นิยามความรักสำหรับคุณคืออะไร? สมการคำตอบที่ได้ของแต่ละคนคงไม่เหมือนกัน บางคนตอบได้ด้วยคำพูด ส่วนบางคนสื่อออกไปด้วยการกระทำ และบางคนอาจเคยสัมผัสสิ่งนี้ด้วยความรู้สึก แต่นั่นคือเสน่ห์และความน่าสนใจของคำว่ารัก ที่เป็นทั้งพลังงานด้านบวกและลบที่คอยขับเคลื่อนชีวิตของมนุษย์ในทุกๆ อย่าง
วันนี้เราจึงอยากพาคุณไปสำรวจความหมายของคำว่ารัก ผ่านมุมมอง 3 ศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย อย่าง ALEX FACE, JEEP JEEP และ PARN ARTS ที่ได้ร่วมมือกับไทยประกันชีวิต เปลี่ยนสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินให้เป็น STREET ART SPACE และเปลี่ยนความรักให้เป็นงานศิลปะในโปรเจ็กต์ ‘MRT ให้รักดูแลชีวิต’ ซึ่งจัดแสดงที่ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ทางออก 4
ลองไปดูกันว่าไอเดียเบื้องหลังในการสร้างสรรค์ผลงาน นิยามของคำว่ารัก และความสำคัญของความรักที่ส่งอิทธิพลต่อชีวิตศิลปินแต่ละคนเป็นอย่างไร
“
มีคนเคยบอกว่าเวลากอดหัวใจเราจะชนกัน เวลากอดใคร มันหมายถึงว่าเราเอาหัวใจไปชนกับเขา และเราส่งพลังงานต่อถึงเขาได้ทันที
”
PARN ARTS
‘ครูปาน’ – สมนึก คลังนอก หรือที่รู้จักกันในชื่อ PARN ARTS ศิลปินนักวาดภาพประกอบลายเส้นหวานซึ้ง ที่นำรูปแบบการแสดงความรักของมนุษย์อย่างการกอดมาตีความเป็นผลงานในแคมเปญนี้ได้อย่างน่าสนใจ
Collaborating with Love
“ตอนแรกที่ได้รับโจทย์จากไทยประกันชีวิต อยากให้เราผลิตผลงานเกี่ยวกับคำว่า ‘ให้รักดูแลชีวิต’ เราชอบประโยคนี้ตั้งแต่ตอนแรกเลย และไม่ลังเลที่จะตอบตกลงร่วมงาน มันเป็นอะไรที่น่าสนุกมากที่จะคิด เพราะคำว่ารักสามารถนำมาเล่นอะไรได้เยอะ และการทำงานกับไทยประกันชีวิตก็ดีมากครับ เพราะทุกคนเป็นมืออาชีพ ในแต่ละส่วน แต่ละฝ่าย ทำงานด้วยง่ายมากงานเลยออกมาดี และเราว่าไทยประกันชีวิตเป็นแบรนด์ที่เข้าใจชีวิต ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทำแคมเปญนี้ขึ้นมา เขาเข้าใจเลยว่าชีวิตคนเรานั้นเริ่มต้นด้วยความรัก รู้สึกดีใจมากที่ได้ร่วมงานนี้”
The Meaning of Love
“คำว่ารักเป็นคำที่กว้างเหมือนกัน เราไม่สามารถเฉพาะเจาะจงได้ว่ารักเป็นแบบไหน เราเลยใช้เวลานานมากในการคิดว่าจะสื่อคำคำนี้ออกมาอย่างไร ก็เลยคิดย้อนกลับไปถึงเรื่องของตัวเอง เวลาที่เราแสดงความรักกับคนอื่นทำอย่างไร และเราเป็นคนที่ชอบแสดงความรักด้วยการกอด เวลาที่เราเห็นใคร เจอเพื่อน เจอแฟน เจอญาติพี่น้องเรากอดทุกคน และเขาจะรู้สึกถึงพลังได้ว่าเรารักเขา ความรักมันทำให้เรากล้าที่จะกอดเขา และการกอดมันทำให้ตัวเราเข้าไปใกล้ชิดเขามากที่สุด มีคนเคยบอกว่าเวลากอดหัวใจเราจะชนกัน เวลากอดใคร มันหมายถึงว่าเราเอาหัวใจไปชนกับเขา และเราส่งพลังงานต่อถึงเขาได้ทันที”
The Story Behind the Piece
“พอเราคิดได้ว่าจะสื่อสารเรื่องราวความรักด้วยการกอด ซึ่งเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดและไม่ต้องลงทุนอะไร มันเป็นสิ่งที่อยู่ในตัวในใจเรา เลยคิดชื่อคอนเซ็ปต์นี้ว่า ‘เมื่อคุณกอดดอกไม้จะบาน’ ในภาพของเราเลยเป็นภาพของคนกอดกันและมีดอกไม้บานออกมาบนหัว บวกกับการมองความรักว่ามีหลายรูปแบบ มีทั้งรักเพื่อน รักแฟน แล้วก็ไม่จำกัดเพศด้วย ไม่ว่าคุณจะรักใครความรักมันสวยงามทั้งหมด จะผู้หญิงรักผู้หญิง ผู้ชายรักผู้ชาย คุณรักหมารักแมว หรือแม้แต่รักตัวเองมันก็คือความรักเหมือนกัน ในภาพของเราเลยมีภาพของทั้งพ่อแม่ลูก คนกำลังท้อง ผู้หญิงกอดผู้หญิง ผู้ชายกอดผู้ชาย หรือแม้กระทั่งรูปของนักรบ มีภาพหนึ่งที่เป็นนักรบโบราณมีรอยสักเต็มตัวเลยนะ ที่เราวาดออกมาเพราะเราอยากสื่อว่าแม้คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังต้องการความรักเหมือนกัน”
Love for Life
“นี่เป็นกฎข้อแรกของการใช้ชีวิตเลยคือ เราต้องมีความรัก เพราะว่ารักมันทำให้มีชีวิตชีวา ความรักมันมีอิทธิพลทุกอย่าง รักในที่นี้ไม่ได้หมายถึงรักแบบแฟนเท่านั้น แต่มันครอบคลุมหลายๆ อย่างในชีวิต สิ่งนี้สอนให้เราอยู่กับชีวิตอย่างสงบ อยากจะบอกคนที่ยังเขินๆ และไม่กล้าแสดงความรักด้วยการกอด ลองเริ่มจากคนข้างๆ ที่สนิทที่สุดก่อน มันเป็นสิ่งที่ดีนะ และกับงานชิ้นนี้ขอแค่เวลาที่คนเดินผ่านไปผ่านมา ไม่ว่าเร่งรีบแค่ไหน แต่แค่มองรูปเรานิดเดียวแล้วเขามีความรู้สึกอยากกลับไปกอดคนที่บ้านจัง แค่นี้เราก็รู้สึกว่างานของเราประสบความสำเร็จแล้วนะ”
“
บ้านอาจจะไม่ได้บอกกับเราตรงๆ ว่าความรักเป็นยังไง แต่มันทำให้เรารู้สึกถึงความรักมากกว่า
”
JEEP JEEP
‘จี๊ป’ – ภาสินี คงเดชะกุล หรือ JEEP JEEP นักวาดภาพประกอบสาวที่ชื่นชอบในการนำสิ่งของรอบๆ ตัวมาตีความหมายได้อย่างลึกซึ้ง ในงานนี้เธอหยิบความทรงจำที่มีต่อ ‘บ้าน’ มาบอกเล่ามุมเล็กๆ ในบ้านที่เราอาจจะหลงลืมไปว่านี่แหละคือความรัก
Collaborating with Love
“ครั้งแรกที่ได้รับการติดต่อมา คิดว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่น่าสนใจมากๆ เพราะปกติจี๊ปจะทำงานเป็นภาพประกอบให้กับแบรนด์นู้น แบรนด์นี้ แต่ครั้งนี้เหมือนเราได้ทำอะไรที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งโปรเจ็กต์นี้เปิดกว้างให้เราตีความ ก่อนที่จะเริ่มทำงานนี้เราก็ไปไล่ดูโฆษณาเก่าๆ ของไทยประกันชีวิตซึ่งก็พูดถึงเรื่องราวความรักที่ซึ้งกินใจอยู่แล้ว แต่งานครั้งนี้ไทยประกันชีวิตได้เปลี่ยนจากหนังโฆษณามาเป็นการทำงานศิลปะกับศิลปิน ซึ่งก็เป็นโจทย์ที่เปิดกว้างให้เราแสดงความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง เราไม่ได้เป็นศิลปินที่ถนัดการวาดคน แต่เราทำให้เห็นว่าสิ่งของก็สามารถสื่อสารความรักให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเข้าใจได้ ว่าความรักในมุมมองหนึ่งเป็นยังไง”
The Meaning of Love
“ส่วนตัวแล้วไม่ได้มีนิยามความรักสำหรับตัวเอง ไม่มีประโยคเด็ดที่พูดถึงความรักโดยเฉพาะ แต่คิดว่าเราสัมผัสความรักได้ด้วยความรู้สึก อย่างตอนแรกที่ได้โจทย์มาให้ตีความคำว่า ‘ให้รักดูแลชีวิต’ ก็คิดอยู่หลายอย่างเหมือนกันว่าจะเล่าเรื่องอะไรเกี่ยวกับความรักได้บ้าง เพราะส่วนใหญ่ในงานของจี๊ปจะไม่ค่อยได้วาดภาพคนมากนัก แต่จะนำสิ่งของมาทำเป็นคาแร็กเตอร์มากกว่า เราเลยคิดว่าจะเชื่อมโยงสิ่งของให้เข้ากับชีวิตมนุษย์ได้ยังไง เรารู้สึกว่าสิ่งของสามารถบอกถึงบุคลิกของแต่ละคนได้”
The Story Behind the Piece
“ทำไมถึงต้องเป็นภาพบ้านเหรอคะ ในวันที่จี๊ปไปดูพื้นที่ที่รถไฟใต้ดิน วันนั้นเราไปค่อนข้างดึกแล้ว ประมาณสองสามทุ่ม ก็รู้สึกว่าข้างบนวุ่นวายมาก แต่พอลงมาข้างล่างกลับสงบกว่า แล้วบรรยากาศตรงนั้นมันทำให้เรานึกถึงตัวเองว่าเวลาเหนื่อยๆ จากงานและกำลังจะกลับบ้าน พอมาถึงที่รถไฟใต้ดินมันเหมือนว่าเป็นรอยต่อที่อีกนิดหนึ่งเราจะกลับถึงบ้านแล้วนะ พอทุกคนที่ลงมาที่รถไฟใต้ดินมันเหมือนทุกคนมีจุดหมายว่าอีกกี่สถานีจะถึงบ้าน เราเลยอยากทำงานศิลปะ ที่ทำให้เขาสัมผัสถึงบรรยากาศของบ้าน เห็นแล้วอยากรีบกลับบ้าน
“อย่างภาพแรกที่เป็นภาพโต๊ะอาหาร เราก็พยายามสื่อให้คนที่เห็นภาพนี้นึกถึงเมนูอาหารที่แม่เคยทำให้เรากิน เมนูนี้พี่เราชอบกิน พ่อเราชอบกินอันนี้ หรือภาพที่เป็นตู้เย็น เราก็นึกว่าพอเรากลับถึงบ้านเหนื่อยๆ แล้วหิว ความสุขใจของเราคือการเปิดตู้เย็นมาแล้วเห็นอาหารที่แม่เตรียมไว้ให้ คือมันมีเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ในบ้านที่บางทีเราไม่สังเกตเห็น แต่มันสื่อถึงความรัก จานที่อาม่าเคยใช้ กับข้าวที่แม่เตรียมไว้ให้กิน หรือแม้แต่เสื้อที่เขารีดให้เราใส่ สิ่งเหล่านี้มันย้ำเตือนความรักที่เรามีต่อกันได้ บ้านอาจจะไม่ได้บอกกับเราตรงๆ ว่าความรักเป็นยังไง แต่มันทำให้เรารู้สึกถึงความรักมากกว่า”
Love for Life
“เราอยากให้คนเดินผ่านงานแล้วเกิดความรู้สึกอะไรบางอย่าง สมมติเพิ่งเลิกจากงานและกำลังเดินกลับบ้าน พอมาเห็นภาพโต๊ะอาหารที่วาด แล้วรู้สึกหิว คิดถึงเมนูที่แม่ชอบทำเลยรีบกลับบ้านดีกว่า นึกถึงคนที่บ้าน คนใกล้ตัว คิดถึงที่บ้านมากขึ้น อยากโทร.หาแม่ หรือแค่ถ่ายภาพไปแล้วส่งให้เพื่อนดู ให้แม่ดู แค่นั้นเราคิดว่างานศิลปะของเราทำงานแล้ว”
“
เราว่าความรักค่อยๆ เปลี่ยนความรู้สึก เปลี่ยนสถานะไปเรื่อยๆ
”
ALEX FACE
ใครที่เคยตามผลงานของ ALEX FACE หรือ พัชรพล แตงรื่น คงรู้ดีว่าเขาเป็นเจ้าพ่อสตรีทอาร์ตเบอร์ต้นๆ ของไทย ที่มีผลงาน โกอินเตอร์มากมาย และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มาพ่นงานศิลปะที่ MRT ซึ่งเขาได้เอาเรื่องราวความรักในวัยเด็ก มาผสมกับช่วงเวลาของการเป็นพ่อคนจนออกมาเป็นผลงานชิ้นนี้
Collaborating with Love
“เรารู้สึกดีมากๆ เลยนะ จากที่เราเคยติดตามหนังโฆษณาของไทยประกันชีวิต มาถึงตอนนี้ไทยประกันชีวิตเลือกใช้งานศิลปะ ใช้งานสตรีทอาร์ตสื่อสารข้อความเหล่านี้ออกไป และแคมเปญ ‘ให้รักดูแลชีวิต’ นั้นพูดสิ่งที่สำคัญกับมนุษย์มากๆ เพราะความรักทำให้เรามั่นคง ทำให้เราพร้อมที่จะเติบโตต่อไปได้ ความรักดูแลชีวิตโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว”
The Meaning of Love
“ขอออกตัวก่อนเลยว่าเราไม่ใช่กูรูเรื่องความรักอะไรเลย (หัวเราะ) เราก็เหมือนทุกคนนี่แหละ โตขึ้นมามีชีวิตตั้งแต่เด็ก เป็นวัยรุ่น เป็นผู้ใหญ่ จนกระทั่งเป็นพ่อ ซึ่งเราคิดว่าความรักมีช่วงพัฒนาการที่แตกต่างกัน เราว่าความรักค่อยๆ เปลี่ยนความรู้สึก เปลี่ยนสถานะไปเรื่อยๆ อย่างตอนที่เราเด็กๆ เรารักพ่อแม่ รักครอบครัว รักญาติพี่น้อง พอเราเป็นวัยรุ่นเราก็อาจมีความรักแบบ puppy love มีความสนใจในเพศตรงข้าม พอเรามีครอบครัวก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ว่าความรักที่มีต่อลูกมันเป็นยังไง เราว่าความรักมันมีความแตกต่างไปเรื่อยๆ แต่ละคนอาจจะมีไม่เหมือนกัน”
The Story Behind the Piece
“เรามองย้อนกลับไปในชีวิตตัวเองว่าความรักที่เรามีตอนเด็กๆ เป็นยังไง ตัวเราเองกับสมัยอดีตที่มีความทรงจำกับคุณย่า เราก็เอาบรรยากาศรอบตัวเหล่านั้นแหละมาครีเอตเป็นผลงาน เสร็จแล้วเราก็ไปดูพื้นที่ว่าเราได้ที่ตรงไหนในรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็มีทั้งบันไดเลื่อน ผนังทางเดิน รูปทรงของกำแพงเป็นโจทย์ที่เราต้องเอามาคิดหมดเลย และ MRT เป็นพื้นที่ที่เราคิดมาตั้งนานแล้วว่าอยากจะทำงานศิลปะที่นี่สักครั้ง เพราะเวลาเราเดินทางไปต่างประเทศ เราจะเห็นรถไฟใต้ดินของเขามีงานศิลปะเต็มไปหมดเลย งานนี้มันเลยน่าสนใจมากๆ
“ถ้าดูจากงานในคอลเล็กชันนี้จะเป็นเรื่องของครอบครัวเสียมากกว่า มันอาจจะมาจากชีวิตเราด้วยตอนนี้ แล้วตัวคาแร็กเตอร์ที่เราทำงานมันก็มาจากลูกสาว คือพอเรามีลูก ลูกก็เป็นเหมือนกระจกที่สะท้อนชีวิตเรา อย่างชิ้นหนึ่งเป็นรูปที่นอนอยู่บนเสื่อแล้วก็มีตัวคาแร็กเตอร์ของเรานอนกอดกัน เราก็ย้อนคิดถึงตอนเด็กๆ ที่เราทอเสื่อกับย่า ซึ่งตอนเด็กๆ เราไม่อยากไปช่วย เราอยากไปวิ่งเล่นซนตามประสาเด็ก แต่พอตอนนี้ย่าเราเสียไปแล้ว มันทำให้เวลาเราเห็นเสื่อ เราหวนคิดถึงช่วงเวลาที่เราไม่ชอบตอนเด็กๆ ที่ตอนนี้กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราได้ทำอะไรแบบนั้นกับย่า เราเลยเอาความรู้สึกพวกนี้ เอาวิถีชีวิตไทยๆ มาครีเอตเป็นชิ้นงานหมดเลย”
Love for Life
“เราอยากให้ทุกคนที่มาดูสามารถเอาประสบการณ์ส่วนตัวไปแชร์กับมันได้ เราว่างานศิลปะควรจะมีพื้นที่ตรงกลางที่สามารถสื่อสารกันมากกว่า เราไม่อยากให้คนที่มาเห็นต้องมองแบบเรา ต้องคิดเหมือนเรา เอาประสบการณ์ส่วนตัวไปตีความก็ได้ ไม่มีผิดไม่มีถูก เพราะทุกคนไม่เหมือนกัน เราว่าศิลปะมันควรทำหน้าที่ตรงนั้น หรืออย่างน้อยให้คนที่เดินมาเห็นแล้วรู้สึกแฮปปี้ มีความสุขกับวันที่เครียดๆ แค่นั้นก็พอแล้ว ไม่ต้องคิดว่าเห็นงานชิ้นนี้แล้วเปลี่ยนชีวิตอะไรขนาดนั้น (หัวเราะ)”
ให้รัก ดูแลชีวิต