ติดดินติดน้ำ

สองสาวพี่น้องที่บอกลาเมืองหลวงและกลับบ้านสร้างโฮมสเตย์ เพื่อคงภาพในวัยเด็กให้เด่นชัดอีกครั้ง

ถึงแม้สองพี่น้อง ชีวา และ ธาริณี แย้มบุญยิ่ง จะไม่ใช่คนจันทบุรีมาตั้งแต่เกิด แต่ก็ยังมีสายใยความผูกพันบางอย่างที่เชื่อมโยงหญิงสาวทั้งสองคนไว้กับเมืองนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเธอทั้งคู่ตัดสินใจหยุดชีวิตเร่งรีบในเมืองใหญ่ และจับมือช่วยกันทำโฮมสเตย์ชื่อว่า ติดดินติดน้ำ เพราะอยากคงความอบอุ่นจากกครอบครัว เหมือนสมัยยังอยู่ด้วยกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา และไม่ลืมที่จะเผื่อแผ่ไอแห่งความสุขนี้ให้กับคนที่กำลังมองหาสถานที่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สำหรับเติมพลังกายที่ลดต่ำจนถึงขีดแดง ให้กลับมาสดชื่นอีกครั้ง

ติดดินติดน้ำ

 

     เราทั้งคู่เกิดที่สระบุรี แต่คุณแม่เป็นคนจันทบุรี ช่วงที่พวกเราย้ายไปทำงานในกรุงเทพฯ คุณแม่อยากกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด ก็เลยมาซื้อบ้านริมน้ำตรงนี้ จนต่อมาแกบอกว่าย้ายมาอยู่ที่จันทบุรีด้วยกันไหม ตอนนั้นตัดสินใจยากอยู่เหมือนกัน เพราะเราไม่มีเพื่อนอยู่ที่นี่เลย

     แต่หลังจากที่แม่ย้ายมาอยู่ที่นี่เต็มตัว เราก็เริ่มรู้สึกว่ากลับมาเจอกันน้อยลง สิบปีที่ผ่านมาตั้งแต่พ่อกับแม่มาอยู่ที่นี่กว่าเราจะได้กลับมาหากันก็เป็นช่วงวันสงกรานต์ นั่นจึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราทั้งคู่คิดว่าคงต้องย้ายกลับมาอยู่กับพ่อแม่แล้ว

 

ติดดินติดน้ำ

 

     พอย้ายกลับมาอยู่ที่จันทบุรี ตอนแรกเราต้องสร้างสังคมก่อน (หัวเราะ) เพราะเราไม่รู้จักใครเลย เพื่อนก็ไม่มี เริ่มจากไปขายของที่ตลาด ซึ่งการขายของทำให้เราได้เพื่อนใหม่เยอะมาก (หัวเราะ)

     ระหว่างนั้นพวกเราเริ่มหาตัวเองว่าอยากทำอะไร พอเริ่มคิดกันได้ก็ตัดสินใจว่า ขอพ่อกับแม่ใช้บ้านทำเป็นโฮมสเตย์ได้ไหม เพราะตอนที่ขายของในตลาดถึงแม้ว่าเราจะขายดี แต่รายได้ก็หมดไปกับค่าเช่าที่ เราอยากทำอะไรที่ลงทุนแล้วไม่ต้องเจ็บตัวและเราดูแลได้ ประกอบกับเวลาที่เพื่อนมาเที่ยวที่บ้าน พวกเขาจะบอกกับเราว่า ชอบนะ ประทับใจ อยากมาบ่อยๆ ก็เลยเริ่มทำห้องพักจากเดิมที่เปิดให้แขกเข้ามาพักสองห้อง จนตอนนี้ทำบ้านขึ้นมาอีกหลังแยกออกมา

 

ติดดินติดน้ำ

 

     บ้านของเราอยู่ริมน้ำ ก็จะได้ทำความรู้จักกับชาวบ้านที่ขับเรือผ่านไปผ่านมาทุกวัน วันไหนที่เขาจับกุ้งหรือจับปลาได้เยอะ เขาก็จะแบ่งมาขายให้เรา เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน ส่วนคนอื่นๆ ภายในซอยก็ทำให้เรารู้สึกอุ่นใจ เพราะรู้จักกันหมด และพวกเขาก็จะคอยเป็นหูเป็นตาให้กับเราด้วย เวลามีรถจากต่างถิ่นขับเข้ามา เขาก็จะรู้ว่าเป็นแขกที่เข้ามาพัก ส่วนเราก็จะพยายามทำให้บ้านหลังอื่นๆ ที่อยู่ด้วยกันเดือดร้อนน้อยที่สุด

     อย่างคุณลุงที่อยู่ตรงสวนถัดไป ปกติแกจะเดินมาหาพ่อตอนเช้าๆ เวลาที่มีแขกแกก็จะไม่กล้าเดินเข้ามา เพราะเป็นคนขี้อาย เราก็จะบอกแกว่า ไม่ต้องอายนะเดินมาได้เลย บางวันแกก็ทำแกงมาแบ่งให้พวกเรากินกันด้วย

 

ติดดินติดน้ำ

 

     เราพูดได้เต็มปากเลยว่าตอนนี้ชีวิตของพวกเราไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากมายแล้ว แต่ก็ยังมีบ้างที่ต้องคิดต่อว่าจะทำอะไรต่อไป คนที่นี่อาจจะคิดกันว่าจันทบุรีเป็นเมืองเกษตรกรรม รู้สึกว่าทำอะไรไม่ค่อยได้ ต่างกับเราสองคนที่เพิ่งมาอยู่ได้แค่ 3 ปี จึงทำให้เรารู้สึกว่าอยากทำอะไรมากมายเต็มไปหมดเลย (หัวเราะ)

     การได้กลับมาอยู่กับครอบครัว เราสองคนมีความสุขมาก อากาศที่นี่ก็ดี อาหารการกินก็สมบูรณ์ การเดินทางสะดวกสบาย ตอนแรกๆ ที่มาอยู่ก็มีเหงาบ้างเพราะไม่มีเพื่อน แต่พอเรามาทำโฮมสเตย์ กลายเป็นว่าเราได้เจอเพื่อนบ่อยขึ้น เพราะเพื่อนๆ ที่กรุงเทพฯ จะลงมาหาเราเสียเอง (หัวเราะ)

 

ติดดินติดน้ำ