Start with Style EP.8: สร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้ตัวเองด้วยความเชื่อว่า เราสามารถเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลต่อโลกได้

รู้ไหม ในช่วงเวลาแบบนี้เป็นโอกาสดีที่คุณจะเริ่มสร้าง Personal Content

        ดิฉันขอใช้คำว่าเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส หรือสร้างโอกาสให้กับตัวเองทุกๆ วัน ผ่านการสร้างสรรค์ที่คิดมาแล้วของคนกลุ่มหนึ่ง ดิฉันกำลังหมายถึงโซเชียลมีเดียทั้งหลาย Facebook, Instagram, Twitter, TikTok แน่นอนค่ะ แพลตฟอร์มเหล่านี้ถูกสร้างมาเพื่อดึงฐานข้อมูลมหาศาลจากพวกเรา ดิฉันเลยคิดว่าได้เวลาแล้วที่เราจะเอาคืนบ้าง

        มีคนไทยหลายล้านคนเป็นประชากรของเฟซบุ๊กอยู่ ณ ตอนนี้ ดิฉันเชื่อว่า คุณๆ หลายคนที่อ่านอยู่ตรงนี้เข้าแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งทุกวัน บางคนเข้าหลายแพลตฟอร์มต่อวันด้วยซ้ำ เคยไหมคะที่เวลาจะโพสต์อะไรแต่ละอย่าง เราคิดแล้วคิดอีก หรือบางคนอาจจะไม่ได้คิดเพราะโพสต์ตามอารมณ์และความรู้สึก ไม่มีอะไรผิดถูกในเรื่องการโพสต์ แต่ดิฉันอยากจะขอลองชวนคิดดูว่า ไหนๆ ตอนนี้เราก็กำลังติดอยู่กับการล็อกดาวน์แล้ว ลองมาทำตัวเป็นบรรณาธิการคุมบังเหียนสื่อของตัวเอง โพสต์คอนเทนต์ที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวคุณกันบ้างดีกว่า ดีไซน์ไปเลยเหมือนตัวเราเป็นสินค้าหรือแบรนด์หนึ่ง ที่จริงก็คล้ายๆ กับการทำ Personal Branding ค่ะ เพียงแต่ Personal Content อาจจะไม่เชื่อมโยงกับการทำธุรกิจหรือหน้าที่การงานร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่จะเป็นเหมือนบันทึกหรือการแสดงออกทางตัวตนผ่านสื่อที่เรามี สำหรับดิฉัน นอกจากจะเป็นการแสดงออกทางการสร้างสรรค์โดยไม่ต้องมีใครมาตัดสินหรือไม่ได้หวังผลทางกำไรแล้ว การสร้าง Personal Content ถือเป็นการบำบัดจิตใจที่ดีทีเดียวเลยล่ะ

        วิธีการสร้าง Personal Content ไม่ใช่แค่ข้อความหรือรูปที่โพสต์ แต่มันคือการออกแบบคอนเทนต์ให้ตัวเองเพื่อสร้างประโยชน์ในอนาคต เช่น เวลาไปสมัครงาน หรือต่อยอดไปสู่งานสร้างคอนเทนต์อื่นๆ ซึ่งในเวลาแบบนี้ ดิฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ถ้าเราจะมีทางเลือกสำหรับอาชีพที่สอง Personal Content คือการดีไซน์ตั้งแต่ภาพที่เราจะโพสต์ ภาษาพูด การแต่งตัว เนื้อหาที่เราจะสื่อสารออกไป ดิฉันแบ่งเป็นขั้นตอนให้ลองทำกันง่ายๆ แบบนี้ค่ะ

หาจุดเด่นจุดเดียวของเราให้เจอ แล้วนำเสนอจุดนั้นออกไปอย่างต่อเนื่อง

        ในวันที่โลกเราแข่งกันเรื่องคอนเทนต์ การสร้าง Personal Content เพื่อนำเสนอทุกแง่มุมที่เราชอบในตัวเองนั้น จะยากกว่าการหาจุดเด่นจุดเดียวให้เจอ ภาษาอังกฤษเรียกว่า One dot นั่งคุยกับตัวเองดูว่าอะไรคือจุดเด่นที่เราให้ดาวกับตัวเอง อาจจะเป็นเรื่องบางอย่างที่เราถนัด เรื่องงาน เรื่องการแต่งตัว การเขียน ความคิด คำคม อะไรก็ได้ที่เป็นจุดเด่นจุดเดียวของเรา ลองโพสต์เรื่องนั้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน คนจะเริ่มซึมซับจุดเด่นจุดนั้นและเริ่มรับรู้ตัวตนที่คุณต้องการจะสื่อสารมากขึ้น

พูดกับคนแค่กลุ่มเดียว

        แน่นอน Personal Content ของเราอาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน ยกเว้นว่าคุณจะใช้ช่องทางนี้ในการหางานในอนาคต ลองจินตนาการว่าเรากำลังสร้างคอนเทนต์ให้กับคนคนหนึ่ง หรือคนกลุุ่มหนึ่ง เช่น เพื่อนที่กำลังเจอกับวิกฤตเศรษฐกิจ คนที่กำลังเบื่อหน่าย คนที่กำลังอยากได้แรงบันดาลใจ คนที่เชื่อในเรื่องของความสำเร็จเหมือนกับคุณ แล้วส่งเมสเสจหรือโพสต์เพื่อคนคนนั้นหรือคนกลุ่มนั้นโดยเฉพาะ เพราะอะไรรู้มั้ยคะ เพราะว่าเราไม่สามารถโพสต์เรื่องทุกเรื่องให้ถูกใจคนทุกคนได้ การฝึกสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์จะต้องสื่อสารกับคนกลุ่มหนึ่งที่คิด พูด ทำคล้ายๆ เรา ถึงจะสร้างภาพจำให้กับตัวคุณเองได้

สื่อสารด้วยการแต่งตัว

        อย่างที่ดิฉันเน้นย้ำในทุกอีพีว่า การแต่งตัวคือการสื่อสารและการทำ Personal Content ให้โดนใจ เราสามารถใช้การแต่งตัวเป็นเครื่องมือได้นะคะ จำไว้ว่านี่เป็นการสร้างสรรค์ตัวตนของคุณบนโลกออนไลน์ ไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องใส่เสื้อสีดำทุกวันตลอดชีวิตเพื่อสื่อสารถึงความลึกลับ น่าค้นหา แต่ถ้านั่นเป็นเมสเสจหรือสารที่คุณต้องการให้ผู้รับสารของคุณรับรู้ การใส่เสื้อสีดำทุกครั้งที่โพสต์รูปตัวเองลงบนโซเชียลฯ ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สร้างตัวตนที่ชัดเจนให้กับคุณได้ การสื่อสารด้วยการแต่งตัวไม่จำเป็นว่าเราต้องนำเสนอความแฟชั่น ความมีสไตล์เสมอไป เราสามารถนำเสนอความเรียบง่ายผ่านเสื้อผ้าคุมโทนสีอ่อน หรือเล่นสนุกด้วยการใช้สีตัดกันทุกภาพ แบบนี้จะช่วยให้โพสต์ของคุณมีความชัดเจนมากขึ้น

ส่งมอบสิ่งต่างๆ แก่คนอื่นผ่านคอนเทนต์ของตัวเองเสมอ

        ในหนังสือ How to Influence People: Make a Difference in Your World ของ จอห์น ซี. แม็กซ์เวลล์ ว่าด้วยเรื่องของการเป็นผู้นำที่ทรงอิทธิพลต่อคนอื่น บอกไว้ในบทสุดท้ายว่า การที่เราจะลุกขึ้นมาเป็นคนที่มีอิทธิพลในโลกใดก็ตาม หนึ่งสิ่งที่เราต้องมีคือจิตวิญญาณของการเป็นผู้ให้ (อย่างจริงใจโดยไม่หวังผลตอบแทน… อันนี้ดิฉันเติมเอง ตามความเข้าใจ) ลองถามตัวเองเล่นๆ ดูว่า Personal Content ที่เราสร้างในพื้นที่ส่วนตัวของเรา จะเป็นประโยชน์หรือสร้างแรงบันดาลใจในเรื่องไหนได้บ้าง ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่เราถนัด แต่อาจจะเป็นเรื่องที่เราอยากรู้แล้วเรานำเสนอกระบวนการการเรียนรู้ของเรา ส่งต่อไปยังคนที่อยากเรียนรู้เรื่องเดียวกับเราเหมือนกัน วิธีนี้ นอกจากจะฝึกจิตใจของการเป็นผู้ให้ที่ดีแล้ว ยังสามารถช่วยสร้างกลุ่มคนที่รักหรือชอบอะไรเหมือนกัน ให้มารวมตัวกัน พูดง่ายๆ ว่าได้ทั้งแฟนคลับ ได้ทั้งเพื่อนใหม่ที่จะช่วยสนับสนุนกันในอนาคตอีกด้วยค่ะ

        วางแผนและพัฒนา Personal Content เพื่อต่อยอดสู่งานอื่นๆ ต่อไป : สุดท้ายแล้ว การสร้าง Personal Content ที่ชัดเจน จะนำมาสู่ตัวตนที่ชัดเจน และแน่นอนว่าในบรรดาโพสต์อีกหมื่นล้านโพสต์บนโลกใบนี้ จะมีโพสต์จากคุณที่มีคนที่ชอบอะไรเหมือนกันติดตามและสร้างแรงบันดาลใจให้กันและกันต่อไป ซึ่งดิฉันว่ามันสำคัญมากๆ สำหรับโลกที่ค่อนข้างจะหนักหนาแบบทุกวันนี้ ลองวางแผนพัฒนาข้อความหรือ Content ของคุณเพื่อต่อยอด เช่น อาจจะเป็นลู่ทางให้มีสปอนเซอร์เข้าเพราะยุคนี้ Micro Influencer ถือว่ามามากๆ นอกจากนี้ วิธีการทำ Personal Content ที่ดิฉันเลือกมาให้อ่านกันในวันนี้ ยังสามารถนำไปใช้ในการสร้างเพจ สร้างแบรนด์ สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ได้อีกมากมาย

        เครื่องมือจะดีเมื่อเราใช้ให้เป็น ถึงเวลาแล้วที่เราจะลุกขึ้นมาควบคุมโซเชียลมีเดียหรือสื่อในมือของเรา เพื่อใช้ในทางที่สร้างสรรค์ สร้างประโยชน์ ทำเงินและสร้างรายได้ให้กับตัวเราเองในอนาคต โดยเฉพาะในช่วงที่หลายๆ คนกำลังเจอกับวิกฤต นอกจากการออกแบบคอนเทนต์ของตัวเองให้น่าสนใจแล้ว ยังถือเป็นหนึ่งในวิธีการที่ช่วยให้เราเปลี่ยนโฟกัสหาโอกาสที่ดีกว่าให้ตัวเอง

        หนึ่งคนทำ หนึ่งคนอ่าน หนึ่งคนเปลี่ยน หนึ่งคนบอกต่อ แน่นอนว่าจะมีอีกหลายๆ คนที่ได้ประโยชน์รวมถึงตัวเราเองด้วย เมื่อเราเปลี่ยน โลกรอบตัวเราก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้ด้วยเช่นกัน จากคอนเทนต์เล็กๆ ที่เราสร้างด้วยมือของเรานี่แหละค่ะ แน่นอนว่าดิฉันเป็นคนหนึ่งที่รอชื่นชม Personal Content ของคุณอยู่นะคะ ถ้าพร้อมแล้ว ไปค่ะ! สร้างคอนเทนต์ดีๆ ออกมากันเยอะๆ นะคะ


ภาพ: Getty Images, Ian Schneider / Unsplash, Arnel Hasanovic / Unsplash