบว่าการสร้าง Personal Branding ที่มีประสิทธิภาพที่สุด ต้องมาจากตัวตนที่ดีที่สุดในตัวของคนคนนั้น เพราะนั่นคือสิ่งที่เขาคนนั้นไม่ต้องฝืนทำ บุคคลที่ดิฉันพบเจอมาหลายๆ ท่าน ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ เขาเหล่านั้นมีความชัดเจนในตัวเอง มีความชัดเจนในสิ่งที่องค์กรต้องการจะสื่อสาร พวกเขาทำงานอย่างหนัก ในเรื่องการวางกลยุทธ์และการวางแผน การมองจากมุมสูงที่จะทำให้เขาแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ เขาเหล่านั้นไม่ต้องวางแผนทำ Personal Branding ในส่วนของท่าทาง การแต่งตัวอะไรให้ยุ่งยาก แต่อาศัยโจทย์ที่ชัดเจนนี้หาวิธีในการสื่อสารและสะท้อนความเป็นตัวเอง ผ่านทุกช่องทางที่มี ที่ดิฉันสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนคือเขาเหล่านั้นไม่ได้มีตัวตนเด่นชัดในโลกออนไลน์ในส่วนของความเป็นส่วนตัว ไม่ได้ลงไลฟ์สไตล์ใดๆ ยกเว้นแต่ไลฟ์สไตล์นั้นจะเกี่ยวกับงานของตัวเอง นั่นทำให้พวกเขาได้รับการจดจำอย่างชัดเจนบนจุดยืนที่มี มากไปกว่านั้น พวกเขายังสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นอีกด้วย 

        การไปยืนอยู่ตรงจุดนั้น ไม่ใช่แค่การสร้างภาพลักษณ์หรือสร้าง Personal Branding แบบผิวเผิน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกสร้างมาจากตัวตนที่เป็นตัวของพวกเขาอย่างแท้จริง เมื่อไม่นานมานี้ ดิฉันได้ดูคลิปที่ ‘ริชาร์ด แบรนสัน’ บริหารของ Virgin พาไปทัวร์อวกาศ ทำให้ได้คิดว่าการทำฝันให้เป็นจริงนั้นนอกจากจะต้องโฟกัสอย่างชัดเจนในความฝันของเราแล้ว เราต้องลงมือทำและมุ่งมั่นจนกว่าฝันนั้นจะเป็นจริง สิ่งที่น่าสนใจคือ ไม่ว่าสิ่งที่ฝันนั้นจะทำยากแค่ไหน แต่มิสเตอร์แบรนสันทำให้เรารู้สึกว่ามันทำได้ง่าย และเส้นทางสู่ความฝันนั้นเป็นเรื่องน่าสนุก สร้างความสุขในทุกย่างก้าวของเขา นี่คือการทำ Personal Branding ที่ทรงพลังที่สุด ในการการสร้างอิทธิพลแห่งแรงบันดาลใจให้กับคนโดยใช้ความฝันนำทาง

        ข่าวดีก็คือ เราทุกคนสามารถสร้าง Personal Branding แบบนั้นได้ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย เราอาจจะไม่ได้มีความฝันไปท่องอวกาศแบบมิสเตอร์แบรนสัน (ถ้าได้ไปสักครั้งก็ไม่ปฏิเสธนะคะ) แต่ดิฉันเชื่อว่าเราทุกคนมีความฝันเล็กๆ ในงานของตัวเองและการสร้าง Personal Branding ที่ทรงพลังแบบนั้นจะเป็นเหมือนแรงขับเคลื่อนให้คุณเดินสู่ความฝันได้เร็วที่สุด ลองหาเวลาที่จะอยู่กับตัวเองและหาคำตอบ วนหัวข้อเหล่านี้ดู คุณจะเคลียร์คัต เห็นภาพชัด และเข้าถึงตัวตนที่ดีที่สุดของตัวเองอย่างแน่นอน

Start with Style

ตั้งวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน 

        เริ่มต้นเหมือนเวลาที่เราต้องทำ Presentation ไปขายงาน วัตถุประสงค์ที่ชัดเจนจะทำให้เราเลือกเส้นทางได้อย่างชัดเจนและตัดตัวเลือกที่ไม่ใช่ทิ้งไปอย่างง่ายดาย วัตถุประสงค์ที่ชัดเจน หมายความว่า ถ้าวันนี้คุณอยากสร้าง Personal Branding ให้ชัดเจน คุณต้องรู้ก่อนว่าจะทำไปทำไม เหมือนกับที่ ‘ไซมอน ซิเน็ก’ (Simon Sinek) เจ้าของหนังสือเรื่อง Start with Why ได้บอกไว้ในหนังสือว่า ‘คนจะซื้อในสิ่งที่เราเชื่อ ไม่ใช่สิ่งที่เราทำ’ ถ้าเราทำให้เขาเห็นได้ว่าเราลุกขึ้นมาเปลี่ยน และทำในสิ่งที่เรากำลังทำอยู่เพื่ออะไร คนจะเริ่มเข้าใจและเกิดความมั่นใจในตัวเราขึ้นมาเช่นกัน

วิเคราะห์ให้ชัดว่าเรากำลังสื่อสารกับใคร 

สิ่งหนึ่งที่ผู้นำองค์กรเก่งๆ ของโลก เรียนรู้และยึดมั่นอย่างที่สุด คือคนที่พวกเขากำลังสื่อสารด้วย  พวกเขารู้ว่าเขาไม่สามารถคุยกับทุกคนบนโลกได้ และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้ยอดไลก์จากทุกคนที่ได้พูดคุยกับเขา ถ้าคุณกำลังอยากสร้างตัวตนให้เป็นที่จดจำ คุณต้องตัดสินใจให้ได้ว่าใครคือผู้รับสารของคุณ คุณกำลังจะคุยกับใคร เพราะโจทย์นี้จะนำไปสู่วิธีการทั้งหมด ตั้งแต่ภาษา ท่าทาง การแต่งตัว หรือแม้แต่ช่องทางในการสื่อสาร และแน่นอนว่าเมื่อคุณชัดเจนในเรื่องเหล่านี้และทำซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ คุณก็จะได้ฐานแฟนหรือคนที่ต้องการจะสื่อสารในเรื่องเดียวกันเพิ่มขึ้นด้วย 

หาจุดเด่นหนึ่งเดียวของตัวเองให้เจอ   

        ไม่ว่าจะทำ Personal Branding เพื่อองค์กรหรือในพื้นที่ส่วนตัว การบ้านชิ้นใหญ่ที่คุณต้องทำคือหาจุดเด่นหนึ่งเดียวของตัวเองให้เจอ 1% ที่คุณไม่เหมือนคนอื่นหลายพันล้านคนบนโลกใบนี้ว่าคืออะไร บทบาทใดของคุณที่ในโลกนี้มีคุณคนเดียวที่ทำได้ โค้ชด้านพัฒนาตัวเองหลายๆ ท่านเรียกมันว่า Magical Role ซึ่งหาได้จากความเชี่ยวชาญ ความตั้งใจ เป้าหมาย ความฝัน Magical Role เป็นมุมที่เราสะท้อนด้านที่ดีที่สุดของตัวเองออกไปให้ชัดเจน เพื่อให้คนสนใจในสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อสาร ผ่านทุกช่องทาง ลองกำหนดเป็นคำง่ายๆ เช่น นักสร้างแรงบันดาลใจ นักคิดผู้เฉียบขาด นักล่าความฝัน พ่อมดแห่งการตลาด คำอะไรก็ได้ค่ะ ที่สื่อสารถึงความเป็นคุณ ตั้งให้เวอร์วังยิ่งใหญ่เข้าไว้เพื่อเรียกพลังและแรงบันดาลใจในการสร้าง Personal Branding ให้คนจดจำได้ง่ายขึ้น

Start with Style

เลือกวิธีการสื่อสารที่เหมาะกับตัวเอง 

        ถ้า ‘สตีฟ จ็อบส์’ กับ ‘ริชาร์ด แบรนสัน’ สามารถขายโปรเจกต์หมื่นล้านโดยไม่ต้องใส่สูท ก็ไม่จำเป็นว่าทุกคนที่อยากสร้าง Personal Branding ให้ชัดต้องแต่งตัวเหมือนกัน หรือทำอะไรเหมือนกันไปหมด โลกของการสะท้อนตัวตนคือการเชื่อมโยงตัวเองให้เข้ากับงานที่ทำ แล้วเลือกวิธีที่ต้องการนำเสนอในแบบของเรา เช่น เวลามีลูกค้าที่เป็น Introvert มาให้ดิฉันออกแบบการแต่งตัวให้ ดิฉันก็ไม่ได้ให้เขาเหล่านั้นลุกขึ้นมาแต่งตัวแบบ Outstanding หรือเห็นแล้วต้องน่าเกรงขาม เช่นเดียวกัน ถ้าคุณไม่ชอบพูด ก็ไม่จำเป็นต้องทำวิดีโอหรือไลฟ์ เพราะสิ่งหนึ่งที่จะทำให้การสร้าง Personal Branding จากตัวตนที่แท้จริงให้โดดเด่นคือ เราต้องจริงกับตัวเอง และเลือกวิธีการสื่อสารที่เราถนัด ถ้าคุณถนัดเขียน คุณก็ใช้สื่อสารด้วยการเขียน ถนัดพูดก็สื่อสารด้วยการไลฟ์ ถนัดออกท่าทางก็ทำเป็นวิดีโอ ไม่ถนัดในโลกออนไลน์ก็ใช้โลกออฟไลน์ ชีวิตมีทางเลือกและที่ว่างสำหรับคนที่ต้องการสร้างประโยชน์เสมอ จุดเด่นหนึ่งเดียวของคุณในข้อก่อนหน้านี้จะช่วยให้คนที่อยากสื่อสารกับคุณได้เจอกับคุณและ ‘ซื้อ’ วิธีที่คุณต้องการจะสื่อสารกับเขาโดยอัตโนมัติ 

ทำซ้ำๆ และอย่าหยุด 

        กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว Personal Branding และตัวตนของเราก็เช่นกัน หลายคนเข้าใจว่าแค่เลือกการแต่งตัวและท่าทาง รวมถึงส่งข่าวออกไปก็จะทำให้เรากลายเป็นที่จดจำได้แล้ว ดิฉันขอบอกว่า ไม่ใช่เลยค่ะ จากการศึกษาเรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จของโลก พวกเขาทำตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ ทำซ้ำๆ ทำแล้วทำอีก …แม้กระทั่งในวันที่ล้มละลายและไม่เหลืออะไรเลย สุดท้าย ถ้าคุณกลับไปย้อนดู คุณจะเห็นว่า ทุกครั้งที่ล้มเหลว พวกเขาจะกลับมาผงาด และแม้เมื่อเราเห็นว่าเขาสำเร็จแล้ว เขาก็ยังทำอยู่ ถ้าเราทำแบบนั้นบ่อยๆ อย่างต่อเนื่อง เราจะเดินไปในทางเดียวกัน รากจะแน่น แผนจะชัดเจน และเส้นทางเดินจะมั่นคง   

Start with Style

        ทั้งหมดนี้คือขั้นตอนที่ไม่ง่าย แต่ไม่เกินแรงมนุษย์จะทำได้ ถ้าอย่างสร้าง Personal Branding ที่ยั่งยืน เริ่มเร็วเท่าไร ยิ่งได้กำไรมากเท่านั้น ดิฉันเพิ่งลองให้ลูกค้าทำตามขั้นตอนเหล่านี้ มีความน่าประหลาดใจก็คือ เขาบอกว่ายังไม่ทันเปลี่ยนตู้เสื้อผ้า เขาก็รู้สึกว่า เขาแต่งตัวเปลี่ยนไป แม้ยังใส่เสื้อผ้าเดิมๆ นี่คือพลังของการสะท้อนตัวตนที่ดีที่สุดออกไป เมื่อไรที่เรามองตัวเองในมุมที่ต่าง และตอบทุกคำถามในทุกหัวข้อให้เคลียร์ เมื่อนั้น Personal Branding จะปรากฏขึ้นโดยที่เราไม่ต้องสร้าง เหมือนกับที่ สตีฟ จ๊อบส์ ริชาร์ด แบรนสัน และ ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ๆ หลายคนที่เราเห็นว่าเขาแต่งตัวสบายๆ แต่นั่นคือสิ่งที่พวกเขา ‘เลือก’ วิธีที่จะสื่อสารและนำเสนอตัวเองในแบบนี้ เพื่อเชื่อมโยงกับธุรกิจและความเชื่อของพวกเขา ความชัดเจนและมั่นใจว่าตัวเอง ‘มีของที่ดีมาก’ ทำให้พวกเขาถึงเป็นที่จดจำและยืนหนึ่งมาได้จนถึงทุกวันนี้

        ดิฉันอยากให้คุณได้สัมผัสกับความรู้สึกนั้นเช่นกัน ถ้าโลกวิ่งเร็ว เรา (ยัง) ไม่จำเป็นต้องวิ่งตาม เราอาจจะยืนดูเฉยๆ นั่งพัก คุยกับตัวเองให้รู้สึกชัดเจนและมั่นคงก่อน และเมื่อถึงเวลานั้น ภาพตัวตนที่ดีที่สุดในใจคุณจะปรากฏขึ้น และคุณจะก้าวล้ำนำคนอื่นไปสู่จุดหมายที่ต้องการอย่างไม่มีข้อจำกัดใดๆ เลย ที่สำคัญเป็นตัวของตัวเองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วย ทำได้แบบนี้ ได้ความสุขเป็นกำไรของความสำเร็จแน่นอนค่ะ 


ภาพ: Getty Images