ภาพผู้คนคลาคล่ำที่ชานชาลาสถานีรถไฟ เสียงโหวกเหวกที่สถานีขนส่ง ความวุ่นวายที่สนามบิน คือเสน่ห์ของการเริ่มต้นเทศกาลสงกรานต์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกปี เมื่อความวุ่นวายถูกนำออกไปนอกเมือง กลับคืนสู่ถิ่นฐานลำเนาของผู้คนที่หลั่งไหลมาใช้ชีวิตร่วมกันในเมืองใหญ่แห่งนี้ ร่วมอำลากรุงเทพมหานครที่แสนวุ่นวายไปพร้อมกับเรา ก่อนเมืองใหญ่จะร้างไร้ผู้คน ก่อนถนนจะเงียบเหงา
“บ๊ายบาย เมืองกรุง แล้วเราจะกลับมาพบกันใหม่”
WIRELESS ROAD
ถนนวิทยุถือเป็นอีกหนึ่งย่านถนนน่าเดิน จากห้างสรรพสินค้าหรูหราและอาคารสำนักงานของบริษัทชั้นนำระดับโลก ดีไซน์สวยงามแปลกตาย่านเพลินจิต ค่อยๆ เชื่อมเข้าสู่ความสงบเงียบน่าเกรงขามของเหล่าสถานทูตประเทศต่างๆ ที่ตั้งเรียงรายอยู่บนถนนเส้นนี้
นอกจากร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่เขียวชอุ่มตลอดสองฟากฝั่งถนนที่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมตั้งแต่ถนนพระราม 4 จรดถนนสุขุมวิทในช่วงกลางวัน ถนนวิทยุยังเต็มไปด้วยสีสันของแสงไฟ จากบานหน้าต่างนับร้อยนับพันที่ส่องวับๆ แวมๆ ละลานตาบนตึกสูงระฟ้าในช่วงเวลาโพล้เพล้ ริ้วแสงสุดท้ายของวันพาดผ่านความคึกคักจอแจของรถราและผู้คน เห็นเป็นสีส้มอมน้ำเงินซึ่งขมุกขมัวไปด้วยม่านหมอก ของเมฆฝนชุ่มฉ่ำ ความมืดโรยตัวลง หยาดฝนเม็ดเล็กเม็ดน้อยค่อยๆ พร่างพรมลงมาช้าๆ เสมือนการบอกลาดวงอาทิตย์ที่ซ่อนตัวอยู่อย่างอาลัยอาวรณ์ แล้วเราจะกลับมาพบกันใหม่ ในวันที่ฟ้าเป็นใจและสดใสอย่างเคย
PLOENCHIT
เพลินจิตเป็นย่านที่อยู่ระหว่างสยามและอโศก เราแทบไม่ได้แวะเวียนมาแถบนี้เลยจนกระทั่งมีห้างใหญ่มาเปิดที่นี่ ถ้าใครเดินบนสกายวอล์กที่เชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเพลินจิตกับห้างสรรพสินค้าตรงนั้น คงจะเคยหยุดพักชมวิวที่ทอดยาวไปยังถนนวิทยุ และพิจารณาแนวต้นไม้เขียวใหญ่ อยู่สลับกับถนนที่เต็มไปด้วยรถราในยามเย็น นั่นคือเพลินจิตสำหรับคนเดินเท้าอย่างเราๆ
แต่เพลินจิตของคนที่ทำงานบนตึกสูงก็เป็นอีกแบบ การมองลงมาแล้วเห็นทางด่วนที่แน่นขนัด ไปด้วยไฟของรถยนต์ก็สวยงามไม่น้อย ขณะเดียวกันก็ทำให้ท้อใจเมื่อนึกถึงการเดินทางกลับบ้านด้วยเช่นกัน
การถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกในหน้าฝนไม่ใช่เรื่องง่าย เพลินจิตในวันนั้นฝนตกหนักไม่เหมือนที่คิดไว้ตอนแรก แต่ไม่ว่าจะเรื่องอะไรในชีวิต เราก็ไม่สามารถได้ทุกอย่างตามที่ใจคิดอยู่แล้ว ถ้าวันไหนฟ้าฝนจะไม่เป็นใจบ้าง จะต้องเปียกปอนบ้างก็ช่างปะไร เพราะสุดท้ายแล้วความไม่แน่นอนอาจเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ชีวิตมีสีสันก็ได้
YAOWARAT
การได้กินอาหารอร่อยๆ นับเป็นการเติมความสุขอีกทางหนึ่งให้ชีวิต และย่านที่เรียกได้ว่าเป็นราชาแห่งสตรีทฟู้ดของกรุงเทพฯ คงหนีไม่พ้นถนนเยาวราช ที่ใครๆ ก็มักปฏิเสธที่จะผ่านถนนเส้นนี้ในช่วงเย็น
แต่หากลองเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ตั้งต้นที่สถานีหัวลำโพงก่อนจะค่อยๆ ลัดเลาะมาตามทางเดินเรื่อยๆ คุณจะพบกับการเดินทางในรูปแบบใหม่ที่พาคุณมุ่งไปสู่ถนนที่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของเหล่านักชิม ที่นี่มีร้านอาหารนานาชนิดให้เลือกตั้งแต่อาหารง่ายๆ ในราคาไม่แพงไปจนถึงเมนูที่ระดับฮ่องเต้ยังต้องเรียกหา
สำหรับคนที่เรื่องกินเป็นงานรอง ช่วงเย็นของถนนแห่งนี้ก็ถือเป็นสถานที่เดินเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน ทั้งแสงไฟสีเหลืองแดงที่ตัดกันไปมาของป้ายไฟต่างๆ รวมถึงสถานที่ทางวัฒนธรรมอย่างวัดวาและสถาปัตยกรรม อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของย่านนี้ ล้วนทำให้ถนนสายนี้คึกคักที่สุด ก่อนจะปิดท้ายด้วยขนมปังกรอบไส้ทะลักเจ้าดัง ที่ซื้อไปเป็นของฝากเพื่อนที่ทำงานในวันรุ่งขึ้นได้อีกด้วย
THATIEN
ท่าเตียน เป็นย่านที่เราสามารถมองเห็นท้องฟ้า ผืนน้ำ และแผ่นดิน อาบไล้แสงอรุณยามเช้าแห่งการเริ่มต้น และแสงอาทิตย์อัสดงช่วงพลบค่ำที่สวยงามจับใจ ทั้งยังเป็นย่านประวัติศาสตร์ที่รักษาความเก่าแก่แต่เก๋ไก๋ไว้ได้ดี บนการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตามสภาพสังคมยุคปัจจุบัน
หากเดินลัดเลาะตามซอกซอย เราจะเห็นที่พักและร้านรวงต่างๆ ตกแต่งแบบร่วมสมัย ซุกซ่อนตัวอย่างเคารพและกลมกลืนไปกับบรรยากาศโดยรอบ แว่วเสียงบทสนทนาครื้นเครงหลายภาษาสลับกับเสียงแก้วกระทบกันลอยมาตามสายลมเย็นที่หอบหิ้วไอชื้นของเมฆฝนมาด้วย
มองข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังฝั่งธนบุรี เห็นพระปรางค์วัดอรุณฯ ยังคลาคล่ำไปด้วยเหล่านักท่องเที่ยว ที่ไม่หวั่นเกรงต่อพายุฝนที่กำลังก่อตัวอยู่ไกลๆ เพื่อรอชมแสงสุดท้ายของวันท่ามกลางบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน ซึ่งก็นับว่าคุ้มค่าที่เฝ้ารอ
SATHON
ช่วงเย็นของสาทรเป็นสิ่งที่เรามักหลีกเลี่ยงเสมอ ถ้าไม่จำเป็นต้องไปจริงๆ ทั้งรถบนถนนและผู้คนจำนวนมาก ตั้งแต่เด็กนักเรียนไปจนถึงซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่ เร่งรีบกลับบ้านหลังจากวันทำงานอันยาวนาน นี่ยังไม่ต้องพูดถึงการใช้บริการรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดิน หรือแม้แต่วินมอเตอร์ไซค์ที่ต่อคิวกันยาวเหยียด
แต่เอาเข้าจริงๆ การได้มานั่งมองสาทรนิ่งๆ ตอนเย็นๆ กลับเพลิดเพลินอย่างบอกไม่ถูก ได้เห็นผู้คนถือกระเป๋าเอกสารสีดำขลับ กลุ่มเพื่อนหยอกล้อกันเหมือนสมัยเรียนไม่มีผิด และคู่รักคุยกันว่าเย็นนี้จะไปกินอะไรดี ถ้าไม่นับแสงสุดท้ายของวัน ที่แทรกระหว่างตึกระฟ้าน้อยใหญ่ เสน่ห์ของสาทรยามเย็นก็คงจะเป็นผู้คนนี่แหละ
เคยมีใครบอกไว้ว่าผู้คนทำให้สถานที่มีชีวิต คงจะจริงอย่างที่เขาว่า เพราะถ้าลองมาสาทรวันเสาร์อาทิตย์จะพบว่าเหมือนกับโรงเรียนในวันหยุด และสาทรตอนเย็นก็คงคล้ายๆ กับช่วงเวลาหลังเลิกเรียน ที่ต่อให้จะอึกทึกและวุ่นวายแค่ไหน เราก็ตั้งตารอให้มันมาถึงเร็วๆ อยู่ดี
SAPHAN TAKSIN
ถ้าจะให้พูดถึงนิยามของย่านตากสินเป็นคำสั้นๆ คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะการเดินเล่นยามเย็นในย่านนี้ นำเราไปพบกับแม่น้ำสายใหญ่ที่ทอดตัวออกไปแบ่งเมืองหลวงแห่งนี้เป็นสองฝั่ง ริมสองฝั่งแม่น้ำที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้าง บ้านพักอาศัย สลับกับตึกสูงตามแบบสมัยนิยม มีเรือข้ามฝากคอยพาผู้คนสัญจร ข้ามฝั่งเจ้าพระยาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย รถยนต์หลายร้อยคันกำลังเดินทางฝ่าการจราจรหนาแน่น ขณะที่รถไฟฟ้าเคลื่อนตัวมาพร้อมเสียงฮึมฮัมของเครื่องยนต์มาเป็นระยะ ชวนให้คิดว่านี่อาจเป็นจุดเดียวในกรุงเทพฯ ที่เราจะได้เห็นระบบขนส่งทุกรูปแบบพร้อมๆ กัน
หลังจากเดินสำรวจกันจนพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ทำให้คิดได้ว่า ที่จริงเสน่ห์ของสะพานตากสินอาจไม่ได้อยู่ที่คาแร็กเตอร์โดดเด่น หรือความทันสมัยแบบย่านอื่น แต่คงเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของผู้คนจากทั้งสองฝั่งกับวิวแม่น้ำสายหลักที่มีท้องฟ้าสีสวยเป็นพื้นหลัง จนทำให้เราต้องหยุดมองทุกครั้งที่ผ่านมา