รู้ไหมว่า เราสามารถนำเสนอบุคลิกภาพแห่งความเป็นผู้นำได้ ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหนก็ตาม
ความเป็นผู้นำยุคใหม่คือความสามารถในการสื่อสารอย่างประสิทธิภาพ และคำว่าสื่อสารเริ่มจากการนำเสนอตัวเองอย่างมั่นใจด้วยความรู้สึกมั่นคง รวมถึงความสามารถในการนำเสนอตัวเองทั้งภายในและภายนอกได้อย่างชัดเจนเพราะบุคลิกภาพเป็นหนึ่งในการสื่อสารแบบไม่ต้องใช้คำพูดหรือ Nonverbal Communication ซึ่งคนจะตีความหรือรับรู้ตัวตนผ่านการนำเสนอที่ชัดเจนของเรา หมายความว่าถ้าเราอยากเสนอบุคลิกภาพแห่งความเป็นผู้นำ ให้เราใช้ทั้งแพ็กเกจคือนำเสนอคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นในตัวเราแล้วเอาเสื้อผ้ามาสร้างพลังให้คาแรกเตอร์นั้นโดดเด่นมากขึ้น
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า ถ้าคุณอยากเป็นเหมือนไอดอลของคุณ ให้ทำตัวเป็นเขาตั้งแต่วันนี้ ศึกษาว่าจุดเด่นของเขาคืออะไร บุคลิกภาพแบบไหนที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ ดิฉันจำได้ว่าตอนเข้ามาทำงานสื่อใหม่ๆ ดิฉันประทับใจเจ้านายใหญ่ท่านหนึ่งมาก ตอนนั้นดิฉันยังเด็ก เจ้านายท่านนี้มีตำแหน่งสูงสุดในองค์กรที่ดิฉันทำอยู่ ดิฉันคอยแอบดูวิธีการพูดของเธอ การแต่งตัวของเธอ มุมมองและการใช้ชีวิตของเธอ สำหรับดิฉัน ผู้นำหรือฮีโร่ไม่จำเป็นต้องลุกขึ้นมาสร้าง Inspirational Speech ให้หรูหรา แต่การแก้ปัญหาออฟฟิศเล็กๆ น้อยๆ จากมุมมองที่เธอให้มานั้น ทำให้ดิฉันทึ่งเหลือเกิน พอโตมา ดิฉันเริ่มเข้าใจว่าภาวะความเป็นหัวหน้าหรือแม้แต่ความเป็นผู้นำนั้น นอกจากจะมาจากประสบการณ์และความสามารถแล้ว หนึ่งในสิ่งที่สำคัญมากๆ ที่จะส่งอิทธิพลมาถึงลูกน้องคือความรู้สึกมั่นคง ความรู้สึกมั่นคงที่เขามีในตัวเองและความรู็สึกมั่นคงที่เขามีในทีมงาน เจ้านายเก่าท่านนี้ทำให้ดิฉันเข้าใจถึงคำว่า Influencer ตั้งแต่โซเชียลมีเดียยังไม่ถือกำเนิดขึ้น
แชร์เรื่องนี้ เพราะว่าโจทย์ของ Start with Style สัปดาห์นี้เกี่ยวกับเรื่องของภาพลักษณ์แห่งความเป็นผู้นำหรือฮีโร่ ไอดอล อินฟลูเอนเซอร์ หรือคำอะไรก็ได้แล้วแต่ที่เจเนอเรชันของคุณจะเลือกใช้ การเป็นผู้ทรงอิทธิพลต่อจิตใจของคนไม่ได้ทำง่ายๆ ต้องใช้ความมุ่งมั่นและความทุ่มเท อันเป็นคุณสมบัติที่ดิฉันเห็นในตัวเจ้านายแต่ละคนที่ผ่านมาในชีวิต และด้วยความที่อยู่ในวงการสื่อแฟชั่นมากว่าครึ่งชีวิตการทำงาน เจ้านายดิฉันทุกท่านให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ในแบบที่เป็นตัวเขาที่สุด หลังจากที่มาเรียนเรื่องบุคลิกภาพและภาพลักษณ์ดิฉันจึงมาเข้าใจว่าทุกอย่างคือแพ็กเกจ องค์กรที่คุณเลือก ตำแหน่งงาน ผลงาน ตัวตนและการแต่งตัวของคุณจะสื่อสารถึงความเป็นผู้นำในตัวคุณ ตั้งแต่วันที่ยังไม่ได้รับตำแหน่งใดๆ ที่สำคัญไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ เราสามารถใส่จิตวิญญาณความเป็นผู้นำหรือความเป็นอินฟลูเอนเซอร์ให้กับตัวเองได้เสมอ
ทุกอย่างเริ่มจากการสร้าง Personal Content ให้ชัดเจน
Personal Content คือข้อความที่คุณกำลังสื่อสาร พูดง่ายๆ ว่ามันคือแพ็กเกจจิ้งที่เราจะสื่อถึงความเป็นตัวเองทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เคยถามตัวเองไหมคะว่าวิธีการสื่อสารของเราเป็นแบบไหน คนอื่นมองเราว่าเราเป็นคนอย่างไร เราเคยกำหนดหรือไม่ว่าเราต้องการให้คนอื่นรับรู้เรื่องราวอะไรในตัวเราบ้าง เหล่านี้เรียกว่า Personal Content มีความสำคัญมากกับการที่เราจะลุกขึ้นมาสร้างแรงบันดาลใจให้ใครสักคน และการสร้าง Personal Content ไม่ใช่การขึ้นเวทีเพื่อเล่าเรื่องราวให้คนเกิดความตื่นตัวเท่านั้น แต่เป็นการสื่อสารตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ อย่างมีประสิทธิภาพต่างหาก Personal Content คือบุคลิกภาพ น้ำเสียง คำพูด การแต่งตัว ข้อความต่างๆ ที่ออกไปจากตัวคุณในโลกออฟไลน์และออนไลน์ ที่ส่งผลต่อความรู้สึกของคน เพราะฉะนั้น ถ้าเราเลือกกำหนด Personal Content ให้ชัดเจน จะช่วยเพิ่มบทบาทความเป็นผู้นำในตัวเองให้โดดเด่นมากขึ้น และเราทุกคนสามารถสร้าง Personal Content เพื่อสร้างโอกาสให้ตัวเองได้ทั้งนั้น เผลอๆ ถ้าทำดีๆ นี่อาจจะเป็นที่มาของแหล่งรายได้ใหม่ๆ ของคุณก็เป็นได้ค่ะ
ทุกอย่างเริ่มจากจุดเด่นก่อน
คนมากมายไม่รู้ว่าจุดเด่นในตัวเองคืออะไร ถ้าคุณหาเจอแล้ว ดิฉันยินดีด้วยนะคะ ให้คุณเลือกนำเสนอจุดเด่นนั้นออกมาด้วยความมั่นใจที่สุด ใครยังหาไม่เจอ ลองใช้วิธีนี้ค่ะ มองหาไอดอลหรือคนที่เราชอบสักหนึ่งคน แล้วลองถามตัวเองว่าเราชอบอะไรในตัวเขา คุณสมบัติที่เราชอบในตัวคนคนนั้นที่จริงแล้วเป็นคุณสมบัติที่เรามีหรือต้องการมีในตัวเอง ลองศึกษาดูว่าคนคนนั้นเขาใช้คุณสมบัตินั้นในเรื่องไหนบ้าง แล้วค่อยๆนำมาปรับใช้หรือพัฒนาต่อ เลือกมาแค่หนึ่งข้อหรือสองข้อก็ได้เลยค่ะ ถ้าเราฝึกฝนสร้างจุดเด่นจุดนั้นให้ชัดเจนรับรองว่าออร่าของความเป็นผู้นำจะค่อยๆ เกิดขึ้นในตัวคุณแน่นอนค่ะ
เสื้อผ้าไม่ใช่แค่เปลือก
ในฐานะคนที่ทำงานในโลกเสื้อผ้าทั้งสองโลกมาแล้ว ทั้งด้านแฟชั่นและด้านสไตล์ส่วนบุคคล ดิฉันกล้าเอาอาชีพของชีวิตนี้ยืนยันว่า ถ้าคุณปรับแพ็กเกจจิ้งเรื่องของเสื้อผ้าให้ดี คุณจะมีความมั่นใจในตัวเองซึ่งจะทำให้คุณทำเรื่องอื่นๆ ในชีวิตอย่างมั่นใจเช่นกัน เพราะอะไรทราบไหมคะ เพราะว่าความรู้สึกภายในและภาพลักษณ์ภายนอก จะสะท้อนกันอย่างแยกไม่ออก แน่นอนว่ายุคนี้ คุณไม่จำเป็นต้องสวมสูทเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ (ยกเว้นคุณอยู่ในวงการที่ต้องทำแบบนั้น) แต่การเลือกโครงสร้าง เนื้อผ้า หรือแม้กระทั่งสี มีผลอย่างมากต่อความรู้สึกของคน สีแดงคือพลัง สีน้ำเงินคือความน่าเชื่อถือ สีดำคือความเป็นมืออาชีพ สีเหลืองคือความสดใส อิทธิพลของสีเหล่านั้น ส่งผลต่อความรู้สึกของคนและสามารถนำมาใช้ในการสร้าง Packaging หรือบุคลิกภาพเฉพาะตนให้กับเราได้ทั้งสิ้น ไม่ใช่แค่สีนะคะ ทรงและเนื้อผ้ามีผลต่อความรู้สึกอย่างมาก ถ้าคุณต้องการสร้างบุคลิกภาพแห่งความเป็นผู้นำที่สตรอง แข็งแกร่ง คุณต้องเลือกเนื้อผ้าที่เป็นทรง มีเนื้อผ้าที่เฟิร์ม หนักแน่น การเลือกเนื้อผ้าที่ย้วยยืดหรือทรงที่พลิ้วไหวจะลดทอนบุคลิกภาพของความเป็นผู้นำลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งนี้ ไม่ได้แปลว่าใส่เสื้อยืดหรือกางเกงยีนส์ไม่ได้ แต่หมายถึงเราต้องมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าที่สื่อสารความเป็นตัวเรา ด้วยรูปทรงและสีที่นำเสนอจุดเด่นของเรา วิธีนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและบุคลิกภาพแห่งความเป็นผู้นำที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร
กำหนดขอบเขตในการสื่อสารถึงความเป็นตัวเอง
ถ้าจะลุกขึ้นมานำ เราต้องชัดเจน การกำหนดวิธีการสื่อสารในแบบของตัวเองจะทำให้เราโดดเด่นมากขึ้น การสื่อสารหมายความรวมถึงทุกอย่างที่ออกไปจากตัวคุณ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การเขียน ภาพถ่าย เรื่องราวที่นำเสนอทั้งโลกส่วนตัวและโลกการทำงาน การกำหนดเรื่องเหล่านี้ให้ชัดเจนจะช่วยเสริมให้ความเป็นผู้นำในตัวคุณให้แข็งแกร่งมากขึ้น แนะนำให้ลองเขียนออกมา หา Reference ภาพที่เราต้องการเป็น ทำเป็น Mood Board แปะไว้เลยก็ได้ค่ะ อย่างที่บอกว่าเราสื่อสารกับคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณอยากสร้างบุคลิกภาพความเป็นผู้นำในตัวเอง ต้องเริ่มจากวางแผนการเป็นผู้นำชีวิตตัวเองให้ได้เสียก่อน นั่นคือการกำหนดให้ชัดเจนถึงขอบเขตในทุกเรื่อง ลิสต์ออกมาเลยว่าคนคนนี้มีจุดเด่นอย่างไร บุคลิกภาพที่โดดเด่นคืออะไร ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารเป็นแบบไหน เสื้อผ้าที่ใช้ในการนำเสนอจุดเด่นในตัวเองคืออะไร นอกจากนี้ยังรวมไปถึงสิ่งที่เราสนใจ Passion ทัศนคติที่เรามีต่อตัวเองและเรื่องต่างๆ ทุกอย่างที่เราต้องการสื่อสารออกไป ทุกอย่างที่คุณสร้างไว้ จะเป็นสิ่งที่ถูกจารึกไว้ในใจคนโดยที่คุณไม่รู้ตัว และเมื่อถึงวันหนึ่งที่พวกเขามองหาใครสักคนที่จะมาส่งต่อแรงบันดาลใจและสร้างผลประโยชน์ในวงกว้าง เขาจะนึกถึงคุณเป็นคนแรกค่ะ
ทั้งหมดนี้คือการออกแบบชีวิตในมุมใหม่ผ่านการทำ Personal Content ซึ่งไม่เหมือนการทำ Personal Branding เพราะนี่คือการสร้างภาพลักษณ์ตัวตนและแพ็กเกจจิ้งจากภายในสู่ภายนอก อันจะทำให้ผู้ติดตามของคุณได้เข้าถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณได้อย่างใกล้ชิดและสัมผัสถึงความจริงใจที่คุณส่งมอบให้
ค่อยๆ ทำไปทีละขั้นตอนแบบนี้ รู้ตัวอีกทีคุณก็มีชีวิตที่ใฝ่ฝันและต้องการได้แล้ว แถมยังมีความมั่นคงในจิตใจจากความรู้สึกเคารพตัวเองอย่างสูงสุดด้วย
นี่คือความลับที่ยิ่งใหญ่ของความเป็นผู้นำ ฮีโร่ Influencer ที่ถูกถ่ายทอดส่งต่อกันมา
อีกหนึ่งความลับก็คือ คุณ ดิฉัน และทุกคนบนโลกนี้ สามารถใช้วิธีนี้นำไปสร้างภาวะความเป็นผู้นำหรือฮีโร่ในชีวิตของตัวเองได้เช่นกัน ลองออกแบบกันดูนะคะ สนุกและได้ผลเกินคาดแน่นอนค่ะ
ภาพ: Unsplash และ วิมุตตา กลุสวรรณ