“ท่องไปบนดวงดาว ก้าวลงบนดวงจันทร์ แต่เราคงพบกัน ด้วยยานของเวลา…” ท่อนเริ่มต้นของเพลง พบกันบนดวงดาว อาจจะสะกิดให้เราร้องอ๋อกันไม่มากก็น้อย แต่เชื่อว่าหลายๆ คนคงทำหน้างงๆ เมื่อบอกว่าเพลงนี้เป็นของวงรอยัลสไปรท์ส วงดนตรีสตริงคอมโบที่สุดโด่งดังในช่วงปี พ.ศ. 2512 นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้เราเชิญ สุนทร สุจริตฉันท์ นักร้องนำของวง มานั่งเล่าเรื่องราวของยุค 70s ว่าในตอนนั้นประเทศไทยมีบรรยากาศอย่างไร และคนเขาฮิตอะไรกันบ้าง
“
วัยรุ่นในยุคนั้นจะยึดหลัก 5 ย ถ้าเป็นคนไม่ค่อยไฮโซก็จะเป็นผมยาว เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้ายาง และสะพายย่าม
”
70s ในความทรงจำของ สุนทร สุจริตฉันท์
ประเทศไทยในตอนนั้นอยู่ในช่วงของสงครามเวียดนาม ผมจะเล่นดนตรีในช่วงกลางคืน และตอนกลางวันก็ไปทำงานประจำ ต่อมาก็ย้ายวงไปเล่นกับวงดนตรีที่ใหญ่ขึ้น เดินสายไปเล่นตามแคมป์ของฝรั่งที่อยู่ทั่วประเทศไทย เราก็จะได้ของดีๆ จากฝรั่งที่ไม่มีขายในเมืองไทยอย่างช็อกโกแลต M&M สบู่เซฟการ์ด และเครื่องเสียงที่เอามาประกอบกัน เวลาฟังเพลงจะได้ยินเสียงที่ใสปิ๊ง ใช้หูฟังอย่างดีเพื่อแกะเนื้อเพลง และนำไปร้องให้ได้อารมณ์เดียวกับต้นฉบับ เพราะในกรุงเทพฯ ผู้คนจะฟังแต่เพลงสากลล้วนๆ
ถ้าใครร้องเพลงสากลได้เหมือนกับต้นฉบับมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้รับความนิยมมากเท่านั้น ประเทศไทยในยุคนั้นถือเอาฝรั่งเป็นเกณฑ์ เราต้องทำให้ได้เหมือนเขา เล่นเหมือน ทำเหมือน แต่งตัวเหมือน แฟชั่นเหมือน แต่งตัวสไตล์ Mod ขากางเกงของผมมีเส้นรอบวง 28 นิ้ว และรองเท้าส้นสูงเป็นตึกเลย
เกิดเป็นวัยรุ่น 70s
สถานที่ฮิตของวัยรุ่นคือแถวบางลำพู และวังบูรพา ห้างไทยไดมารูจะเป็นที่แรกๆ ของประเทศไทยที่มีบันไดเลื่อน อยากกินเค้กหรือคุกกี้ดีๆ หน่อยก็ต้องไปซื้อที่โรงแรมเอราวัณ สไตล์ของวัยรุ่นในยุคนั้นจะยึดหลัก 5 ย ถ้าเป็นคนไม่ค่อยไฮโซก็จะเป็นผมยาว เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้ายาง และสะพายย่าม ถ้าเป็นคนเก๋าๆ หน่อยก็จะใช้กระเป๋ายี่ห้อ Charles Jourdan เสื้อคอเต่า กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบหุ้มข้อยี่ห้อต่างๆ ผู้หญิงก็จะใส่กระโปรงสั้นกับเข็มขัดที่รัดแน่นๆ เซ็กซี่มากๆ เลย ซึ่งศัพท์ในสมัยนั้นคือ แต่งตัวได้เปิ๊ดสะก๊าดมาก
ยุคทองของรอยัลสไปรท์ส
พอเราได้เข้ามาอยู่กับวงรอยัลสไปรท์ส ความเกี่ยวพันกับผู้คนก็ยิ่งมากขึ้น ใครจะเปิดตัวภาพยนตร์ก็ต้องเรียกเราไปเล่นเปิดงาน ใครจะแก้บนกับพระพรหมเอราวัณก็ต้องให้เราแสดงดนตรีแก้บน รอยัลสไปรท์สในตอนนั้นคือมหรสพที่ทุกคนให้ความยอมรับ วงดนตรีสตริงคอมโบอันดับหนึ่งของประเทศไทยในตอนนั้นคือวงดิ อิมพอสซิเบิล รอยัลสไปรท์สคือที่สอง แต่ช่วงนั้นวงดิ อิมพอสซิเบิล ต้องไปเปิดการแสดงที่ฮาวาย ทำให้ตอนนั้นใครๆ ต่างก็เรียกหารอยัลสไปรท์ส
ของเด็ด 70s
มีการสร้างห้างเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ภายในห้างมีลานโรลเลอร์สเกตให้วัยรุ่นได้เข้าไปเล่น ซึ่งเป็นความเท่มากๆ ถ้าคนที่แนวๆ หน่อยก็จะเล่นกีตาร์โปร่ง และมีหนังสือ The Guitar Mag พกติดตัว แล้วก็มีเหตุบ้านการเมืองเกิดขึ้นเป็นระยะ ซึ่งพวกเราต้องไปเล่นดนตรีตามไนต์คลับ ก็ต้องเจอกับช่วงเคอร์ฟิวที่เขาห้ามออกจากที่พัก เราก็กลับบ้านไม่ได้ เป็นช่วงที่ทรมานมากๆ ต้องอยู่ในร้านจนถึงเช้าถึงค่อยกลับ คนดูก็ไม่กล้าออกจากบ้าน แต่เราก็ต้องไป บางวันต้องไปเปิดการแสดงตั้งแต่เช้าก็มี
70s – The School of Life
เรื่องราวของเมื่อวานจะเป็นครูให้กับเรา คอยบอกเราให้ก้าวไปในวันพรุ่งนี้อย่างมีความสุขและยั่งยืนได้ ประสบการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผม ทั้งการเป็นนักดนตรี นักธุรกิจ นักจัดรายการวิทยุ พิธีกร และงานอื่นๆ ยุคของผมเป็นยุคที่นักดนตรีเปลี่ยนความคิด ตั้งใจศึกษาหาความรู้ ดังนั้น จะเห็นว่านักดนตรีในยุคผมได้ดีกันเป็นส่วนใหญ่ ผมก็ไปเรียนรู้เรื่องการตลาด และหันมาดูแลตัวเองอย่างเต็มที่ ถ้าเราทำตัวแบบเดิมๆ ชีวิตก็จะมีแต่แย่ลง เพราะวันหนึ่งถ้าเราไม่อยู่แล้ว ผลงานของเราก็ยังคงอยู่
และเพราะวันนี้เรายังอยู่ ผมจึงต้องยืนหยัดเพื่อทำให้สิ่งดีๆ ที่อยู่ในตัวเราสามารถแบ่งปันและสะท้อนตัวตนของเราได้อีกครั้ง ผมคิดมาตั้งแต่แรกแล้วว่าตัวเองต้องประคองสุขภาพ และถ้ามีโอกาสผมก็จะบอกทุกคนว่าลองเปลี่ยนตัวเองกันดู เลิกดื่ม หันมาออกกำลังกาย แล้วคุณจะกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรง และสามารถกระโดดโลดเต้นบนเวทีคอนเสิร์ตได้เหมือนผม
ภาพ: กีรติ เจียมอัชฌาสัย
ขอบคุณ Studio PAPAYA ที่เอื้อเฟื้อสถานที่
+ คุยกับ ‘สวีทนุช’ ถึงอดีตอันหอมหวานในยุค 60s
+ กลับไปตีสนิทกับ ‘ป้าตือ’ สมัยกำลังโตเป็นสาวสะพรึงแห่งยุค 80s